ญาติเหยื่อขอประหารสถานเดียว หลัง'รองเจ้าอาวาส'ทำแผนฆ่าโบกปูน

ญาติเหยื่อขอประหารสถานเดียว หลัง'รองเจ้าอาวาส'ทำแผนฆ่าโบกปูน

ญาติเหยื่อซัดไม่สะทกสะท้าน สวดศพรับปัจจัยเป็นค่ารถหลบหนีอีก เรียกร้องประหารสถานเดียว "รองเจ้าอาวาส" หลังทำแผนฆ่าโบกปูน โมโหถูกทวงค่าไก่ชน500บาท

กรณีพระสงกรานต์ ปริสุทโธ หรือนายสงกรานต์ สินไชย อายุ 41 ปี รองเจ้าอาวาสวัดศรีบุญเรือง บ้านหนองแคน ต.โนนสูง อ.เมือง จ.อุดรธานี ก่อเหตุสะเทือนขวัญ ใช้ขวานสับคอฆ่านายวิชาญ พรหมมินทร์ อายุ 44 ปี หนุ่มเลี้ยงวัว บ้านหนองโศกดาว ต.โนนสูง อ.เมือง จ.อุดรธานี เสียชีวิตก่อน

เมื่อเวลา 09.45 น. วันที่ 24 ต.ค. 60 ที่วัดศรีบุญเรือง พล.ต.ท.สุรชัย ควรเดชะคุปต์ ผบช.ภ.4 พล.ต.ต.เจริญวิทย์ ศรีวนิชย์ พล.ต.ต.บุญลือ กอบางยาง รอง ผบช.ภ.4 พล.ต.ต.พีระพงศ์ วงษ์สมาน ผบก.ภ.จว.อุดรธานี พล.ต.ต.ยรรยง เวชโอสถ ผบก.สส.ภ.4 พ.ต.อ.ภูมิวิทย์ เวชกามา ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี พ.ต.อ.วิธ มุทธสินธุ์ ผกก.สส.ภ.จว.อุดรธานี ควบคุมตัว นายสงกรานต์ฯ เพื่อทำแผนประทุษกรรมประกอบคำรับสารภาพ โดยมีญาติผู้ตาย ชาวบ้านที่ทราบข่าวกว่า 400 คน เดินทางมารอดูการทำแผน มีตำรวจชุดคอมมานโด ชุดควบคุมฝูงชน ตำรวจในและนอกเครื่องแบบ กว่า 200 คน ดูแลความสงบเรียบร้อย ซึ่งทางตำรวจได้ชี้แจงทำความเข้าใจกับญาติและชาวบ้าน ไม่ให้ใช้ความรุนแรง รับปากจะดำเนินคดีส่งฟ้องให้เร็วที่สุด

เมื่อตำรวจควบคุมตัวนายสงกรานต์ ออกจากรถ ชาวบ้านได้กรูเข้ามาด่าและสาปแช่ง ด้วยถ้อยคำหยาบคาย ส่วนมากจะบอกว่า เสียดายที่นำอาหารดีๆ มาให้ฉัน นึกว่าจะเป็นพระดี โดย นายสงกรานต์ มีหน้าที่เรียบเฉยไม่สะทกสะท้าน และนำตัวทำแผนที่ จุดแรก บนกุฎิไม้ชั้นเดียวยกพื้นสูง ซึ่งเป็นจุดที่นายสงกรานต์ นั่งดื่มเหล้ากับลูกศิษย์วัด นายบี และนายซี นามสมมติ อายุ 15 ปี ซึ่งตอนนั้น นายวิชาญ ผู้ตายขึ้นไปทวงเงินค่าไก่ชน จำนวน 500 บาท กับนายสงกรานต์ฯ แต่นายสงกรานต์ฯ ไม่จ่ายให้ และได้ชกผู้ตายล้มลง ก่อนสั่งให้นายบีและนายซี ลูกศิษย์รุมกระทืบจนสลบ จากนั้นนายสงกรานต์ฯ ได้นำขวานมาฟันนายวิชาญฯ ที่คอ ใบหน้า และศีรษะ จนเสียชีวิต ที่บริเวณหน้าบันไดข้างบนกุฎิ

จุดที่ 2 เป็นบ่อเกรอะบริเวณส้วมหลังกุฎิที่ติดกับศาลาใหญ่ในวัด ซึ่งนายสงกรานต์ฯ ได้นำขวานที่ใช้ก่อเหตุมาทิ้งไว้ โดยทางตำรวจได้นำรถสูบส้วมมาสูบสิ่งปฏิกูลออกจนหมด พบขวานอยู่ใต้บ่อเกรอะ

และ จุดที่ 3 นำตัวไปชี้บริเวณฝังศพที่ที่ดินว่างหลังวัด ซึ่ง นายสงกรานต์ ให้การรับสารภาพกับ พล.ต.ท.สุรชัย ผบช.ภ.4 ว่า สาเหตุที่ต้องลงมือฆ่า นายวิชาญ เพราะโมโหที่มาทวงเงินค่าไก่ชน 500 บาท ซึ่งเป็นไก่ของผู้ตาย แต่มีคนนำมาขายให้ แต่ตนได้นำไปต้มกินแล้ว คนที่นำมาขายได้มาทวงเงินและทะเลาะกันไปหลายรอบแล้ว แต่พอผู้ตายที่เป็นเจ้าของไก่ชนมาทวงซ้ำอีก ตนจึงโมโห และลงมือทำร้ายรางกาย และใช้ขวานฟันจนนายวิชาญตาย โดยนายบีและนายซี เด็กวัดทั้ง 2 และสามเณรเอ ไม่ได้ร่วมฆ่า เป็นคนลงมือเพียงคนเดียว

นางเพ็ญศรี ไชยศรี อายุ 54 ปี ญาติของนายวิชาญ ผู้ตายเผยว่า รับไม่ได้ที่พระสงฆ์ที่ตนกราบไหว้ทุกวันเป็นฆาตกร เพราะขณะที่ญาติได้ติดตามหาผู้ตาย และเข้ามาตามหาภายในวัด ก็ได้พบกับพระสงกรานต์ กำลังยืนกวาดลานวัดอยู่หน้าเมรุ ยังมีหน้ามาสอบถามตนอีกว่า พบผู้ตายหรือยัง แต่ตนและญาติไม่ได้เดินไปบริเวณหลังวัด หลังจากก่อเหตุแล้วยังสั่งหินลูกรังมาถมทับหลุมศพ และโปกปูนทับอีก และยังปฎิบัติกิจของสงฆ์รับนิมนต์ไปตามที่ต่าง ๆ แบบไม่สะทกสะท้าน ล่าสุดไปสวดศพรับปัจจัยเป็นค่ารถหลบหนีอีก

“ไม่รู้ว่าจิตใจทำด้วยอะไร เพราะขณะก่อเหตุยังเป็นพระสงฆ์ ห่มผ้าเหลืองอยู่ จิตใจช่างอำมหิต ยิ่งรู้ว่าพระดื่มเหล้าจนเมาขาดสติ ถือว่าไม่ใช่พระสงฆ์แล้ว และเชื่อว่าไม่เมาแค่สุรา อาจจะเมาอย่างอื่นก็เป็นได้ จึงอยากเรียกร้องให้ประหารชีวิตสถานเดียว ให้ตายตกไปตามกัน จึงจะสาสม”

จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ควบคุมตัวนายสงการนต์ฯ ไปทำการสอบสวนเพื่อเติม โดยเบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อหา “ฆ่าคนตายโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และ ลอบฝัง ซ่อนเร้น ย้าย หรือทำลายศพ"