"โรนัลโด"คว้ารางวัลนักฟุตบอลยอดเยี่ยมฟีฟ่า

     งานประกาศรางวัล "เบสต์ ฟีฟ่า อวอร์ด" ที่จัดขึ้น ณ ลอนดอน พาลาเดียม กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ วานนี้ (23 ต.ค.) ไฮไลต์ของงานอยู่ที่รางวัลนักฟุตบอลชายยอดเยี่ยม ที่มีชื่อเข้าชิง 3 คนประกอบด้วย คริสเตียโน่ โรนัลโด หวัหอก เรอัล มาดริด, ลีโอเนล เมสซี แนวรุก บาร์เซโลน่า และ เนยมาร์ ดาวเตะ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง

    ผลปรากฏว่าผู้ที่ได้รับรางวัลดังกล่าวไปครอง คือ "ซีอาร์ เซเว่น" ด้วยคะแนนโหวตถึง 43.16 เปอร์เซ็นต์ หลังทำผลงานได้อย่างสุดยอด ด้วยการคว้าดับเบิลแชมป์ร่วมกับ "ราชันชุดขาว" ทั้ง ลา ลีกา และยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก รวมถึงสถิติส่วนตัวที่แข้งวัย 32 ปีรายนี้ทำไป 45 ประตูในปี 2017 โดยแบ่งเป็น 34 ประตูกับ เรอัล มาดริด และอีก 11 ประตูกับทีมชาติโปรตุเกส

    สำหรับเจ้าของรางวัลบัลลง ดอร์ 4 สมัย เคยได้รางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของฟีฟ่ามาแล้วในปี 2008 เมื่อครั้งที่ยังใช้ชื่อว่า "ฟีฟ่า เวิลด์ เพลเยอร์" จากนั้นเมื่อ ฟีฟ่า แยกมาตั้งรางวัลของตัวเองในชื่อ "เดอะ เบสต์" เมื่อปีที่แล้ว ก็เป็น โรนัลโด ที่คว้าโทรฟี่ใหม่ไปครองเป็นคนแรก

    หลังคว้ารางวัลดาวเตะวัย 32 ปี กล่าวว่า "ขอบคุณทุกคนที่โหวตให้กับผม ผมอยากให้ เลโอ (เมสซี่) กับ เนย์มาร์ มายืนอยู่ตรงนี้ด้วย ผมอยากจะขอบคุณ เรอัล มาดริด ที่ให้การสนับสนุนมาตลอด เรามาอยู่ที่นี่ที่ อังกฤษ เป็นครั้งแรก และผมก็ได้รางวัลนี้เป็นสมัยที่สองติดต่อกัน ซึ่งมันถือเป็นช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยมสำหรับผม ผมขอขอบคุณแฟนๆ ของผมทั่วโลก ผมปลื้มมาก และมีความสุขสุดๆ"

     โดย โรนัลโด เริ่มต้นอาชีพการค้าแข้งกับ สปอร์ติง ลิสบอน ในปี 2002 ก่อนจะโชว์ฟอร์มยอดเยี่ยมจนได้ย้ายมาอยู่กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เมื่อปี 2003 จากนั้นเขาก็รับใช้ "ปีศาจแดง" ถึง 7 ปี จนย้ายมาอยู่กับ เรอัล มาดริด ในปี 2009 ด้วยค่าตัว 80 ล้านปอนด์จนถึงปัจจุบัน

ส่วนรางวัลอื่นๆ มีดังนี้

-รางวัลทีมยอดเยี่ยม : จานลุยจิ บุฟฟ่อน - ดานี่ อัลเวส, มาร์เซโล่, เซร์คิโอ รามอส, เลโอนาร์โด้ โบนุชชี่ - ลูก้า โมดริช, โทนี่ โครส, อันเดรส อีเนียสต้า - ลีโอเนล เมสซี่, เนย์มาร์, คริสเตียโน่ โรนัลโด้

- รางวัลโค้ชยอดเยี่ยม : ซีเนดีน ซีดาน กุนซือ เรอัล มาดริด

- รางวัลผู้รักษาประตูยอดเยี่ยม : จานลุยจิ บุฟฟ่อน ผู้รักษาประตู ยูเวนตุส

-รางวัลนักฟุตบอลหญิงยอดเยี่ยม : ลีเก้ มาร์เท่นส์ กองกลางทีมชาติฮอลแลนด์

-รางวัลโค้ชทีมฟุตบอลหญิงยอดเยี่ยม : ซารีน่า วีกมัน โค้ชทีมชาติฮอลแลนด์

-รางวัลประตูยอดเยี่ยม (ปุสกัส อะวอร์ด) : โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ กองหน้าชาวฝรั่งเศสของ อาร์เซน่อล จากประตู "สกอร์เปี้ยน คิก"

-รางวัลฟีฟ่า แฟร์ เพลย์ : ฟร็องซิส โกเน่ กองหน้าชาวโตโก สัญชาติโกต ดิวัวร์ ของทีมเอฟซี ซโบรยอฟก้า บอร์โน่ ในสาธารณรัฐเช็ก ที่ช่วยชีวิต มาร์ติน เบอร์โคเวช ผู้รักษาประตูสลาเวีย ปราก ซึ่งหมดสติจากการปะทะกันระหว่างเกม