ส่องนวัตกรรม“ฮอนด้า คอลเลคชั่น ฮอลล์”

ส่องนวัตกรรม“ฮอนด้า คอลเลคชั่น ฮอลล์”

เอ.พี.ฮอนด้า เปิดประสบการณ์ถึงถิ่นกำเนิดประเทศญี่ปุ่น พาชม “ฮอนด้า คอลเลคชั่น ฮอลล์” พิพิธภัณฑ์จัดแสดงนวัตกรรมและโมเดลต่างๆ บอกเล่าเรื่องราวความเป็นมาแบรนด์ “ฮอนด้า”

บริษัท เอ.พี. ฮอนด้า จำกัด ผู้จัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้าในประเทศไทย เปิดบ้าน “ฮอนด้า คอลเลคชั่น ฮอลล์” (Honda Collection Hall) พิพิธภัณฑ์ที่สร้างขึ้นในโอกาสครบรอบ 50 ปี ของบริษัทฮอนด้า ประเทศญี่ปุ่น

สำหรับพื้นที่ของอาณาจักรค่ายปีกนกแห่งนี้ ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่เดือนมีนาคม ปี 1998 โดยอยู่ภายในบริเวณสนามทวินริงโมเตกิ หรือสนามทดสอบเพื่อใช้ในการพัฒนายนตรกรรมของฮอนด้า และขณะเดียวกันยังเป็นสังเวียนชิงเจ้าความเร็วที่ได้มาตรฐานระดับโลก อย่างรายการที่แฟนๆ มอเตอร์สปอร์ตชาวไทยรู้จักกันดี นั่นคือ โมโตจีพี (MotoGP) ก็ใช้บริการสนามแห่งนี้ด้วยเช่นกัน

ขณะที่การจัดแสดงภายใน ประกอบไปด้วยนวัตกรรมและโมเดลต่างๆ ทั้งในส่วนของรถยนต์และรถจักรยานยนต์รวมกว่า 300 คัน ที่ได้รับความนิยมและสร้างชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับ ทั้งในด้านคุณภาพ ยอดขาย และผลงานการคว้าชัยชนะบนเวทีการแข่งขันในศึกเวิลด์กรังด์ปรีซ์

เริ่มตั้งแต่ชั้นแรก จุดประกายความคิดสร้างสรรค์การผลิตนวัตกรรมต่างๆ ทั้งหมดเกิดขึ้นจาก “ฮอนด้า โซอิชิโร่” (Honda Soichiro) ผู้ก่อตั้งบริษัทฮอนด้าที่ได้รับสมญานามให้เป็น “ชายผู้สร้างความฝันให้เป็นความจริง” ด้วยปณิธานการทำงาน มุ่งมั่นต้องการให้ทุกคนมีความสุขกับผลิตภัณฑ์ของเขา โดยเริ่มผลิตรถจักรยานติดเครื่องยนต์คันแรกของฮอนด้าเพื่อมอบให้กับภรรยาของเค้าเองในปี 1946

สำหรับชั้นแรกนี้ ไฮไลต์อยู่ที่ห้องจัดแสดงหุ่นยนต์ อาซิโม (Asimo) ที่เผยความสามารถแสดงอากัปกริยาต่างๆ ได้อย่างน่าอัศจรรย์ และในเวอร์ชั่นล่าสุด สามารถแสดงพัฒนาการท่าทางได้ใกล้เคียงกับมนุษย์มากขึ้น สามารถวิ่ง กระโดด เตะลูกบอล และสื่อสารด้วยภาษามือได้แล้ว

ทั้งนี้ คาดว่าอีกไม่นานคงได้เห็นเวอร์ชั่นใช้งานช่วยเหลือมนุษย์อย่างสมบูรณ์แบบ หรือตรงตามวัถตุประสงค์ที่ผู้ให้กำเนิดต้องการให้เกิดขึ้นจริงในอนาคต

ขยับมาชั้นที่สองเป็นวิวัฒนาการของผลิตภัณฑ์ที่วางจำหน่าย มีทั้งในส่วนของรถยนต์และรถจักรยานยนต์ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นโฉมรุ่นคลาสสิกที่หาชมได้ยาก แต่ในพิพิธภัณฑ์ ฮอนด้า คอลเลคชั่น ฮอลล์ แห่งนี้ มีให้สัมผัสตัวเป็นๆ ครบทุกโมเดล และที่สำคัญยังได้ใกล้ชิดแบบ 360 องศา ครบทุกมุมมอง

ขณะเดียวกันหากถามถึงโมเดลที่เสมือนเป็นสัญลักษณ์ และเป็นต้นกำเนิดที่ผลักดันให้แบรนด์รถจักรยานยนต์ชั้นนำสัญชาติญี่ปุ่น ได้รับความนิยมและสร้างชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก ทางเจ้าหน้าที่ให้คำตอบอย่างรวดเร็วพร้อมชี้นิ้วไปที่สุดยอดรุ่นคลาสสิกตลอดกาลอย่าง Honda Super Cub C100 ซึ่งเป็นชื่อรุ่นที่คุ้นเคยกันดีอยู่แล้วสำหรับผู้หลงใหลสองล้อสไตล์วินเทจในเมืองไทย กับรถที่ตอบโจทย์ชัดเจนทั้งในด้านของสมรรถนะเครี่องยนต์และความประหยัดเชื้อเพลิง 

แต่สิ่งหนึ่งซึ่งไม่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างเห็น ได้ชัดนั้นคือ รูปลักษณ์ภายนอก ซึ่งยังคงรูปแบบเดิมอยู่จนกระทั่งปัจจุบัน และเหนืออื่นใดยังเพิ่มข้อมูลที่น่าทึ่งแถมให้อีกว่า เมื่อไม่นานที่ผ่านมา รถจักรยานยนต์รุ่นซูเปอร์คับ ซีรีส์ ที่เปิดตัวต้นตระกูลมาตั้งแต่ปี 1958 ได้ประกาศฉลองยอดผลิตรถจักรยานยนต์รุ่นซูเปอร์คับ ซีรีส์ ครบ 60 ปี รวม 100 ล้านคันทั่วโลกไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วอีกด้วย

ปิดท้ายชั้นที่สาม พื้นที่โดยรวมถูกตกแต่งให้มีกลิ่นอายของเกมชิงเจ้าความเร็ว ผ่านการจัดแสดงเกียรติประวัติต่างๆ ในแวดวงการแข่งขัน ด้วยตัวแข่งสี่ล้อและสองล้อ ตลอดจนผลงานการคว้าถ้วยรางวัล สร้างชื่อเสียงบนเวทีมอเตอร์สปอร์ตระดับเวิลด์กรังด์ปรีซ์มาแล้วอย่างมากมาย

ปรัชญาการทำงานของฮอนด้า ที่ส่งต่อมาถึงปัจจุบันคือ “เดอะ พาวเวอร์ ออฟ ดรีม” (The Power of Dreams)