อธิบดีอุทยานฯ ปัดจัดฉากล่า‘พะยูน’

อธิบดีอุทยานฯ ปัดจัดฉากล่า‘พะยูน’

อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ ปัดจัดฉากล่า "พะยูน" เตรียมลงพื้นที่ จ.ตรัง หารือเตรียมวางแผนอนุรักษ์ให้เข้มข้นขึ้น

จากกรณีชาวบ้านพบซากพะยูน ที่บริเวณปากคลองโต๊ะ ด้านทิศตะวันออก พื้นที่ต.เกาะลิบง อ.กันตัง จ.ตรัง จึงประสานให้เจ้าหน้าที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าหมู่เกาะลิบง เดินทางตรวจสอบพบซากพะยูนตัวหนึ่งถูกเชือกผูกติดกับครีบหน้า แล้วนำไปโยงกับรากต้นโกงกาง ในสภาพที่เปื่อยยุ่ย เหลือเพียงลำไส้กับหนังเพียงเล็กน้อย จึงไม่สามารถระบุเพศ อายุ น้ำหนัก ความยาว หรือรายละเอียดต่างๆได้นั้น

ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 23 ต.ค. นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) เผยว่า ได้รับแจ้งเรื่องจากหัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าเกาะลิบง จ.ตรังแล้ว รู้สึกว่าเป็นเรื่องที่เลวร้ายมาก อีกแง่หนึ่งก็คือเรื่องนี้แสดงให้เห็นว่า ยังคงมีการล่าพะยูนกันอยู่ แต่ที่ทางกรมอุทยานฯออกมาพูดก่อนหน้านี้พูดในภาพรวมว่าสัตว์ชนิดนี้มีปริมาณลดลง ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ที่มีพะยูนมากที่สุดในขณะนี้ คือ จ.ตรัง และกรมอุทยานฯเอง ซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบในเรื่องนี้โดยตรงจะต้องมาพูดคุยวางแผนงานการอนุรักษ์ดูแลให้เข้มข้นมากกว่านี้

"ในวันที่ 25 ต.ค.นี้ ตนหรืออาจจะเป็นนายปิ่นสักก์ สุรัสวดี รองอธิบดีกรมอุทยานฯ จะเดินทางไปยัง จ.ตรัง เพื่อร่วมหารือกันเรื่องนี้ และจะเชิญชาวบ้านในพื้นที่และเครือข่ายนักอนุรักษ์ร่วมประชุมด้วย"

เมื่อถามเรื่องที่นักอนุรักษ์ และชาวบ้านในพื้นที่เกาะลิบงออกมาบอกว่า เรื่องนี้เป็นการจัดฉากของกรมอุทยานฯ ที่ทำให้เห็นว่า มีการล่าพะยูนจริง นายธัญญา กล่าวว่า คิดแบบนั้นถือว่าแย่มาก ๆ กรมอุทยานฯจะไปทำอย่างนั้นทำไม ในเมื่อหน้าที่คือการทำงานอนุรักษ์ อย่าโทษกันไปมา ซึ่งผลประโยชน์ที่จะเกิดขึ้น คนที่จะได้รับคือทาง จ.ตรัง และชาวบ้านในพื้นที่เกาะลิบงเอง ชาวบ้านจะมีอาชีพ จากการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ นำนักท่องเที่ยวไปชมพะยูน ถามว่ากรมอุทยานฯ จะได้อะไรจากการจัดฉากล่าพะยูน

"ผมไม่คิดเลยจริงๆ ว่าจะมีใครคิดแบบนี้ ใครคิดใครพูดแบบนี้ ก็ไม่ต้องมาคุยกับกรมอุทยานฯเลย ตอนได้รับรายงานเรื่องนี้ ผมยังสั่งการหัวหน้าเขตห้ามล่าลิบงเลยว่า ให้หัวหน้าเขตห้ามล่าไปคุยกับชาวบ้านและกลุ่มอนุรักษ์ในพื้นที่ทำความเข้าใจกับชาวบ้านให้ดี อย่าให้กรมอุทยานฯต้องกลายเป็นเหยื่อการเมืองในพื้นที่ กรมอุทยานทำงานอนุรักษ์และดูแลไม่ให้ใครทำผิดกฎหมายเรื่องสัตว์ที่ใกล้สูญพันธุ์เท่านั้น" นายธัญญา กล่าว