สุดโหด! รองเจ้าอาวาสใช้ขวานสับหนุ่มดับ ฝังดินโบกปูนทับคาวัด

สุดโหด! รองเจ้าอาวาสใช้ขวานสับหนุ่มดับ ฝังดินโบกปูนทับคาวัด

สะเทือนวงการสงฆ์!! "พระ" ระดับรองเจ้าอาวาส สุดโหดใช้ขวานสับฆ่าหนุ่มอุดรฯ ฝังดินโบกปูนทับคาวัด โมโหผู้ตายทวงค่าไก่ชนขณะนั่งดื่มเหล้าอยู่บนกุฏิ เผยพฤติกรรมนำเด็กวัยรุ่นมามั่วสุมในกุฏิ ดื่มเหล้าเบียร์และเสพยาบ้า แต่ไม่มีใครกล้าเข้ามาวุ่นวาย

(23 ต.ค.60) ตำรวจเร่งล่าตัวรองเจ้าอาวาสวัดเมาโหด ใช้ขวานสับหนุ่มใหญ่ดับ แค้นมาทวงค่าไก่ชนบังคับลูกศิษย์และเณร ขุดหลุมฝัง ก่อนนำลูกรังทมโปกปูนทับ ญาติแจ้งตำรวจตามหาคนหาย เลยเผ่นหนีกับลูกศิษย์ 1 คน ก่อนเณรจะเปิดปากบอกตำรวจกันเป็นพยาน

เมื่อเวลา 07.30 น. วันที่ 23 ตุลาคม ร.ต.อ.กิตติกวินท์ อุมาฐิติพงศ์ รอง สว.สอบสวน สภ.โนนสูง อ.เมือง จ.อุดรธานี ได้รับแจ้งเหตุคนถูกฆ่าฝังดินในวัดศรีบุญเรือง หมู่ 13 บ้านหนองแคน ต.โนนสูง จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ ออกไปตรวจสอบพร้อม พล.ต.ต.พีระพงศ์ วงษ์สมาน ผบก.ภ.จว.อุดรธานี พ.ต.อ.ภูมิวิทย์ เวชกามา ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี พ.ต.ท.สิทธิพร ธารากุลทิพย์ รอง ผกก.สส.สภ.เมืองอุดรธานี พ.ต.ท.วีระพล มูลบัวภา สว.สส.สภ.โนนสูง พ.ต.ต.อรรคพล ยี่เกาะ สว.สส.สภ.เมืองอุดรธานี เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน เจ้าหน้าที่มูลนิธิอุดรสว่างเมธาธรรม

ที่เกิดเหตุเป็นที่ว่างหลังวัด พื้นโดยรอบถมหินลูกรังและเทปูนกว้าง 4 เมตร ยาว 6 เมตรพยานที่เห็นเหตุการณ์ระบุว่า ใต้ลานปูนเป็นจุดฝังศพนายวิชาญ พรหมมินทร์ อายุ 44 ปี อยู่ที่ 184 หมู่ 5 บ้านหนองโศกดาว ต.โนนสูง อ.เมือง จ.อุดรธานี ส่วนผู้ก่อเหตุ คือ พระสงกรานต์ สินไชย อายุ 41 ปี รองเจ้าอาวาสวัดศรีบุญเรือง ชาวอ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู ได้หลบหนีไปแล้ว โดยพระสงกรานต์ให้ลูกศิษย์ 2 คน มาช่วยรุมทำร้ายจนนายวิชาญสลบ แล้วใช้ขวานสับจนเสียชีวิต จึงนำร่างมาฝัง สั่งดินลูกรังมากลบ และเทปูนโบกทับ โดยเหตุเกิดเมื่อคืนวันที่ 20 ตุลาคม ที่ผ่านมา จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้เจาะและขุดแผ่นปูนออก กระทั่งพบศพนายวิชาญถูกฝังส่งกลิ่นเหม็น

พ.ต.ท.ณัฐกานต์ วรรณพันธ์ สว.สอบสวน สภ.โนนสูง กล่าวว่า เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม ได้รับแจ้งจากนายเฉลิมพล พรหมมินทร์ อายุ 41 ปี อยู่ที่ 184 หมู่ 5 บ้านหนองโศกดาว ต.โนนสูง อ.เมือง จ.อุดรธานี ว่านายวิชาญ พรหมมินทร์ อายุ 44 ปี พี่ชาย หายตัวจากบ้านไปตั้งแต่วันที่ 20 ตุลาคม พบครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม ที่บ้านงานศพในหมู่บ้าน พบเพียงรถจักรยานยนต์ของผู้ตายจอดทิ้งไว้ ปกติผู้ตายจะชอบดื่มเหล้า หากมีอาการมึนเมาก็จะกลับบ้านนอน แต่ก่อนจะหายตัวไป ทราบว่าไปมีเรื่องทะเลาะกับกลุ่มวัยรุ่นในหมู่บ้าน จึงเกรงว่า จะมีอันตรายจึงออกตามหาแต่ไม่พบ

จากนั้น พ.ต.ท.วีระพล มูลบัวภา สว.สส.สภ.โนนสูง และ ร.ต.อ.อุดมโชค สิงหศิริกุล รอง สว.สส.สภ.โนนสูง ได้นำกำลังออกสืบสวน จนพบ ด.ช.เอ (นามสมมุติ) มาแจ้งว่า เป็นผู้เห็นเหตุการณ์พระสงกรานต์ ฆ่านายวิชาญ แล้วนำศพไปฝังดิน

จากการสอบถาม ด.ช.เอ บอกว่า เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม ขณะที่พระสงกรานต์กำลังนั่งดื่มสุราอยู่บนกุฏิ กับ นายบีและนายซี (นามสมมุติ) อายุ 15 ปี ชาวบ้านหนองแคน เห็นผู้ตายที่อาการมึนเมาขึ้นมาบนกุฏิของพระสงกรานต์ แล้วออกปากทวงค่าไก่ชนที่พระติดค้าง ทำให้พระไม่พอใจและไล่ผู้ตายลงไปจากกุฏิ

“ผู้ตายไม่ยอมลงจากกุฏิ ยังคงทวงเงินค่าไก่ชน ทำให้พระสงกรานต์โมโหไม่พอใจ และชกผู้ตายล้มลง ก่อนจะสั่งให้นายบี และนายซี มาช่วยกันรุมทำร้ายจนหมดสติ แล้วพระ สั่งให้นายบีนำขวานในกุฏิมาให้ จากนั้นกระหน่ำฟันคอ ฟันหัว และฟันหน้าผู้ตายหลายครั้งจนเสียชีวิตจมกองเลือด แล้วสั่งให้ไปขุดหลุมฝังผู้ตายที่ลานว่างหลังวัด จึงได้ช่วยกันขุดลึกประมาณ 80 ซม. พระสงกรานต์ได้อุ้มศพผู้ตายลงมาจากกุฏิ ก่อนจะสั่งให้หามศพช่วยไปฝัง” พยาน กล่าว

เมื่อนำศพไปทิ้งลงหลุมแล้ว ทั้งหมดได้ถอดจีวรทิ้งในลงหลุมศพ แล้วใช้ต้นกล้วยทับ และกลบฝัง เสร็จแล้วได้เดินกลับมาที่กุฎิ พระสงกรานต์สั่งให้ล้างคราบเลือดบนกุฏิให้หมด และขู่ว่าห้ามเล่าให้เก็บเป็นความลับ ถ้าไม่เชื่อจะฆ่าฝังดิน จากนั้นทุกคนได้แยกย้ายทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่พอรุ่งเช้าหลังฉันอาหารเสร็จ จึงขออนุญาตพ่อและแม่ลาสึก กลับไปอยู่บ้าน มาทราบว่าญาติผู้ตายได้ไปแจ้งความคนหาย และตำรวจได้ติดตามหาจึงเล่าให้พี่ชายฟัง แล้วนำตัวมาพบตำรวจ

พล.ต.ต.พีระพงศ์ วงษ์สมาน ผบก.ภ.จว.อุดรธานี เปิดเผยว่า หลังทราบว่านายวิชาญ ถูกพระฆ่าฝังดิน จึงนำกำลังไปที่กุฏิพระสงกรานต์ ปรากฏว่าพระสงกรานต์ถอดผ้าเหลืองหลบหนีไปกับนายบี ตั้งแต่เมื่อคืนนี้แล้ว คาดว่าหลบหนีไปที่กรุงเทพมหานคร จึงได้ไปนำตัวนายซี ที่อยู่ในเหตุการณ์มาสอบสวน ซึ่งให้การยืนยันจากนั้นนำมาชี้จุดฝังศพ พร้อมให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าหลังจากนำศพผู้ตายมาฝัง วันที่ 21 ตุลาคม พระสงกรานต์ ได้สั่งซื้อหินลูกรัง 4 คันรถมาถมทับหลุมศพ และวันที่ 22 ตุลาคม พระสงกรานต์ได้สั่งปูนสำเร็จรูปมาเททับเป็นลานกว้าง โดยให้เหตุผลกับเจ้าอาวาสวัดว่าจะสร้างกุฏิใหม่

พล.ต.ต.พีระพงศ์ กล่าวว่า จากการสืบสวน พระสงกรานต์ หรือนายสงกรานต์ พื้นเพเป็นคนบ้านหนองแคน ได้ย้ายครอบครัวไปอยู่บ้านโนนสะอาด ต.เก่ากลอย อ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู เมื่อพ่อแม่เสียชีวิต นายสงกรานต์ได้บวชหน้าไฟ แล้วไม่สึกบวชมาแล้ว 13 พรรษา กระทั่งเมื่อ 2 ปีก่อน ได้เดินทางมาจำพรรษาที่วัดศรีบุญเรือง บ้านหนองแคน จนได้เป็นรองเจ้าอาวาส แต่มีพฤติกรรมนำเด็กวัยรุ่นมามั่วสุมในกุฏิ ดื่มเหล้า ดื่มเบียร์ และเสพยาบ้า แต่ไม่มีใครกล้าเข้ามาวุ่นวาย หรือว่ากล่าวตักเตือน กระทั่งมาก่อเหตุฆ่าฝังดิน ซึ่งตำรวจกัน ด.ช.เอ ไว้เป็นพยาน ส่วนนายเอ และนายบี แจ้งข้อหา “ลอบฝัง ซ่อนเร้น ย้าย หรือทำลายศพ” และจะได้ติดตามนายสงกรานต์มาดำเนินคดี “ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ลอบฝัง ซ่อนเร้น ย้าย หรือทำลายศพ” เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย