‘ทรงขอบใจ’ คำสั้นๆ แต่เปลี่ยนชีวิต ‘วาวา’ ไปตลอดกาล

‘ทรงขอบใจ’ คำสั้นๆ แต่เปลี่ยนชีวิต ‘วาวา’ ไปตลอดกาล

“วาวา” มริภา ดาราวัยรุ่น เขียนจดหมายถึง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 แล้วได้จดหมายตอบกลับจากสำนักพระราชวัง ข้อความ "ทรงขอบใจ" คำสั้นๆ แต่เปลี่ยนชีวิตไปตลอดกาล


เมื่อ 4 ปีที่แล้วจากการอ่านหนังสือ และการเรียนรู้เกี่ยวกับพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทำให้เด็กวัยรุ่นที่อยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของชีวิตตัดสินใจจรดปากกาเขียนจดหมายเพื่อส่งคำมั่นสัญญาถึง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 นั่นคือเรื่องเล่าของ “วาวา” มริภา ศิริพูล ดาราวัยรุ่นจากซีรีส์“โซตัส เดอะซีรีส์ พี่ว้ากตัวร้ายกับนายปีหนึ่ง”แต่เรื่องไม่ได้จบลงที่การส่งจดหมายถึงในหลวงรัชกาลที่ 9 เพราะ 3 เดือนต่อมา สิ่งที่วาวาไม่เคยคิดไม่เคยฝันว่าจะเกิดขึ้นคือ เธอได้รับจดหมายตอบกลับจากสำนักพระราชวัง และข้อความเพียงแค่ข้อความเดียวในจดหมายนั้นคือ “ทรงขอบใจ” คำสั้นๆ แค่นั้น แต่เปลี่ยนชีวิตของเด็กวัยรุ่นคนนี้ไปตลอดกาล

“บันเทิง คมชัดลึก” ได้มีโอกาสได้พูดคุยกับ “วาวา” มริภา ถึงความประทับใจนี้

“หนูเขียนจดหมายถึงพระองค์ ในช่วงประมาณเดือนธันวาคม 2556 หลังจากวันเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวา ซึ่งในตอนนั้นพระองค์เพิ่งเสด็จฯ ออกจากศิริราช เพื่อกลับไปประทับรักษาพระองค์ที่วังไกลกังวล ในตัวจดหมายที่หนูเขียนถึงพระองค์ท่านในวันนั้น หลักๆ จะเป็นเหมือนคำสัญญาใจที่เราได้บอกกับตัวเองว่า เราจะสานต่อสิ่งที่พระองค์ทำไว้ ไม่ว่าจะเจอปัญหาอะไร แต่หนูจะมีพระองค์เป็นกำลังใจที่จะเดินต่อไปในอนาคต คำสัญญาในจดหมายคือ หนูให้สัญญากับท่านว่า หนูจะทำอะไรเพื่อประเทศชาติ และสานต่อในสิ่งที่พระองค์ได้ทำไว้ให้กับประชาชนคนไทย นตอนนั้นได้อ่านหนังสือของ ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล เรื่องเกี่ยวกับการทรงงาน พระราชกรณียกิจ รวมถึงโครงการพระราชดำริของในหลวง พอได้อ่านแล้วทำให้เรารู้สึกว่าพระองค์เป็นถึงพระราชา ทำไมถึงต้องทำงานหนักขนาดนี้ ทั้งที่ไม่ต้องทำก็ได้ แล้วเราที่เป็นประชาชนกลับไม่เคยทำอะไรให้แก่ประเทศชาติเลย แล้วตอนนั้นเราเห็นท่านป่วย แต่ท่านก็ทรงงาน ทำให้เราคิดว่าเราอยากจะเป็นคนคนหนึ่งที่สานต่อในสิ่งที่พระองค์ทรงทำไว้ อยากจะเป็นเด็กรุ่นใหม่คนหนึ่งที่สร้างประโยชน์ให้แก่สังคม และสานต่อสิ่งที่พระองค์ทรงคิดค้นเพื่อเรา จึงเขียนจดหมายหาพระองค์ เพราะวาคิดว่าวันหนึ่งในอนาคต เราจะต้องเจอเหตุการณ์ที่ทำให้เราต้องท้อ การเขียนจดหมายฉบับนั้น เหมือนเป็นจุดเริ่มต้นว่าเราได้บอกให้ในหลวงรู้แล้วว่าเด็กรุ่นใหม่อย่างหนูจะสานต่อสิ่งที่พระองค์ทรงทำไว้ ไม่อยากให้พระองค์ต้องกังวล อยากให้พระองค์สบายใจ มันกลายเป็นคำสัญญาที่เราให้ไว้กับพระองค์ ในตอนนั้นที่เขียนจดหมาย ความรู้สึกคือ หนูจะรู้สึกผิดมากถ้าไม่

“วาวา” เล่าต่อว่า เธอและคุณแม่ของเธอ เกิดวันที่ 5 ธันวาคม ซึ่งตรงกับวันคล้ายวันเฉลิมพระชนมพรรษาของในหลวง รัชกาลที่ 9 โดยตลอดช่วงเวลาตั้งแต่เกิดมา และเห็นในหลวงรัชกาลที่ 9 ในทุกๆ วันที่ 5 ธันวาคม ที่เสด็จออกพระราชทานพร เป็นเหมือนของขวัญในทุกๆ ปีของเธอที่ได้รับพรจากพระองค์ในวันเกิดของเธอ

 "จากพระราชดำรัสที่เคยบอกว่า "มีทั้งคนดีและคนไม่ดี ถ้าคนดีไม่ลุกขึ้นมาทำอะไร" และทฤษฎีดินเปรี้ยว ที่ว่า ดินเปรี้ยวทำอะไรไม่ได้เลย แต่พระองค์ทรงใช้น้ำสะอาดจำนวนมากเพื่อมาล้างดินเปรี้ยว ในจดหมายหนูเขียนไปว่า หนูจะเป็นส่วนหนึ่งในน้ำสะอาดนั้นที่จะมาล้างดินเปรี้ยว ถามว่าในตอนนั้นที่เขียนไม่ได้หวังเลยว่า จะได้รับจดหมายตอบกลับมา ถึงหนูจะเคยได้ยินว่ามีคุณยาย หรือมีเด็กเคยส่งจดหมายถึงพระองค์แล้วได้ตอบกลับมา แต่ด้วยยุคสมัยในตอนนั้น กับการเขียนของหนูเมื่อ 4 ปีที่แล้ว ทำให้ไม่เคยคาดหวังจะได้จดหมายตอบกลับมา หรือแม้กระทั่งว่า ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าทรงได้อ่านไหม ในใจตอนนั้นคิดแค่ว่า  จดหมายนั้นคือสัญญาใจที่หนูให้กับในหลวง

จากคำสัญญาในจดหมายนั้น เปลี่ยนชีวิตของหนูไปอย่างสิ้นเชิง เมื่อเวลาผ่านไป 3 เดือน แล้วหนูได้รับจดหมายตอบกลับจากสำนักพระราชวัง วันที่ได้รับจดหมายเป็นตราครุฑ ตอนนั้นก็ยังไม่คิดว่าเป็นจดหมายจากสำนักพระราชวัง แต่พอเห็นว่าเป็นจดหมายจากสำนักพระราชวัง ตอนนั้นดีใจมาก ดีใจจนแกะซองไม่สวย (ยิ้ม) ตอนนั้นคิดว่าเราเขียนอะไรผิดไปหรือเปล่า แล้วมาตอนหลังหนูได้รู้ว่า จดหมายที่ได้รับการตอบกลับมา เป็นจดหมายที่ในหลวงทรงอ่าน มันมีค่ากับหนูมาก กับคำสัญญาที่หนูให้ไปแล้วพระองค์ทรงรับรู้ มันไม่ได้เป็นแค่คำสัญญาแล้ว จากจดหมายตอบกลับทำให้หนูวางแผนชีวิตใหม่หมดเลย หนูตัดสินใจที่จะเข้าเรียน พัฒนานโยบายเเละสังคม หรือ Social and Policy Development และอยากจะเป็นอาจารย์ เพื่อสอนคนรุ่นหลังให้ได้รับรู้การพัฒนาแบบยั่งยืนที่ในหลวงทรงทำไว้" วาวาเผย

ดาราสาวเผยอีกว่า ข้อความ “ทรงขอบใจ” นั้นมีความหมายกับเธอมาก “ตอนที่หนูอ่านคำว่า “ทรงขอบใจ” (น้ำตาคลอ) ถ้าอ่านผิวเผิน คนอาจจะรู้สึกว่า ทรงขอบใจที่หนูถวายพระพร แต่หนูรู้ว่าหนูเขียนอะไรลงไป คำว่าทรงขอบใจของพระองค์ท่าน หมายถึงว่า ขอบใจที่หนูจะทำต่อ คำสัญญาในวันนั้น จนมาถึงวันนี้ วันที่ท่านไม่อยู่ ในวันที่เราให้สัญญาวันนั้นคือท่านยังอยู่ ความรู้สึกคือ ผู้ริเริ่มยังอยู่ สิ่งที่เราจะสานต่อมันเป็นไปได้ง่ายกว่าที่จะเห็นผลของความสำเร็จ ในวันนี้ที่ท่านไม่อยู่แล้ว การจะทำต่อของเราจะต้องใส่ความพยายามมากขึ้นไปกว่าเดิม กระตือรือร้นมากกว่าเดิม เพราะในวันนี้คำสัญญานั้นเป็นยิ่งกว่าคำสัญญา” วาวากล่าว