พญาไท2ขยายฐานลูกค้าต่างชาติ

นพ.อนันตศักดิ์ อภัยรัตน์ ผู้อำนวยการ โรงพยาบาลพญาไท 2 กล่าวว่า ภายใต้แผนดำเนินงานปี 2563 มุ่งสู่ความเป็นเลิศด้านการแพทย์ (Center of Excellence) จะมีการลงทุนต่อเนื่องภายใต้งบประมาณกว่า 600 ล้านบาท เพื่อยกระดับการรักษาโรคให้ครอบคลุม ไม่ต้องส่งตัวคนไข้ไปรักษาตัวต่อที่โรงพยาบาลอื่น รวมทั้งการพัฒนาคุณภาพและความปลอดภัย ล่าสุดผ่านมาตรฐานเจซีไอฉบับ 6 มาตรฐานสูงสุดแห่งแรกในไทย สร้างความมั่นใจแก่ผู้ป่วยทั้งในและต่างประเทศ ด้วยมาตรฐานเทียบเท่าโรงพยาบาลและสถานพยาบาลนานาชาติทั่วโลก

พร้อมกันนี้ ได้ผ่านการรับรองมาตรฐาน CCPC หรือ การดูแลรักษาพยาบาลรายโรค ได้แก่ โรคหลอดเลือกสมองตีบอุดตันเฉียบพลัน และ การดูแลผู้ป่วยโรคหลอดเลือดหัวใจ นับเป็นส่วนสำคัญทำให้พญาไท 2 มีผู้เข้าใช้บริการต่างประเทศ เมียนมา และบังกลาเทศ เติบโตอย่างมีนัยสำคัญสูงถึง 70%  

ทั้งนี้ โรงพยาบาลมุ่งขยายสัดส่วนผู้เข้าใช้บริการต่างชาติ จากปี 2559 มีสัดส่วน 15% คาดปีนี้จะเพิ่มเป็น 20% ภายใน 2-3 ปีข้างหน้า ตั้งเป้าหมายสัดส่วน 30%  โดยฐานผู้ใช้บริการต่างชาติเติบโตถึง 25% ผนวกกับการยกระดับการรักษาพยาบาลในกลุ่มโรคที่ซับซ้อน เข้ามาทดแทนโรคง่ายๆ ตามฤดูกาล เชื่อว่าจะทำให้ปีนี้ธุรกิจเติบโตไม่ต่ำกว่า 6%

จากข้อมูลของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ปี 2559 พบว่าชาวต่างชาติเดินทางมาใช้บริการการแพทย์ในประเทศไทยเพิ่มขึ้น โดยเป็นกลุ่มผู้ป่วยในประเทศเพื่อนบ้าน กัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนามและจีน กว่า 12 ล้านคน โดยเมียนมามากที่สุด ตามด้วยจีน

การยกระดับมาตรฐานการบริการของพญาไท 2 สู่ฉบับ 6 นอกจากจะเพิ่มความมั่นใจ ให้ผู้รับ บริการในประเทศแล้ว ยังช่วยชูความเป็นมืออาชีพด้านคุณภาพความปลอดภัยในการดูแลผู้ป่วย เป็นผู้นำด้านบริการสุขภาพของโรงพยาบาลไทยในเวทีโลก เพิ่มศักยภาพการแข่งขันของประเทศ ให้สูงขึ้น ทั้งด้านการลงทุนจากต่างชาติและการท่องเที่ยว

"การขยายตัวของกลุ่มนักท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ รวมถึงกลุ่มที่เดินทางเข้ามารับการรักษาพยาบาล ทำให้ปัจจุบันสถานพยาบาลระดับโลกต่างๆ ไม่เพียงแค่รักษาโรคเท่านั้น แต่ขยายเข้าไปสู่การส่งเสริมสุขภาพ การป้องกันโรค และการฟื้นฟูสภาพ ซึ่งโรงพยาบาลหรือสถานพยาบาลที่มีความพร้อมในการรองรับจะต้องมีจุดเด่น หรือจุดแข็ง คือการมีบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญ มีเทคโนโลยีและการจัดการที่ได้มาตรฐานสากล มีการบริการที่ครบวงจร ราคาสมเหตุผล

โรงพยาบาลพญาไท2 ได้เตรียมความพร้อมด้านบริการแบบไทยเนส กล่าวคือ ดูแลผู้ป่วย เหมือนการดูแลญาติพี่น้องในครอบครัว โดยที่ผ่านมาได้เปิดตลาดด้วยการโรดโชว์ในกลุ่มประเทศตะวันออกกลางและการจัดสัมมนาทางการแพทย์ โดยเชิญผู้สนใจทั้งแพทย์และบุคคลทั่วไปในประเทศนั้นๆ เช่น กัมพูชา เมียนมา บังกลาเทศ นับเป็นจุดเริ่มต้นของการทำตลาดจริงจัง เพื่อดึงลูกค้าให้กลับมาใช้และการบอกต่อของผู้ป่วย