ท่องเที่ยวเชื่อปลายปีอินบาวด์พุ่งรับไฮซีซัน

ท่องเที่ยวเชื่อปลายปีอินบาวด์พุ่งรับไฮซีซัน

สถานการณ์น้ำท่วมในหลายพื้นที่ ทำให้ททท. และธุรกิจท่องเที่ยวติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบ คาดปลายปีกลับสู่ภาวะปกติ

ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า การติดตามสถานการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีจังหวัดที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวยังสามารถเดินทางได้ ไม่มีผลกระทบ ได้แก่ อุบลราชธานี นครพนม อุดรธานี ขณะที่ เลย ที่น้ำท่วมในพื้นที่ลุ่มต่ำปริมาณน้ำเริ่มลดลงแล้ว ส่วนนครราชสีมา และ สุรินทร์ ยังเป็นปกติ

อย่างไรก็ตาม ยังเฝ้าระวังสถานการณ์ที่ขอนแก่น ที่แม้จะไม่กระทบต่อแหล่งท่องเที่ยวภาพรวม แต่มีผลต่อพื้นที่เกษตรเนื่องจากพื้นที่น้ำท่วมมากถึง 14 อำเภอ ซึ่งเป็นผลจากการเร่งระบายน้ำจากเขื่อนอุบลรัตน์ ส่งผลต่อเส้นทางชมทิวทัศน์ริมอ่างเก็บน้ำ (Scenic Road) มาระยะหนึ่ง ส่วนแหล่งท่องเที่ยวและรีสอร์ทริมลำน้ำพอง เริ่มมีน้ำล้นตลิ่งเข้าท่วม การเดินทางไม่สะดวก และยังติดตามสถานการณ์ที่มวลน้ำจะท่วมเข้า อ.เมืองและเทศบาลขอนแก่น โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังหาทางป้องกัน

อิทธิฤทธิ์ กิ่งเล็ก ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) กล่าวว่า สถานการณ์เดินทางในเดือน ต.ค.นี้ โดยเฉพาะในช่วงที่มีพระราชพิธี ตลาดต่างประเทศเริ่มปรับเส้นทางไปเที่ยวปริมณฑล เลี่ยงเส้นทางในกรุงเทพฯ ที่คาดว่าจะมีคนไทยหลั่งไหลเข้ามาจำนวนมาก และหลังจากจบงานสำคัญไปแล้ว คาดว่าในเดือน พ.ย.-ธ.ค. ตลาดต่างประเทศจะเติบโตอย่างคึกคักเนื่องจากเป็นช่วงไฮซีซัน

อย่างไรก็ตาม ได้ติดตามสถานการณ์ใกล้ชิดทั้งภาคกลาง และตะวันออกเฉียงเหนือ โดยให้สมาชิกภาคธุรกิจรายงานผลกระทบหลังจากสถานการณ์คลี่คลาย ซึ่งคาดว่าจะมีบางพื้นที่มีปัญหาด้านการเข้าถึง

ทั้งนี้ จากการสำรวจข้อมูลนักท่องเที่ยวไทย พบว่าในช่วงไตรมาส 4 ยังมีการวางแผนเดินทางในประเทศ 25% ใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันปีที่แล้ว โดยเป้าหมายที่นิยม ได้แก่ ภาคเหนือ ภาคใต้ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลางตามลำดับ 

ส่วนปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจ พบว่าที่พักยังสำคัญที่สุดกว่า 43% ตามด้วยความสวยงาม 42% ราคาสินค้า 41% และอาหาร 38% ส่วนการหาข้อมูลเตรียมเดิน 55% ใช้อินเทอร์เน็ตเป็นช่องทางหลัก

ธรรศพลฐ์ แบเลเว็ลด์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการบินไทยแอร์เอเชีย กล่าวว่า กระแสการเดินทางในประเทศยังคึกคักตลอดเดือน ต.ค.แต่ตลาดนักท่องเที่ยวขาเข้า (อินบาวด์) ชะลอลงเล็กน้อย แต่ไม่ถึงกับซบเซา และคาดว่าหลังจากเดือนนี้จะกลับสู่ปกติ ขณะที่ตลาดคนไทยไปต่างประเทศ (เอาท์บาวด์) ยังอยู่ในระดับปกติเช่นกัน ส่งผลให้เดือนนี้ อัตราบรรทุกเฉลี่ยประมาณ 80% ลดลงเล็กน้อยจากปกติ 85-86%

ทั้งนี้ หลังจากที่ไทยได้รับการปลดธงแดงจากองค์กรการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ไอซีเอโอ) แล้ว ไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ ซึ่งเป็นการบินระยะไกลในเครือที่ได้รับผลกระทบมาก่อน ก็จะเริ่มยื่นเรื่องขอบินในเส้นทางหลักที่เคยทำตลาดอยู่แล้ว เช่น เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น ขณะที่เส้นทางระยะไกลที่ยุโรป ก็ยังอยู่ในแผนเช่นเดิม แต่อาจจะเริ่มไปยื่นขออนุญาตในปี 2561 แทน

ธนพล ชีวรัตนพร อุปนายกสมาคมไทยบริการท่องเที่ยว (ทีทีเอเอ) กล่าวว่า คาดว่าตลาดท่องเที่ยวเอาท์บาวด์คนไทยจะเริ่มเติบโตสูงในปี 2561 ราว 10% มีบรรยากาศคึกคักขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเทียบกับไตรมาส 4 ปีนี้ เนื่องจากเริ่มเห็นสัญญาณจากการจองแพ็คเกจทัวร์ เพื่อเดินทางตั้งแต่เดือน พ.ย.-ธ.ค.เพิ่มขึ้น โดนได้ปัจจัยบวกจากไฮซีซันส่งเสริมให้คนตัดสินใจเดินทางเพิ่มขึ้น หลังจากที่ชะลอการเดินทางช่วงเดือน ต.ค.

อย่างไรก็ตาม พฤติกรรมการเลือกเดินทางของคนไทยเปลี่ยนแปลงด้านจำนวนวัน ไม่เที่ยวยาว 12-15 วัน เหมือนในอดีต เพราะต้องการประหยัดค่าใช้จ่าย โดยจุดหมายยอดนิยมคือ ญี่ปุ่น และวางแผนเดินทางท่องเที่ยวด้วยตัวเอง (FIT) มากขึ้นในรอบ 2-3 ปีที่ผ่านมา แต่แยกใช้บริการจากบริษัทนำเที่ยวบางส่วน เช่น จองโรงแรม, ตั๋วเครื่องบิน เป็นต้น

ทั้งนี้ จากสถิติขององค์กรส่งเสริมการท่องเที่ยวญี่ปุ่น (เจเอ็นทีโอ) ระบุว่าในช่วง 7 เดือนแรก (..-..) คนไทยเดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่นสูงเป็นอันดับ 5 ด้วยจำนวนรวม 6.73% หรือเติบโต 7.5%