Report & Corporate News (20 ต.ค.60)

SCB   ซื้อ   ราคาเป้าหมาย   172.00 บาท

ผลประกอบการ 3Q 60 ออกมาต่ำกว่าประมาณการของเรา 13% ในขณะที่การเติบโตของรายได้อยู่ในระดับปกติ โดยผลประกอบการที่น่าผิดหวังเป็นผลกระทบจากการตั้งสำรองที่สูงกว่าคาดการณ์ เนื่องจากธนาคารต้องการดึง Coverage ratio ให้อยู่ในระดับสูง คุณภาพสินทรัพย์ส่วนใหญ่ยังอยู่ในเกณท์ที่ควบคุมได้

เราคงคำแนะนำซื้อที่ราคาเป้าหมาย 172.00 บาท (ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมที่บทวิเคราะห์ของ UOB Kay Hian)

BBL   ซื้อ   ราคาเป้าหมาย   222.00 บาท

ผลประกอบการ 3Q 60 เป็นที่น่าประทับใจ โดยกำไรจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้น 11% yoy จากการขยายรายได้ในส่วนงานต่างประเทศ และ การควบคุณค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน การเติบโตของผลประกอบการได้ถูกชะลอไว้ด้วยนโยบายการตั้งสำรองที่อนุรักษ์นิยม โดยการเพิ่ม Coverage ration ในขณะที่คุณภาพ Credit ยังอยู่ในสถานะคงตัว

เราคงคำแนะนำซื้อที่ราคาเป้าหมาย 222.00 บาท (ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมที่บทวิเคราะห์ของ UOB Kay Hian)

SECTOR UPDATE  Oil & Gas

OVERWEIGHT

คาดว่าผลประกอบการของกลุ่ม O&G จะฟื้นตัวทั้ง qoq และ yoy เป็นผลจากค่าการกลั่นที่ดีขึ้น และ การปรับมูลค่า Inventory ขึ้น โดยเป็นผลจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวขึ้น ซึ่งราคาหุ้นในกลุ่ม O&G ได้มีการปรับตัวขึ้นเพื่อนสะท้อนปัจจัยบวกดังกล่าวเป็นส่วนใหญ่แล้ว เรายังคงชอบหุ้นกลุ่มปิโตรเคมี และ IRPC ยังคงเป็นหุ้น top pick ของเรา เราได้ปรับลดคำแนะนำในหุ้นกลุ่มโรงกลั่นเช่น TOP และ BCP เป็นถือ คงคำแนะนำ OVERWEIGHT(ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมที่บทวิเคราะห์ของ UOB Kay Hian)

KTC

KTC แย้มเตรียมอัดเคมเปญใหญ่ส่งท้ายปี หวังหนุนกำไรโตตามเป้า หลัง 9 เดือนปีนี้กำไรพุ่ง 2.36 พันลบ.

นายระเฑียร ศรีมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร “เคทีซี” หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า  สิ้นปีนี้จะเปิดตัวโมบายแอพพลิเคชัน TapKTC - พัฒนาฟีเจอร์ E-Coupon เปิดตัวแคมเปญใหญ่ส่งท้ายปี หนุนกำไรโตตามเป้า หลัง   9 เดือนปี 60  กำไรสุทธิพุ่ง 2,365 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 510.77 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 28% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วน Q3/60 เติบโตต่อเนื่อง กำไรสุทธิ 846.05 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 32%  NPL บัตรเครดิตอยู่ที่ 1.20% และสินเชื่อบุคคลอยู่ที่ 0.82% ในขณะที่ปริมาณใช้จ่ายผ่านบัตรฯ ขยายตัว 7.1% สูงกว่าอุตสาหกรรมที่ 3.8% ส่วนฐานสมาชิกรวมบัตรเครดิตและสินเชื่อบุคคลเพิ่มขึ้นเป็น 3.1 ล้านบัญชี(ทันหุ้น)