แจ้งจับสาว18ท้าวเเชร์ออนไลน์ โกงเหยื่อ2ร้อยคนกว่า4ล้าน

แจ้งจับสาว18ท้าวเเชร์ออนไลน์ โกงเหยื่อ2ร้อยคนกว่า4ล้าน

เหยื่อนับสิบบุก "นครบาล4" แจ้งจับสาว18ท้าวเเชร์ออนไลน์ "ออมทองบ้านน้องมิลิน" โกง2ร้อยคน เสียหายกว่า4ล้าน

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 20 ตุลาคม ที่กองบังคับการตำรวจนครบาล 4 นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช ประธานสมาพันธ์ต่อต้านแชร์ลูกโซ่แห่งประเทศไทย พร้อมด้วยผู้เสียหายแชร์ออนไลน์ “ออมทองบ้านน้องมิลิน” จำนวน 14 คน ซึ่งถูกหลอกลวงในพื้นที่บก.น.4 เข้าร้องทุกข์ต่อพล.ต.ต.ธีระพงษ์ วงษ์รัฐพิทักษ์ รรท.ผบก.น.4 พ.ต.อ.สุริยา นาคแก้ว รองผบก.น.4 พ.ต.อ.ภาคภูม พูลศิริโภคา ผกก.(สอบสวน) กลุ่มงานสอบสวนบก.น.4 เพื่อให้ตั้งคณะทำงานสอบสวนติดตามจับกุมผู้กระทำผิด เนื่องจากมีผู้เสียหายจำนวนมากถูกหญิงสาวอายุเพียง 18 ปี หลอกลวงในหลายพื้นที่ประกอบด้วยสน.อุดมสุข สน.ลาดพร้าว สน.บึงกุ่ม สน.บางชัน

นายสามารถ กล่าวว่า มีผู้เสียหายอยู่ในหลายพื้นที่ทั้งสน.อุดมสุข สน.ลาดพร้าว สน.บึงกุ่ม สน.บางชัน ฯลฯ ตนจึงให้ผู้เสียหายรวมกลุ่มกันเข้ามาร้องทุกข์กับบก.น.4 เพื่อจะให้การทำงานของเจ้าหน้าที่ทำได้รวดเร็วและรวมเป็นคดีหลักคดีเดียว เนื่องจากผู้กระทำความผิดเป็นบุคคลคนเดียวกันที่มีอายุเพียง 18 ปี เท่านั้น ทั้งนี้มูลค่าความเสียหายของผู้เสียหายแต่ละคนมีตั้งแต่หลักพันบาทและบางรายเสียหายสูงถึงหลักแสนบาท โดยมีผู้เสียหายรวมเกือบ 200 คน มูลค่าความเสียหายกว่า 4 ล้านบาท อีกทั้งเพื่อช่วยให้การดำเนินการจับกุมผู้กระทำผิด และติดตามทรัพย์สินมาคืนให้กับผู้เสียหายที่ถูกหลอกลวง ฉ้อโกงด้วยกลอุบายได้อย่างรวดเร็ว

นอกจากนี้หลังจากแจ้งเรื่องร้องทุกข์เรียบร้อยแล้วก็จะดำเนินการยื่นคำร้องกับปปง.อีกทางหนึ่ง เพื่อช่วยการติดตามทรัพย์สินคืนผู้เสียหายให้มีความรวดเร็วขึ้น
หนึ่งในผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ตนเจอผู้กระทำความผิดผ่านทางเฟซบุ๊กโดยได้ชักชวนให้ร่วมลงทุนในกลุ่มปิดออมทองบ้านน้องมิลิน ตนเห็นว่าได้รับผลตอบแทนดีจึงตัดสินใจร่วมลงทุนด้วย

ทั้งนี้หากลงทุนเป็นเงินจำนวน 10,000 บาท จะได้ผลตอบแทนสูงถึง 12% ในระยะเวลา 3 วัน ซึ่งผู้กระทำผิดอ้างว่าจะเอาเงินที่ได้ไปลงทุนต่อซึ่งมีผลตอบแทนสูงกว่า จึงมีเงินมาจ่ายดอกเบี้ยคืนให้กับตน ซึ่งในระยะแรกตนได้รับเงินคืนครบตามจำนวนจึงทำให้หลงเชื่อ โดยตนได้ร่วมลงทุนด้วยเงินหลักหมื่นตั้งแต่ช่วงเดือนกันยายน ก็ได้รับเงินดอกเบี้ยมาโดยตลอดจนกระทั่งวันที่ 15 ตุลาคม จึงทราบว่าโดนหลอกสูญเงินไปกว่า 73,000 บาท

พล.ต.ต.ธีระพงษ์ กล่าวว่า เบื้องต้นจะรับเรื่องของผู้เสียหายไว้ โดยได้สั่งการให้พ.ต.อ.สุริยา นาคแก้ว รองผบก.น.4 เข้ามาควบคุมดูแลคดีเป็นหลัก ซึ่งจะมีพ.ต.อ.ภาคภูม พูลศิริโภคา ผกก.(สอบสวน) กลุ่มงานสอบสวนบก.น.4 เป็นหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคดีนี้ ทั้งนี้ในวันนี้มีผู้เสียหายเดินทางมาเกือบ 20 คน มูลค่าความเสียหายเบื้องต้นเป็นเงินจำนวน 787,300 บาท อย่างไรก็ตามจะดำเนินการติดตามผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ด้านพ.ต.อ.สุริยา กล่าวว่า หลังจากนี้จะดำเนินการจัดพนักงานสอบสวนในแต่ละท้องที่เกิดเหตุให้มารับคำร้องทุกข์ของผู้เสียหาย เบื้องต้นเข้าข่ายความผิดในข้อหาฉ้อโกงประชาชน ส่วนความผิดตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ในข้อหาการนำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์นั้นเจ้าหน้าที่จะต้องพิจารณาก่อน หลังจากนี้ทางบก.น.4 จะนัดผู้เสียหายเข้าให้ปากคำในแต่ละท้องที่เกิดเหตุ และจะรวบรวมข้อมูลส่งให้ทางสน.อุดมสุข ดำเนินการหลักในการตั้งเรื่อง ในการทำคดีนี้โดยจะอยู่ในรูปแบบของคณะทำงานบก.น.4 ทั้งนี้หากสอบปากคำผู้เสียหายและรวบรวมพยานหลักฐานเสร็จสิ้นแล้วก็จะทำการของศาลออกหมายจับผู้กระทำความผิด ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาไม่เกิน 2 สัปดาห์