'สามารถ' ตั้งข้อสังเกต กทม. จมบาดาล!!

'สามารถ' ตั้งข้อสังเกต กทม. จมบาดาล!!

"สามารถ" ตั้งข้อสังเกต 2 ประเด็นทำน้ำท่วมเมืองกรุงหนัก เห็นใจ "อัศวิน" ต้องคอยขอโทษปชช. แนะอย่าอ้างเรื่องปริมาณฝน - ขยะเยอะอีก

นายสามารถ ราชพลสิทธิ์ อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ โพสผ่านเฟซบุ๊คส่วนตัว "ดร.สามารถ ราชพลสิทธิ์" ว่า จากเหตุการณ์ฝนกระหน่ำเมื่อเช้ามืดของวันที่ 14 ต.ค.ทำให้น้ำท่วมขังในหลายพื้นที่เป็นเวลานานหลายชั่วโมง บางพื้นที่กว่าน้ำจะลดเป็นระดับปกติก็ต้องรอจนถึงตอนเย็นของวันเสาร์ ตนเห็นใจคนกรุงเทพฯ ที่ต้องประสบความเดือดร้อนครั้งนี้ และเข้าใจถึงความยากลำบากในการป้องกันน้ำท่วมของผู้บริหาร กทม. และรู้สึกเห็นใจ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม. ที่ต้องออกมาขอโทษพี่น้องคนกรุงเทพฯ เป็นครั้งที่ 2 หลังจากที่ขอโทษครั้งที่ 1 ไปแล้วเมื่อปลายเดือน พ.ค. ที่ผ่านมา ทั้งนี้ถ้าหากฟังคำชี้แจงของ กทม. ที่ระบุว่าฝนตกหนักมากโดยมีปริมาณฝนในบางพื้นที่สูงกว่า 200 มม. ตนก็คล้อยตามคำชี้แจงนั้นไปเหมือนกัน เพราะคิดว่าเป็นปริมาณฝนที่ตกในช่วงระยะเวลา 1 ชั่วโมง ซึ่งถือว่าเป็นปริมาณที่สูง เนื่องจากมีปริมาณเกินความจุของท่อระบายน้ำ และคู คลอง เพราะฉะนั้น การมีน้ำท่วมขังคงเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้

อย่างไรก็ตาม เมื่อเข้าไปดูข้อมูลเชิงลึก กลับพบว่าไม่ใช่ปริมาณฝนใน 1 ชั่วโมง อย่างเช่น ที่เขตพระนครซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีปริมาณฝนมากที่สุดคือมีถึง 203 มม.ในช่วงเวลาฝนตกตั้งแต่ 00.10-05.00 น. ของที่ 14 ต.ค. หรือระยะเวลาเกือบ 5 ชั่วโมง ในส่วนที่ท่านผู้ว่าฯ กทม. ให้สัมภาษณ์ว่าที่เขตพระนครมีปริมาณฝน 214.5 มม. นั้น เป็นการรวมปริมาณฝนในช่วงเวลาอื่นเข้าไว้ด้วย ซึ่งที่บริเวณดินแดงซึ่งมีน้ำท่วมสูงและขังเป็นเวลานาน พบว่ามีปริมาณฝน 174 มม. ในช่วงเวลาฝนตกตั้งแต่ 01.00-05.00 น. หรือระยะเวลา 4 ชั่วโมง น่าสงสัยว่าทำไมที่ดินแดงซึ่งมีปริมาณฝนน้อยกว่าที่พระนคร แต่กลับมีน้ำท่วมถึงขั้นวิกฤต ตนจึงดูข้อมูลปริมาณฝนอย่างละเอียดเป็นรายชั่วโมง พบปริมาณฝนดังนี้ เวลา 01.00 น. ปริมาณฝน 17 มม., เวลา 02.00 น. ปริมาณฝน 25 มม., เวลา 03.00 น. ปริมาณฝน 93 มม., เวลา 04.00 น. ปริมาณฝน 37.5 มม., เวลา 05.00 น. ปริมาณฝน 1.5 มม.

นายสามารถ กล่าวต่อไปว่า จะเห็นได้ชัดว่าปริมาณฝนต่อชั่วโมงไม่สูง ยกเว้นเวลา 03.00 น. ซึ่งมีปริมาณฝน 93 มม. เพียงชั่วโมงเดียวเท่านั้นที่มีปริมาณฝนค่อนข้างสูง ตนจึงขอตั้งข้อสังเกตถึงสาเหตุที่ทำให้เกิดน้ำท่วมบริเวณดินแดงเป็นช่วงเวลานาน ดังนี้ 1. ในขณะที่ฝนตกไม่มีการเดินเครื่องสูบน้ำที่สถานีสูบน้ำดินแดง ซึ่งตั้งอยู่ใกล้ด่านเก็บค่าทางด่วนบนถนนวิภาวดีรังสิตขาเข้า ซึ่งอาจเป็นเพราะเจ้าหน้าที่ไม่อยู่ หรือเป็นเพราะเครื่องเสีย เพราะหากมีการเดินเครื่องสูบน้ำ น้ำจะไม่ท่วมสูงและขังอยู่เป็นระยะเวลานาน เนื่องจากระบบท่อระบายน้ำในกรุงเทพฯ สามารถรับน้ำได้ 60 มม.ต่อชั่วโมง แต่นามย้อมูลในเวลา 03.00 น. มีฝนตกลงมา 93 มม. ซึ่งเกินความจุของท่อ แต่ถ้ามีการเดินเครื่องสูบน้ำตั้งแต่ฝนเริ่มตกอย่างต่อเนื่อง น้ำก็จะไม่ท่วมขังเป็นเวลานานแน่นอน 2.ก่อนฝนตกไม่มีการพร่องน้ำ การพร่องน้ำเป็นการสูบน้ำออกจากท่อ และคู คลอง ซึ่งจะทำให้ท่อ และคู คลองมีพื้นที่รับน้ำฝนที่จะตกลงมา น้ำก็จะไม่ท่วมขังเป็นเวลานาน กทม.สามารถพร่องน้ำก่อนฝนตกได้ล่วงหน้านับชั่วโมง เพราะ กทม.มีเรดาร์ถึง 3 เครื่อง เรดาร์เหล่านี้ทำหน้าที่ตรวจจับกลุ่มฝน ทำให้รู้ว่ากลุ่มฝนจะมาถึงกรุงเทพฯ เมื่อไหร่ เมื่อรู้แล้ว กทม.สามารถพร่องน้ำในท่อ และคู คลองได้ล่วงหน้าก่อนฝนตก อนึ่ง ที่ผ่านมา กทม.มักจะอ้างว่าไม่สามารถพร่องน้ำในคลองแสนแสบได้ เพราะจะทำให้ไม่สามารถเดินเรือได้ แต่ในกรณีนี้เป็นช่วงเวลาที่เรือในคลองแสนแสบได้หยุดให้บริการแล้ว ดังนั้น กทม.จะใช้ข้ออ้างนี้ไม่ได้

"หาก กทม.ชี้แจงว่า ได้ทำการพร่องน้ำแล้ว ถามว่า กทม.กล้าเปิดเผยข้อมูลระดับน้ำในคลองต่างๆ ในช่วงเวลาก่อนฝนตก ระหว่างฝนตก และหลังฝนตกหรือไม่ ข้อมูลระดับน้ำเหล่านี้จะชี้ให้เห็นว่ามีการพร่องน้ำจริงหรือไม่ ถ้าข้อสังเกตของผมถูกต้อง กทม.ก็ไม่สามารถจะโยนความผิดไปที่ปริมาณฝน หรือขยะได้อีกต่อไป แต่ กทม.จะต้องหันมามองที่การบริหารจัดการน้ำของตนเอง มิฉะนั้น คนกรุงเทพฯ จะต้องเตรียมลุยน้ำในหน้าฝนต่อไปอีกเช่นเคย ทั้งหมดนี้ ผมไม่อยากเห็นท่านผู้ว่าฯ กทม. ต้องออกมาขอโทษพี่น้องประชนคนกรุงเทพฯ เป็นครั้งที่ 3 ครับ" นายสามารถ ระบุ