KTC - ซื้อ

KTC - ซื้อ

ไตรมาส 3/60 กำไรทะลุเป้า

กำไรไตรมาส3/60 สูงกว่าที่คาด 23%

KTC รายงานกำไรไตรมาส3/60 อยู่ที่ 846 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 32% YoY และ 8% QoQ ซึ่งสูงกว่าที่เราและตลาดคาด 23% เนื่องจากส่วนต่างอัตรา
ดอกเบี้ยมากกว่าที่เราคาดการณ์ KTC ประกาศส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ 23.15% สำหรับไตรมาสนี้ จากที่เราคาดว่าจะอยู่เพียง 22.75% กำไรจาก
การดำเนินงานที่ไม่รวมสำรองหนี้เสียอยู่ที่ 1.97 พันล้านบาทเพิ่มขึ้น 15% YoY และทรงตัว QoQ กำไร 9 เดือนแรก อยู่ที่ 2.37 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น
28% YoY คิดเป็น 86% ของประมาณการกำไรปี 2560 เดิมที่ 2.75 พันล้านบาท

ประเด็นหลักผลประกอบการ

สินเชื่อรวมสุทธิอยู่ที่ 6.87 หมื่นล้านบาทในปลายเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 10% YoY เนื่องจากสินเชื่อรายบุคคลเพิ่มขึ้น 18% YoY ซึ่งบ่งชี้ถึงการที่ KTC
ขยายการปล่อยสินเชื่อส่วนบุคคล ซึ่งให้ผลตอบแทนประมาณ 24-28% (เทียบกับอัตราบัตรเดคดิตที่อยู่เพียงแค่ 18%) ทั้งนี้ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยในไตรมาส 3/60 อยู่ที่ 23.15% และทรงตัว QoQ ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานอยุ่ที่ 1.8 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 5% YoY และ 4% QoQ KTCตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สูญฯสุทธิที่ 914 ล้านบาทสำหรับไตรมาสนี้ ทรงตัว YoY แต่ลดลง 8% QoQ (เป็นไปตามที่เราคาดการณ์) สัดส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ต่อสินเชื่อรวมในปลายเดือน ก.ย. อยู่ที่ 1.46% ลดลงจาก 1.57% ในสามเดือนก่อนหน้านี้ อัตราส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ในปลายเดือนมิ.ย.อยู่ที่ 565% ของหนี้เสียเพิ่มขึ้นจาก 528% ณ สิ้นเดือน มิ.ย. KTC มียอดบัญชีบัตรเครดิตรวมที่ 2.22 ล้านบัตร เพิ่มขึ้น 9.0% YoY ในขณะที่บัญชีสินเชื่อส่วนบุคคลรวมอยู่ที่ 8.5 แสนบัญชี เพิ่มขึ้น 7% YoY

แนวโน้ม

เราคาดว่าการเติบโตของกำไรจะเพิ่ม 7% YoY อยู่ที่ 685 ล้านบาท ในไตรมาส 4/60 หนุนโดยการปล่อยสินเชื่อที่ดีต่อเนื่องและการเติบโตของรายได้ค่าธรรมเนียมของปริมาณการใช้จ่ายผ่านบัตรที่ฟื้นตัวต่อเนื่องจากไตรมาสก่อน

สิ่งที่เปลี่ยนแปลง

ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยของ KTC ปรับตัวดีขึ้นเนื่องจากการขยายธุรกิจปล่อยสินเชื่อส่วนบุคคล ซึ่งให้ผลตอบแทนสูงกว่าบัตรเครดิต เราจึงปรับเพิ่มคาดการณ์ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยที่ 22.98% ในปี 2560 ( จาก 22.48%) และ 23.04% (จาก 22.70%) สำหรับปี 2561 ผลดังกล่าวทำให้เราปรับเพิ่มคาดการณ์กำไรขึ้น 11% ในปี 2560 มาอยู่ที่ 3.05 พันล้านบาท และเพิ่ม 10% ในปี 2561 มาอยู่ที่ 3.3 พันล้านบาท

คำแนะนำ

KTC ได้พิสูจน์ความสามารถในการปรับตัวหลังจากที่มีการเปลี่ยนแปลงกฏระเบียบของธนาคารกลางที่เข้มมากขึ้น (การปล่อยสินเชื่อที่เคร่งครัดขึ้นแก่ธุรกิจบัตรเครดิจและลูกค้าสินเชื่อส่วนบุคคล) รวมทั้งมีการตั้งค่าสำรองเพื่อหนี้สูญที่สูง กอปรกับสัดส่วนหนี้สินที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ต่อสินเชื่อรวมที่ 1.46% ทั้งนี้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจและการขยายธุรกิจที่แข็งกร้าวจะส่งผลให้กำไรของปีหน้าสูงขึ้น เราจึงปรับราคาเป้าหมายของ KTC เป็น 160 บาทสำหรับปี 2561 อ้างอิงจากค่า PVB ที่ 2.83 เท่า และยังคง