รวบคนขับกระบะลักลอบนำเข้าเนื้อสัตว์-ส้มจากต่างประเทศ

รวบคนขับกระบะลักลอบนำเข้าเนื้อสัตว์-ส้มจากต่างประเทศ

ไม่รอดสายตา! ตร.รวบคนขับรถกระบะลักลอบขนเนื้อสัตว์ และส้มจากต่างประเทศไปส่งตลาดไท 2 คันรถ น้ำหนักรวม 8 ตัน มูลค่ากว่า 1 ล้านบาท เจ้าตัวรับสารภาพรับจ้างขนเที่ยวละ 7 พันบาท

เมื่อวันที่ 18 ต.ค.60 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พันตำรวจตรีพงศ์พิทักษ์ บุญบำรุง สารวัตรกองกับการ 5 กองบังคับการตำรวจปราบปราม พร้อมนางเสาวณิต วรชาติวัฒน นายสัตวแพทย์ชำนาญการพิเศษ สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดสมุทรสงคราม และเจ้าหน้าที่เกษตรจังหวัด นำกำลังเข้าจับกุมนายวัฒนา อุมาระ อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 243 หมู่ 1 ตำบลละงู อำเภอละงู จังหวัดสตูล พร้อมของกลางรถยนต์ปิกอัพ โตโยต้าสีขาวทะเบียนป้ายแดง จ3869กรุงเทพมหานคร บรรทุกส้มจากประเทศแอฟริกาน้ำหนัก 4 ตัน มูลค่าประมาณ 2 แสนบาท และนายวีระพงษ์ บุญนิตย์ อายุ 37 ปี พร้อมของกลางรถปิกอัพโตโยต้าสีบอร์นเงินทะเบียน บธ2131พัทลุง บรรทุกเนื้อควาย จากประเทศอินเดีย 3 ตัน และตีนไก่จากมาเลเซีย 1 ตัน มูลค่ากว่า 1 ล้านบาท

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่สืบทราบว่าจะมีผู้ประกอบการบางรายลักลอบนำเข้าโดยผิดกฎหมายโดยใช้เส้นทางถนนเพชรเกษม เข้าสู่ถนนพระราม 2 จึงติดตามมาตั้งแต่จังหวัดเพชรบุรี กระทั่งมาจับกุมได้ที่ถนนพระราม 2 ปากทางเข้าเมืองสมุทรสงคราม ตำบลบางจะเกร็ง อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสงคราม

จากการสอบสวนเบื้องต้นคนขับรถปิกอัพ รับว่ารับจ้างขับนำสินค้ามาจากจังหวัดสงขลา เพื่อไปส่งที่ตลาดไท กรุงเทพมหานคร ได้ค่าจ้าง เที่ยวละ 7,000 บาท จะรับจ้างเดือนละประมาณ 5-6 ครั้ง กระทั่งมาถูกจับกุมในครั้งนี้

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา นายวัฒนา "นำเข้าของต้องห้าม ที่ไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ และวิธีการ เงื่อนไข ตามความผิด มาตรา 14 ตามพระราชบัญญัติ กักพืช พ.ศ.2507 และหลีกเลี่ยง หรือพยายามหลีกเลี่ยงการเสียค่าภาษีศุลกากร ตามมาตรา 27 พระราชบัญญัติ ศุลกากร พ.ศ.2469"

ส่วนนายวีระพงษ์ เจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา นำเข้าซากสัตว์โดยไม่ได้รับอนุญาติ และเคลื่อนย้ายซากสัตว์โดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม มาตรา 31 และ34 พระราชบัญญัติโรคระบาดสัตว์ พ.ศ.2558 และหลีกเลี่ยง หรือพยายามหลีกเลี่ยงการเสียค่าภาษีศุลกากร ตามมาตรา 27 พระราชบัญญัติ ศุลกากร พ.ศ.2469 ต้องระวางโทษปรับเป็นเงินสี่เท่าราคาของซึ่งได้รวมค่าอากรเข้าด้วยแล้ว หรือ จำคุกไม่เกินสิบปี หรือทั้งปรับทั้งจำ นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสมุทรสงคราม ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป