บุกค้นคอนโดฯพบ19ไนจีเรีย รวบแก๊งหลอกสาวไทยผ่านเฟซบุ๊ก

บุกค้นคอนโดฯพบ19ไนจีเรีย รวบแก๊งหลอกสาวไทยผ่านเฟซบุ๊ก

ผบช.ตม.บุกค้นคอนโดฯย่านร่มเกล้า ตรวจเข้ม19ไนจีเรีย พบ11รายอยู่ไทยผิดก.ม. เผยอีก2รายพัวพันแก๊งโรแมนซ์สแกม หลอกลวงหญิงสาวผ่านเฟซบุ๊ก แอบอ้างเป็นฝรั่งผิวขาว พร้อมยึดสมุดบัญชีฯ 15 เล่ม โน๊ตบุ๊ค 7 เครื่อง โทรศัพท์มือถือ 12 เครื่อง และพาสปอร์ต 9 เล่ม

18 ต.ค.60 เมื่อเวลา 10.00 น. พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น รรท.ผบช.สตม., พล.ต.ต.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.ชูฉัตร ธารีฉัตร ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.จิระศักดิ์ มีสัมธรรม รอง ผบก.ปส.1บช.ปส. เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.สส.สตม. และเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.สส.สตม. ได้นำกำลังเข้าจับกุมกลุ่มชาวต่างชาติผิวสี ภายในคอนโดแห่งหนึ่ง ระหว่าง ซ.ร่มเกล้า 52-54 ถนนร่มเกล้า แขวงคลองสามประเวศ เขตลาดกระบัง กรุงเทพฯ

พล.ต.ท.อิทธิพล กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง สามารถจับกุม 2 ผู้ต้องหาชาวไนจีเรีย แก๊งโรแมนซ์สแกม ซึ่งมีพฤติกรรมหลอกลวงเหยื่อผ่านเฟซบุ๊ก โดยอ้างตัวเป็นชาวยุโรป ฐานะดี เข้ามาพูดคุยเชิงชู้สาวกับหญิงสาวหลายราย พร้อมกับชักชวนให้ร่วมลงทุน โดยส่งทรัพย์สินของมีค่าให้กับเหยื่อก่อนใช้ข้ออ้างเหตุผลต่างๆ ให้เหยื่อหลงเชื่อโอนเงินไปให้ จึงได้นำกำลังเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบ พร้อมสนธิกำลังร่วมกับ บช.ปส.

จากการตรวจสอบคอนโดทั้ง 6 อาคาร พบชาวไนจีเรีย จำนวน 19 คน เป็นชาย 16 คน หญิง 3 คน ตรวจสอบเบื้องต้นพบชาวต่างชาติเป็นชาย 6 คน ผิดในข้อหาหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย และอีก 5 คน อยู่อาศัยในราชอาณาจักรไทยเกินเวลาที่กฎหมายกำหนด (OVER STAY) ในจำนวนนี้มีชาย 2 รายเป็นผู้ต้องสงสัยว่าเป็นแก๊งโรแมนซ์สแกม มี 4 รายอ้างว่าเป็นนักศึกษา และ 1 รายอ้างว่าเป็นอาจารย์อยู่ที่จังหวัดสระแก้ว

พล.ต.ท.อิทธิพล กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังตรวจยึดสมุดบัญชีธนาคาร 15 เล่ม โน๊ตบุ๊ค 7 เครื่อง เงินสด 2.7 แสนบาท โทรศัพท์มือถือ 12 เครื่อง แท็บแล็ต 1 เครื่อง พาสปอร์ต 9 เล่ม และตรายางหน่วยงานราชการต่างๆ อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ยังตรวจพบเฟซบุ๊กแอคเคาท์ปลอมที่ถูกสร้างขึ้น โดยใช้รูปโปรไฟล์เป็นเจ้าหน้าที่ทหารอเมริกาผิวขาว จากการตรวจสอบสมุดบัญชีธนาคารบางบัญชี มีเงินโอนเข้าหลายล้านบาท บางเล่มเป็นชื่อของหญิงไทย 2 คน หลังจากนี้จะตรวจสอบขยายผลต่อไป เบื้องต้นรับสารภาพว่า สิ่งของที่ตรวจยึดได้เป็นของตัวเอง หากพบว่ามีการกระทำผิดในข้อหาใดเพิ่มเติม ก็จะดำเนินคดีในทุกข้อหาต่อไป