ราคาน้ำมันปิดปรับตัวขึ้น

ราคาน้ำมันปิดปรับตัวขึ้น

ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ปรับขึ้นเล็กน้อย รับข่าวสู้รบในอิรัก วิตกกระทบการผลิตน้ำมัน

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ส่งมอบเดือนพ.ย. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ตลาดไนเม็กซ์  ปรับตัวขึ่น 1 เซนต์ ปิดที่ราคา 51.88 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ เพิ่มขึ้น 8เซนต์ ปิดที่ราคา 57.90 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ตลาดตกอยู่ภายใต้แรงกดดัน จากข่าวการสู้รบระหว่างกองกำลังอิรัก และกลุ่มกบฏชาวเคิร์ด ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการผลิตน้ำมัน 

นอกจากนี้ ความขัดแย้งระหว่างสหรัฐและอิหร่านก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่เป็นแรงหนุนต่อตลาด

ทั้งนี้ ราคาน้ำมันปรับตัวในช่วงแคบเป็นเวลาหลายเดือน ถึงแม้ว่ากลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) และประเทศนอกกลุ่มปรับลดกำลังการผลิตแล้ว แต่การที่สหรัฐเพิ่มการผลิตน้ำมัน ก็ได้เป็นปัจจัยสกัดการปรับตัวขึ้นของราคาน้ำมัน

อย่างไรก็ดี ราคาน้ำมันได้ดีดตัวขึ้นอย่างมากในเดือนนี้ จากการที่อุปสงค์น้ำมันขยายตัวอย่างมาก โดยเฉพาะจากจีน

แหล่งข่าวระบุว่า กองกำลังอิรักสามารถยึดครองเมืองเคอร์คุก หลังจากที่กลุ่มกบฏชาวเคิร์ดได้ถอนตัวออกจากเมืองดังกล่าว

กองกำลังอิรัก ซึ่งประกอบด้วย กองกำลังของรัฐบาลอิรัก, หน่วยต่อต้านการก่อการร้าย, หน่วยตำรวจของรัฐบาลกลาง และกองกำลังฮาช ชาบี ซึ่งเป็นกลุ่มทหารนอกราชการ ได้เข้ายึดครองอาคารรัฐบาลในใจกลางเมืองเคอร์คุก ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงแบกแดดไปทางตอนเหนือราว 250 กม.

กองกำลังอิรักได้กระจายกำลังไปอยู่ตามถนนต่างๆ และยึดอาคารรัฐบาล หลังจากที่กองกำลังเปชเมอร์กาของชาวเคิร์ด และทหารจำนวนหลายพันนายของกลุ่มต่างๆของชาวเคิร์ดได้พากันถอนตัวจากถนนต่างๆในเมือง

ด้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศไม่ให้การรับรองต่ออิหร่านในการปฏิบัติตามข้อตกลงนิวเคลียร์ที่มีการทำไว้ในปี 2558 โดยระบุว่า อิหร่านไม่ได้ปฏิบัติตามข้อตกลงนิวเคลียร์ ขณะที่มีการละเมิดหลายครั้ง พร้อมทั้งระบุว่า  สหรัฐยังไม่ถอนตัวจากข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่าน แต่จะมีการปรับปรุงแก้ไขข้อตกลงฉบับปัจจุบันเพื่อให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ใหม่ต่ออิหร่าน

อย่างไรก็ดี ทรัมป์กล่าวว่า เขาจะยกเลิกข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่าน ถ้าหากทำเนียบขาวไม่สามารถบรรลุข้อตกลงกับสภาคองเกรส และพันธมิตรของสหรัฐภายใต้แผนการที่รัฐบาลสหรัฐนำเสนอ

การประกาศไม่ให้การรับรองข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่าน จะเป็นการปูทางให้สภาคองเกรสมีเวลา 90 วันในการออกมาตรการคว่ำบาตรครั้งใหม่ต่ออิหร่าน