ผลประกอบการสดใสหนุนดาวโจนส์ปิดบวก

ผลประกอบการสดใสหนุนดาวโจนส์ปิดบวก

ดัชนีดาวโจนส์ ปิดตลาดวันอังคาร (17ต.ค.)ตามเวลาท้องถิ่น ปรับตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ใกล้ทะลุระดับ 23,000 จุด โดยได้รับปัจจัยบวกจากการเปิดเผยผลประกอบการที่สดใสของบริษัทจดทะเบียน

ทั้งนี้ ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่อยู่ในดัชนีเอสแอนด์พี 500 ขยายตัว 6.1% ในไตรมาส 4/59, 15.5% ในไตรมาส 1/60 และ 10.8% ในไตรมาส 2/60 ขณะที่ผลประกอบการในไตรมาส 3/60 คาดว่าจะมีการขยายตัว 4%

นอกจากนี้ บริษัทจดทะเบียนราว 87% ที่มีการเปิดเผยผลประกอบการในไตรมาส 3/60 แสดงผลกำไรได้สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้

ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปรับตัวขึ้น 40.48 จุดหรือ 0.18 % ปิดที่ 22,997.44  จุดหลังจากทะยานขึ้นไปถึง 23,002.20 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เพิ่มขึ้น 1.72  จุดหรือ 0.07 % ปิดที่ 2,559.36 จุดและดัชนีแนสแด็ก ปรับตัวลง  0.35 จุดหรือ 0.01% ปิดที่ 6,623.66 จุด

ทั้งนี้ หุ้นกลุ่มธุรกิจรักษาสุขภาพพุ่งขึ้นนำตลาด ส่วนราคาหุ้นมอร์แกน สแตนลีย์พุ่งขึ้น หลังเปิดเผยผลประกอบการในไตรมาส 3 สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ขณะที่ธนาคารมีรายได้จากธุรกิจซื้อขายหุ้นและตราสารหนี้เพิ่มขึ้น รวมทั้งมีกำไรเพิ่มขึ้นจากธุรกิจบริหารความมั่งคั่ง

มอร์แกน สแตนลีย์ เปิดเผยว่า กำไรอยู่ที่ระดับ 93 เซนต์/หุ้น เมื่อเทียบกับตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 81 เซนต์/หุ้น

นอกจากนี้ ทางธนาคารยังรายงานรายได้ที่ระดับ 9.197 พันล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 9.015 พันล้านดอลลาร์

ด้านโกลด์แมน แซคส์เปิดเผยว่า ธนาคารมีกำไร และรายได้ในไตรมาส 3 สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ โดยได้แรงหนุนจากกำไรจากธุรกิจวาณิชธนกิจ โดยมีกำไรที่ระดับ 5.02 ดอลลาร์/หุ้น สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 4.17 ดอลลาร์/หุ้น

นอกจากนี้ โกลด์แมน แซคส์ ยังเปิดเผยว่า ธนาคารมีรายได้ 8.33 พันล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 7.54 พันล้านดอลลาร์