ไอบีเอ็มโหมโซลูชั่นบล็อกเชน

นางบริดเจ็ต แวน คราลินเก็น รองประธานอาวุโส อินดัสทรีแพลตฟอร์ม ไอบีเอ็ม กล่าวว่า เปิดตัวโซลูชั่นการชำระเงินข้ามประเทศระบบสากลผ่านบล็อกเชน ซึ่งออกแบบมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุนการชำระเงินสำหรับกลุ่มธุรกิจและผู้บริโภค

โดยครั้งนี้ยังได้ร่วมกับพันธมิตรด้านเทคโนโลยีอย่างสเตลลาร์ (Stellar) เครือข่ายบล็อกเชนโอเพ่นซอร์สสำหรับบริการทางการเงิน และคลิกเอ็กซ์ กรุ๊ป (KlickEx Group) ผู้ให้บริการทางการเงินระดับภูมิภาคในเขตแปซิฟิค นำไอบีเอ็ม บล็อกเชน เข้าใช้กับบริการหักบัญชีและชำระดุล (clearing and settlement) ทางการค้าผ่านเครือข่ายเดียว ซึ่งจะส่งผลทำให้กระบวนการทั้งหมดเป็นไปได้ในความเร็วเกือบเรียลไทม์

นอกจากนี้ ร่วมกันพัฒนาและนำไปใช้กับธนาคารชั้นนำในทั่วโลกรวมถึงในไทย ประกอบด้วย ธนาคารกสิกรไทย, ธนาคารบิลเบาวิซคายาอาร์เคนตาเรีย, ธนาคารดานามอน อินโดนีเซีย, ธนาคารแมนดิริ, ธนาคารเนการา อินโดนีเซีย, ธนาคารเพอร์มาตา, ธนาคารรัคยาต อินโดนีเซีย, มิซูโฮ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป, ธนาคารแห่งชาติออสเตรเลีย, ธนาคารพาณิชย์ริซัล (อาร์ซีบีซี) ฟิลิปปินส์, ซูมิโตโม มิตซุย ไฟแนนเชียลกรุ๊ป, ทีดีแบงค์ วิซดรอว์ (เอชเค) แห่งเวิร์ลด์คอมไฟแนนซ์ และสถาบันการเงินอื่นๆ

เธอกล่าวว่า โซลูชั่นการชำระเงินข้ามประเทศผ่านบล็อกเชนจะนำสู่โมเดลใหม่การชำระเงินในสกุลเงินต่างประเทศ เพิ่มประสิทธิภาพการหักบัญชีและชำระดุลให้เกิดขึ้นได้ในเวลาเพียงไม่กี่วินาที ภายใต้เครือข่ายเดียวกัน

“เรากำลังสำรวจแนวทางใหม่ๆ ภายใต้คำแนะนำของสถาบันการเงินชั้นนำระดับโลก เพื่อพัฒนาให้เครือข่ายการชำระเงินมีประสิทธิภาพ ปลอดภัย และโปร่งใสมากยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันทำให้ธุรกรรมต่างๆ เป็นไปได้แบบเรียลไทม์ แม้ในพื้นที่ห่างไกลที่สุดของโลก”

ที่ผ่านมาได้เริ่มมีการนำโซลูชั่นดังกล่าวไปใช้ในการทำธุรกรรมในเส้นทางสกุลเงิน 12 สกุลทั่วหมู่เกาะแปซิฟิกและออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ รวมถึงสหราชอาณาจักรแล้ว ด้วยระบบที่มีการใช้เลดเจอร์แบบกระจายศูนย์ (distributed ledger) จะช่วยให้ทุกฝ่ายสามารถเข้าถึงและทราบสถานะของการทำธุรกรรมหักบัญชีและชำระดุล โซลูชั่นนี้ยังได้รับการออกแบบมาเพื่อเพิ่มการไหลเวียนของเงินทั่วโลก เหมาะสำหรับการชำระเงินทุกประเภท ไม่ว่าจะมีมูลค่าเท่าใดก็ตาม อีกทั้งยังช่วยให้สถาบันการเงินสามารถเลือกเครือข่ายการชำระดุลที่ต้องการสำหรับการแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลที่ออกโดยธนาคารกลาง

ปัจจุบัน การชำระเงินข้ามประเทศมีราคาสูง ใช้เวลานาน และมักมีความผิดพลาดเกิดขึ้นเสมอ การทำธุรกรรมข้ามสกุลเงินจะต้องผ่านตัวกลางหลายฝ่ายและใช้เวลาหลายวันจนถึงหลายสัปดาห์กว่าจะเสร็จสมบูรณ์

รายงานของธนาคารโลกชี้ว่าการพัฒนารูปแบบการชำระเงินและการเข้าถึงแหล่งเงินจะนำสู่การไหลเวียนของสกุลเงินและการค้าต่างๆ ซึ่งจะช่วยให้สามารถขยายบริการทางการเงินให้เข้าถึงคน 1 พันล้านคนทั่วโลกได้ภายในปี 2563

นายเจด แมคคาเล็บ ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายไอที (ซีทีโอ) สเตลลาร์ เสริมว่า บริษัทมุ่งนำเทคโนโลยีบล็อกเชนมาใช้เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่การชำระเงินข้ามประเทศในระเบียงสกุลเงินแบบรวมที่ประกอบด้วยหลายสกุล จากก่อนหน้านี้การชำระเงินข้ามประเทศจะต้องใช้เวลาหักบัญชีนานหลายวัน 

โซลูชั่นใหม่นี้จะสร้างผลกระทบเชิงบวกที่สำคัญต่อบรรดาประเทศในภูมิภาคแปซิฟิกใต้ และทันทีที่ได้รับการขยายใช้อย่างเต็มที่โดยไอบีเอ็มและคู่ค้าในธุรกิจธนาคาร จะสามารถเปลี่ยนแปลงรูปแบบการเคลื่อนย้ายเงินทั่วโลก พร้อมช่วยพัฒนาการทำธุรกรรมระหว่างประเทศในปัจจุบัน และส่งเสริมการเข้าถึงบริการทางการเงินที่ทันสมัยในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา