รวบกะเทยแสบ! ฉกสร้อยหนุ่มรัสเซียหาเงินแปลงเพศ

รวบกะเทยแสบ! ฉกสร้อยหนุ่มรัสเซียหาเงินแปลงเพศ

ตำรวจเมืองพัทยารวบ "น้องเนย วอล์กกิ้งสตรีท" สาวประเภทสองสุดแสบ ฉกสร้อยทองหนุ่มรัสเซีย หวังหาเงินแปลงเพศ

เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 17 ตุลาคม 2560 พ.ต.อ.อภิชัย กรอบเพชร ผกก. สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี พร้อมด้วย พ.ต.ท.ธีระศักดิ์ สีแสง สว.สส. ร.ต.อ.ณธกร จันทร์ลอด รอง สว.สส. ร่วมกับตำรวจท่องเที่ยวเมืองพัทยา นำโดย พ.ต.ท.ปิยะพงษ์ เอนสาร สว.ส.ทท.4กก.2 บก.ทท. แถลงผลงานการจับกุมตัวนายศักดา นุชวงศ์ อายุ 26 ปี สาวประเภทสอง เจ้าของฉายา “น้องเนย วอล์กกิ้งสตรีท” ผู้ต้องหาคดี “ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน” ตามหมายศาลจังหวัดพัทยา ที่ 430/2560 ลงวันที่ 16 ตุลาคม 2560 พร้อมของกลางเป็นเสื้อผ้าที่สวมใส่ในวันเกิดเหตุ

สืบเนื่องจาก เมื่อกลางดึกของวันที่ 10 ตุลาคม ที่ผ่านมา นายศักดา หรือน้องเนย วอล์กกิ้งสตรีท ได้ร่วมกับเพื่อนสาวประเภทสองด้วยกันซึ่งอยู่ในระหว่างการหลบหนี ได้ทำทีเข้าไปตีสนิทผู้เสียหายนักท่องเที่ยวชาวรัสเซีย ซึ่งกำลังดื่มกินอยู่ในสถานบันเทิงแห่งหนึ่ง ย่านวอล์กิ้งสตรีท พัทยาใต้ เมื่อผู้ก่อเหตุเห็นว่าผู้เสียหายเริ่มมีอาการมึนเมาสุราอย่างหนักจึงออกอุบายและขออาสาไปส่งผู้เสียหายยังห้องพักของโรงแรมแห่งหนึ่งย่านถนนพัทยาสายสาม

ระหว่างที่ผู้เสียหายกำลังเข้าห้องน้ำ ผู้ก่อเหตุทั้งสองคนได้เห็นว่าตู้เซฟนิรภัยถูกเปิด และมีทรัพย์สินมีค่าอยู่ จึงได้ร่วมกันลักเอาสร้อยคอทองคำน้ำหนัก 75 กรัม และเงินสดจำนวน 4,000 บาท รวมมูลค่าทั้งหมด 150,000 บาท หลังจากนั้นผู้ก่อเหตุได้ขอตัวแยกย้ายกลับ ก่อนผู้เสียหายจะล้มตัวลงนอนโดยไม่สนใจอะไร เมื่อตื่นขึ้นมาปรากฏว่าทรัพย์สินสูญหายไป จึงเชื่อว่าน่าจะเป็นฝีมือสาวประเภทสองที่หวังดีขออาสามาส่งที่ห้องเป็นผู้ลงมือก่อเหตุอย่างแน่นอน จึงแจ้งตำรวจให้ช่วยติดตามตัว

ภายหลังตำรวจ สภ.เมืองพัทยา รับเรื่องจึงประสานตำรวจท่องเที่ยวเมืองพัทยา ร่วมกันลงพื้นที่ตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิด ก่อนรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออนุมัติศาลจังหวัดพัทยาเพื่อออกหมายจับ จนกระทั่งสืบสวนติดตามจับกุมตัวนายศักดา หรือน้องเนย วอล์กกิ้งสตรีท ไว้ได้ที่ห้องพักย่านพัทยากลาง ส่วนเพื่อนร่วมก่อเหตุครั้งนี้ ทั้งนี้ทราบชื่อและที่อยู่แล้ว ซึ่งอยู่ในระหว่างการติดตามตัวมาลงโทษ

เบื้องต้น นายศักดา หรือน้องเนย รับสารภาพกับตำรวจว่า เป็นผู้ลงมือก่อเหตุนักท่องเที่ยวรัสเซียจริง เนื่องจากต้องการรวบรวมเงินจำนวนหลายแสนบาทไปศัลยกรรมเลอลักษณ์พร้อมทั้งแปลงเพศเปลี่ยนโฉมจากชายเป็นหญิง อย่างไรก็ตามเจ้าจึงควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป