บีเอ็มฯ เตรียมเปิดตัว 2 รุ่นใหม่ "X3" "6 GT"

บีเอ็มฯ เตรียมเปิดตัว 2 รุ่นใหม่  "X3" "6 GT"

ดันยอดขายปีนี้พุ่ง 30%

ปี 2559 ตลาดรถกลุ่มพรีเมียม สะดุดเล็กน้อยหลังจากที่เติบโตสวนทิศทางตลาดรวมมาหลายปี โดยม่ียอดขายรวมประมาณ 2 หมื่นคัน จากที่เคยทำได้ 2.2 หมื่่นคันในปี 2558 อย่างไรก็ตามปีนี้ตลาดกลุ่มนี้กลับมาเติบโตอีกครั้ง โดยช่วงเดือน ม.ค.-ก.ค.ที่ผ่านมา ผู้เล่นหลักๆ ในตลาด ต่างมียอดขายที่เติบโตทั้งสิ้น เช่น เมอร์เซเดส-เบนซ์ ที่เพิ่มขึ้น 18.9% บีเอ็มดับเบิลยู โต 33.6% วอลโว่ ขยายตัว 47.7%

กฤษฎา อุตตโมตย์ ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารกิจการองค์กร บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย กล่าวว่า ตลาดรถพรีเมียมปีนี้มีแนวโน้มที่ดีมาตั้งแต่ต้นปี และเชื่อมั่นว่าจะมียอดขายรวมได้มากกว่า 2 หมื่นคัน และในส่วนของบีเอ็มดับเบิลยูที่การขยายตัวระดับสูงในช่วงที่ผ่านมานั้น เชื่อว่าทิศทางดังกล่าวจะต่อเนื่องไปยังช่วงเวลาที่เหลือของปี ดังนั้นมีความเป็นไปได้สูงที่จะสร้างยอดขายเติบโตในระดับ 30% ขึ้นไป จากปีที่แล้ว ที่ยอดขายรวมบีเอ็มดับเบิลยูและมินิมากกว่า 7,000 คัน 

“ตลาดรวมรถยนต์และตลาดพรีเมียมปีนี้มีทิศทางที่ดี และช่วงปลายปีเชื่อว่าจะยังคงเติบโตต่อไป จากทิศทางเศรษฐกิจที่ยังมีแนวโน้มที่ดี ตลาดหุ้นขายตัว ทั้งหมดนี้ช่วยสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคอย่างมาก”

การขยายตัวของบีเอ็มดับเบิลยู เป็นผลมาจากทั้งภาพรวมตลาดรถยนต์ที่เติบโต รวมไปถึงสินค้าของบริษัทที่หลากหลาย การจัดกิจกรรมและแนวทางการส่งเสริมด้านต่างๆ รวมถึงเงื่อนไขทางการเงินที่ล่าสุดจัดข้อเสนอพิเศษรวมค่าใช้จ่ายอื่นๆ เช่น การบำรุงรักษาในการใช้งานตามระยะทางรวมไว้ในราคารถ แต่มีหลายเงื่อนไขให้เลือกตามระยะเวลาที่ต้องการใช้งาน เช่น หากวางแผนใช้รถ 3 ปีก่อนเปลี่ยนคันใหม่ ก็จะจ่ายน้อยกว่าผู้วางแผนใช้รถ 5 ปี ทำให้ลูกค้าประหยัดและรู้ค่าใช้จ่ายที่แน่นอน ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดี

“เหมือนกับการเข้าร้านอาหาร ลูกค้าก็ชอบการมีเมนูหลายๆ อย่างให้เลือก เพราะไม่แน่ใจว่าเมนูเพียงอย่างเดียว จะถูกใจสำหรับทุกคน”

ในด้านตัวสินค้า ทั้งบีเอ็มดับเบิลยูและมินิเสริมตลาดอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปี โดยเฉพาะรถรุ่นประกอบในประเทศ หรือ ซีเคดี ทั้งรถทั่วไป และรถที่ใช้เทคโนโลยีสูงขึ้นอย่างปลั๊ก-อิน ไฮบริด ทำให้ลูกค้ามีทางเลือกมากขึ้น โดยปัจจุบันบีเอ็มดับเบิลยูประกอบรถไฮบริดในประเทศทั้ง ซีรีส 3 ซีรีส์ 5 เอ็กซ์ 5 และล่าสุดคือตัวท็อปอย่าง ซีรีส์7 ซึ่งทำให้มีระดับราคาที่สามารถแข่งขันได้มากขึ้น 

สำหรับความนิยมของตลาดปลั๊ก-อิน ไฮบริด นั้นขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยปี 2559 รถกลุ่มนี้มีสัดส่วนการขายประมาณ 5% ของยอดขายทั้งหมด ส่วนปีนี้บริษัทตั้งเป้าเพิ่มเป็น 15% โดยช่วงครึ่งปีแรก มีสัดส่วน 12.5% ดังนั้นคาดว่าทั้งปีจะเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ และในอนาคตบริษัทมีแผนจะเสริมตลาดนี้อย่างต่อเนื่อง

ส่วนแผนการเปิดตัวรถรุ่นใหม่เพิ่มเติมปีนี้ ในงานมหกรรมยานยนต์หรือ มอเตอร์ เอ็กซ์โป ที่จะเริ่มต้นขึ้นช่วงปลายเดือน พ.ย. บีเอ็มดับเบิลยู จะเปิดตัว 2 รุ่น คือ เอ็กซ์ 3 ใหม่ และ 6จีที ซึ่งเป็นรถรุ่นใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวในตลาดโลกในงาน แฟรงก์เฟิร์ต ออโต้โชว์ ช่วงเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งมีกระแสตอบรับที่ดี และคาดว่าการเปิดตัวในไทยจะมีทิศทางที่ดีเช่นกัน 

ปัจจุบัน รถในตระกูลเอ็กซ์ หรือ กลุ่มรถเอสยูวี ของบีเอ็มดับเบิลยู ซึ่งมีให้เลือกที่หลากหลาย ทั้ง เอ็กซ์ 1, เอ็กซ์ 3, เอ็กซ์ 4, เอ็กซ์ 5  และ เอ็กซ์ 6 มียอดขายที่ดีอยู่แล้ว ดังนั้นจึงเชื่อว่า เอ็กซ์ 3 ใหม่ที่พัฒนาขึ้นจากรุ่นเดิมอย่างมากทั้งการออกแบบ ความสามารถในการใช้งาน หรือเทคโนโลยี จะได้รับการตอบรับที่ดี โดยเบื้องต้นจะเริ่มทำตลาดรุ่นเครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร ในรูปแบบนำเข้าสำเร็จรูป หรือ ซีบียู ก่อนที่ในอนาคตจะขึ้นสายประกอบในประเทศต่อไป

ส่วน 6 จีที จะเป็นรถที่นำเข้ามาเพื่อเพิ่มทางเลือกให้ลูกค้าที่ต้องการใช้งานรถที่มีพื้นที่บรรทุกสัมภาระ พื้นที่ห้องโดยสารที่กว้าง สะดวกต่อการใช้งานในชีวิตประจำวัน 

“เราเคยทำตลาด 3 จีที ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างดี จึงเชื่อว่า 6 จีที ซึ่งเป็นตลาดที่ใหญ่ขึ้นมา และวางตลาดไว้ระหว่างกลาง ของซีรีส์ 5 และซีรีส์ 7 จะได้รับการตอบรับที่ดีและทำให้ยอดขายบีเอ็มดับเบิลยูขยายตัวมากขึ้น”