สั่งพักงาน! อาสาสมัครตำรวจขับรถชนวัยรุ่นเจ็บสาหัส

สั่งพักงาน! อาสาสมัครตำรวจขับรถชนวัยรุ่นเจ็บสาหัส

ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานีสั่งพักงานอาสาสมัครตำรวจขับรถชนวัยรุ่นเจ็บสาหัส-ล้อมคอกทุกโรงพักให้คุมเข้มการปฏิบัติหน้าที่ของอาสา ตั้งกรรมการหลายฝ่ายเข้าตรวจสอบเพื่อสร้างความเชื่อมั่น

จากกรณีอาสาตำรวจบ้านขับตราโล่ที่เป็นสายตรวจบางกุ้งสังกัด สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี ไล่ติดตาม และเบียดชนรถจักรยายนต์สีน้ำเงินหมายเลขทะเบียน คทก516สุราษฎร์ธานี ที่มีนาย ศิราวิช บุญชัก อายุ18ปีเป็นผู้ขับขี่ นาย ภูวริญ เมืองขำ อายุ 20 ปีนั่งซ้อนท้ายได้รับบาดเจ็บสาหัส และมีรถจักยานยนต์ที่จอดอยู่ริมถนนบริเวณหน้าร้านเดิมหมูกระทะ ถนนโฉลกรัฐ ม.1ต.บางกุ้ง อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี ได้รับความเสียหายอีก 6 คันโดยเหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 19.30 น.วันที่ 14 ตุลาคม 2560 ที่ผ่านมานั้น

ล่าสุดวันนี้ (16 ต.ค.60 ) พล.ต.ต.อภิชาติ บุญศรีโรจน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้กล่าวว่าขณะนี้ได้รายงานเรื่องดังกล่าวต่อ นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมขอให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองมาเป็นกรรมการร่วมกับทางตำรวจ และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ตรวจสอบข้อเท็จจริง และให้ความเป็นกับทั้ง 2 ฝ่ายโดยตนได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.วิชอบ เกิดเกลี้ยง รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานีฝ่ายกฎหมายลงมาควบคุมดูแลการสอบสวนด้วยตัวเองเพื่อให้ทุกฝ่ายมีความมั่นใจที่จะได้รับความเป็นธรรมซึ่งทุกสิ่งทุกอย่างขึ้นอยู่พยานหลักฐานในที่เกิดเหตุภาพวงจรปิด และพยานบุคคลผู้ที่เห็นเหตุการณ์

ในส่วนของผู้เสียหายได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.ศิริชัย ทรงวศิน ผกก.สภ.เมืองสุราษฎร์ธานีไปเยี่ยมทำความเข้าใจจะให้ความเป็นธรรมไม่ต้องกังวลกับเรื่องที่เกิดขึ้น พร้อมกล่าวย้ำว่าในส่วนการปฎิบัติหน้าที่ของอาสาสมัครตำรวจบ้าน จะต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่มีกฎหมายรองรับที่ชัดเจน ซึ่งตนเองได้สั่งกำชับผู้บังคับบัญชาทุกโรงพักให้อาสาสมัครปฏิบัติตามกฎระเบียบอย่างเคร่งครัดหากมีการฝ่าฝืนก็จะต้องพิจารณาไม่ให้ปฏิบัติหน้าที่ร่วมกับทางตำรวจหรือเปลี่ยนหน้าที่ของอาสาฯ เหล่านั้น

แต่ก็ต้องเข้าใจว่าอาสาส่วนหนึ่งก็มีความตั้งใจทำงาน แต่ในส่วนที่บกพร่องก็จะต้องมีการพิจารณาข้อบกพร่องอย่างจริงจัง เพื่อไม่ให้กระทบต่อสิทธิเสรีภาพของประชาชน และภาพลักษณ์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งตนมีคำสั่งไปแล้วว่าให้นายบุตรนา พุทธเสน อายุ21ปี อาสาสมัครตำรวจบ้านผู้ขับขี่รถคันดังกล่าวหยุดการปฏิบัติหน้าที่เป็นการชั่วคราวตั้งแต่วันนี้ (16 ต.ค.)เป็นต้นไป พร้อมสั่งให้ ผกก.สภ.เมืองสุราษฎร์ทบทวนบทบาทหน้าที่ของอาสาสมัครที่ปฏิหน้าที่ร่วมกับตำรวจอย่างเคร่งครัด

ขณะนี้พนักงานสอบสวนยังไม่ตั้งข้อหาแก่ผู้ใด ซึ่งทางเจ้าหน้าที่กำลังรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆมาประกอบในการดำเนินคดี ในส่วนผู้เสียหายจะต้องการให้ดำเนินการอย่างไรทางเจ้าหน้าที่พร้อมดำเนินการให้ทุกรูปแบบ แต่ทุกอย่างขึ้นอยู่กับพยานหลักฐาน พร้อมขอให้ประชาชนที่เห็นเหตุการณ์ก็สามารถมาเป็นพยานให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวนเจ้าของคดีได้ตลอดเวลา พร้อมวอนประชาชนอย่าหลงเชื่อผู้ใดชักจูงมาประท้วงปิดโรงพักตามที่มีการโพสต์ข้อความชักชวนมารวมตัวกันที่ สภ.เมือง

ด้านนายภูวริญ เมืองขำ อายุ 20 ปีนั่งซ้อนท้ายได้รับบาดเจ็บสาหัส ยังนอนพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสุราษฎร์ธานีโดยมี นางสุกัญญา ยันเสน อายุ 40 ปี มารดาผู้บาดเจ็บเปิดเผยว่า อาการของลูกชายยังไม่ค่อยรู้สึกตัวถามตอบยังไม่รู้เรื่อง แต่จากการสอบถามเพื่อนที่ไปด้วยกันบอกว่าได้ชักชวนกันขับรถจักรยายนต์ออกจากบ้านในซอยบ่อนไก่ใกล้กับสถานที่เกิดเหตุเพื่อไปหาซื้อขนมกินที่ถนนโฉลกรัฐได้พบกับอาสาตำรวจบ้านขับรถสายตรวจเรียกให้จอดแต่ไม่กล้าจอดเพราะไม่ได้สวมหมวกนิรภัย และกลัวถูกยัดของผิดกฎหมายให้จึงขับหนี ประกอบกับอาสาผู้นี้มีพฤติกรรมในทางไม่ดีมีกลุ่มเด็กวัยรุ่นในบริเวณนี้โดนไปหลายรายจึงหวาดกลัว

ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้นตนไม่ยอมความจะเอาเรื่องถึงที่สุด เนื่องจากเขาทำเกินกว่าเหตุ แค่ไม่สวมหมวกถึงกับขับรถไล่ชน หากไปเกิดเหตุในที่เปลี่ยวหรือไม่มีกล้องลูกของตนอาจตกเป็นผู้ต้องหาเจ็บฟรีตายฟรี และยืนยันว่าลูกของตนไม่ได้ไปที่ท่าเรือ พีเค และไม่มียาเสพติด ผลการตรวจไม่พบสีม่วง ลูกชายตนเป็นลูกชายตนโตคอยหาเลี้ยงครอบครัวทำงานเป็นช่างสีอยู่ที่อู่ศรีชดา ได้เงินเดือนๆละ 12,000 บาท ซึ่งเงินจำนวนนี้ได้จุนเจือครอบครัวเมื่อมาได้รับบาดเจ็บทำงานไม่ได้ และไม่รู้ว่าจะหายเป็นปกติหรือไม่

ส่วนอาการของผู้บาดเจ็บทางแพทย์โรงพยาบาลสุราษฎร์ธานีระบุว่ามีบาดแผลที่ศีรษะ กรามซ้ายหัก และมีบาดแผลที่บริเวณสะโพกด้านซ้าย ต้องผ่าตัด อาการโดยรวมดีขึ้นพ้นขีดอันตรายแล้ว