หนุ่มโร่มอบตัวตร.วอน “เปิ้ล นาคร” ยกโทษเหตุบุกบ้าน อ้างไม่มีเจตนาร้าย
เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 14 ตุลาคม นายพงษ์กาญจน์ ไผ่เรือง อายุ 36 ปี คนร้ายขับรถบุกบ้านของ นายนาคร หรือเปิ้ล ศิลาชัย ดารานักแสดงและพิธีกรชื่อดัง ย่านรามอินทรา เข้ามอบตัวกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ก่อนถูกควบคุมตัวมาสอบปากคำที่ สน.โคกคราม พื้นที่เกิดเหตุ โดยมี“เปิ้ล นาคร”และภรรยา เดินทางมาที่ สน.ด้วย
จากการนำตัวมาสอบสวนเบื้องต้น นายพงษ์กาญจน์ ได้กล่าวขอโทษและยกมือไหว้ เปิ้ล นาคร ที่เข้าไปในบ้านโดยไม่ขออนุญาต โดยยืนยันว่า ต้องการไปหาเปิ้ล นาคร โดยไม่มีเจตนาคิดร้ายกับคน ครอบครัว และยืนยันว่า หลังเกิดเหตุตนเองไม่ได้คิดจะหนี แต่เนื่องจากไม่ได้เล่นโชเชียลและไม่มีเงินเติมโทรศัพท์ จึงไม่ได้เข้ามอบตัวทันทีหลังเกิดเหตุ กระทั่งพี่ชายโทรมาบอกว่าเป็นข่าว จึงแสดงความจำนงค์ขอเข้ามอบตัว เพราะไม่อยากให้ “เปิ้ล นาคร” รู้สึกไม่สบายใจ ทั้งนี้อยากขอให้ “เปิ้ล นาคร ” ยกโทษให้กับการกระทำดังกล่าวของตนและสัญญาว่าจะไม่กระทำแบบเดิมอีก ไม่ว่าบ้านของ“เปิ้ล นาคร” หรือบ้านใครก็ตาม
นายพงศ์ฐกาญจน์ กล่าวอีกว่าต้นเป็นแฟนคลับของเปิ้ล นาคร ติดตามผลงานมาโดยตลอดแต่ไม่เคยเจอตัวจริง ตนได้ทราบว่าพี่ชายย้ายบ้านไปอยู่ติดกับบ้านของเปิ้ล นาคร จึงไปตามหาหลายครั้งแต่ก็ไม่เคยเจอ กระทั่งวันที่เกิดเหตุตนได้ยืมรถของชายคนหนึ่งแล้วขับไปหาเปิ้ล นาคร อีกครั้งแต่กลับพบผู้หญิงคนหนึ่งจึงถามไปว่า "ปอน นาเคิ้ล" อยู่ไหม ซึ่งชื่อดังกล่าวตนเป็นคนตั้งไว้เรียกไอดอลของตัวเอง เพราะเห็นว่าเปิ้ล นาคร เป็นคนตลก จึงตั้งชื่อให้ฟังดูตลก
นอกจากอยากเจอเปิ้ล นาคร ตัวจริงแล้ว ตนยังอยากพูดคุยเป็นการส่วนตัว อยากเล่าเรื่องชีวิตบัดซบของตัวเองให้ฟังเผื่อเปิ้ล นาคร จะเอาไปสร้างเป็นภาพยนต์ได้ อย่างไรก็ตามตนรู้สึกเสียใจต่อเหตุการที่เกิดขึ้น ไม่ได้มีเจตนาร้ายใดๆ ตนขอโทษกับสิ่งที่ได้ลงไปโดยไม่คิดว่าจะทำให้เปิ้ล นาคร และภรรยา หวาดกลัวขนาดนี้
นายพงศ์ฐกาญจน์ กล่าวต่อไปว่าส่วนเด็กผู้ชายอายุ 5 ขวบ ที่อยู่กับตนเป็นลูกของหลานสาวตัวเอง ซึ่งหลานไม่ดูแลและชอบตบตีเด็ก ตนรู้สึกสงสารจึงคอยห้ามปรามและเป็นคนดูแลเด็กมาตลอด
ด้านนายนาคร กล่าวว่าเมื่อเวลา 11.00 น. ตนได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าได้ตัวผู้ต้องหาแล้วที่จ.อยุธยา พร้อมกับมีเด็กอยู่กับผู้ต้องหาด้วย กำลังนำตัวมาสอบสวนที่สน.โคกคราม ตนรู้สึกดีใจมาก แต่ก็รู้สึกตกใจว่าทำไมมีเด็กอยู่ด้วย หรือจะเป็นการลักพาตัว ตนจึงรีบมาดูตัวผู้ต้องหา จากการพูดคุยกับผู้ต้องหาแล้วตนรู้สึกเห็นใจ แต่ก็ไม่แน่ใจว่าเป็นการให้การเท็จหรือไม่ เพราะตนไม่เคยเจอเหตุการณ์ลักษณะนี้มาก่อน จึงปรึกษากับทางพ.ต.อ.ศรายุทธ แล้วสรุปได้ว่าตนยืนยันให้เจ้าหน้าที่ดำเนินคดีตามกฎหมาย แต่ก็ไม่อยากให้ผู้ต้องหาติดคุกเพราะต้องเลี้ยงเด็กด้วย โดยระหว่างการพูดคุยนั้นน้องธันวา ได้เดินมาสะกิดตนแล้วพูดว่า “อย่าให้ตำรวจจับลุงหนูนะ หนูไม่อยากกลับไปอยู่กับแม่” ตนจึงยิ่งรู้สึกเห็นใจ แต่ก็อยากให้เป็นบทเรียนไว้ โดยเชื่อว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการด้วยวิธีที่เหมาะสม รวมถึงขอหารือมาตรการในการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นอีก
ด้านร.ต.ท.อนุชาติ โคตรสีเขียว รองสว.(สอบสวน) เจ้าของคดี เปิดเผยว่าทางเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาบุกรุก กับผู้ต้องหาและทำประวัติไว้ก่อนจะปล่อยตัวกลับพร้อมติดตามพฤติกรรม ก่อนจะเรียกตัวมาดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมายอีกครั้ง แต่ระหว่างนี้ทางผู้เสียหายสามารถถอนแจ้งความได้ เนื่องจากเป็นคดีที่สามารถยอมความกันได้.