เชื่อคนไทยประจักษ์ดี ในหลวง ร.9 ทรงยอมลำบากเพื่อคนอื่น

เชื่อคนไทยประจักษ์ดี ในหลวง ร.9 ทรงยอมลำบากเพื่อคนอื่น

"ประยุทธ์" เชื่อ คนไทย ประจักษ์ดี "ในหลวง ร.9" ทรงยอมลำบากเพื่อคนอื่น ไม่เคยทอดทิ้งปชช. เผย คนไทยยังโชคดี มี "ในหลวง ร.10"

เมื่อวันที่ 13 ต.ค.60 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวในรายการศาสตร์พระราชา สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน ว่า หากจะถามว่ามีใครหรือไม่ ที่ยอมลำบากเพื่อคนอื่น ยอมทำงานหนัก โดยไม่มีข้อแม้ และไม่มีวันหยุด ยอมตากแดด อาบเหงื่อต่างน้ำ ทำงานบนพื้นดิน ในป่าเขา และพื้นที่ห่างไกลความเจริญ ตนก็เชื่อว่าในหัวใจชาวไทยทุกคน ย่อมประจักษ์ดีว่า คือ ในหลวงของเรา การทรงงาน 70 ปี เพื่อพวกเรากว่า 70 ล้านคนของในหลวงรัชกาลที่ 9 ผู้ทรงครองราชย์ด้วยทศพิธราชธรรม และทรงยึดมั่นในพระปฐมบรมราชโองการ ที่ว่า เราจะปกครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม โดยที่พระองค์ไม่เคยทรงทอดทิ้งให้ประชาชนคนไทย แต่นับจากนี้ไป ความสุขเหล่านั้นจะไม่มีอีกแล้ว แต่โชคดีที่คนไทยยังมีรัชกาลที่ 10 ที่ทรงสืบสานต่อยอดสิ่งเหล่านี้ต่อไป

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า วันพฤหัสบดีที่ 13 ตุลาคม 2559 เวลา 15.52 น. ถือเป็นห้วงเวลาแห่งความวิปโยคโศกศัลย์ เป็นวันที่ความเศร้า สลดสูญเสีย ท่วมท้นจิตใจของปวงชนชาวไทยทั้งประเทศ เมื่อสำนักพระราชวัง ได้ออกแถลงการณ์อย่างเป็นทางการว่า พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศร รามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามมินทราธิราช บรมนาถบพิตร เสด็จสู่สวรรคาลัยแล้ว สุดที่คนไทยจะหักห้ามความอาลัยรัก และความระลึกถึง ที่มีแด่พระองค์ พระผู้เปรียบดั่ง พ่อของแผ่นดิน ได้ โดยความกตัญญูกตเวที และความจงรักภักดี ก็จะยังอยู่ในจิตใจของพวกเรา พสกนิกรของพระองค์ตลอดไป

"นายกฯ" เถิดเหนือเกล้าฯ ยากหาผู้ใดเสมอเหมือน "ร.9" ทรงดูแลพสนกนิกรทุกหมู่เหล่า เตรียมความพร้อมให้คนไทย เป็นศูนย์รวมจิตใจ

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตลอดรัชสมัยของพระองค์ ได้ทรงทำหน้าที่พ่อของแผ่นดิน ยากจะหาผู้ใดเสมอเหมือน เพื่อต้องการให้ลูกมีรากฐานที่ดีในการดำรงชีวิตทัดเทียมผู้อื่น และที่สำคัญคือมีความสงบสุขร่มเย็น แต่งานของพระองค์ ยากกว่าภารกิจของพ่อโดยทั่วไป เพราะทรงมีลูกหลายสิบล้านคน ทำให้พระองค์ต้องทรงงานหนัก ตนขอกล่าวสรุป 3 ประการ คือ 1.ทรงดูแลพสกนิกรทุกหมู่เหล่า ทุกเชื้อชาติ ทุกศาสนา บนผืนแผ่นดินไทย ด้วยความเสมอภาค ให้ลูกหลานไทยทุกคนอยู่ดีกินดี โดยทรงสอนให้เรียนรู้และอยู่กับธรรมชาติ อย่างสมดุล ด้วยการทำนุบำรุง ฟื้นฟู และใช้สอยทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน ทรงสอนข้าราชการให้ทำงานกับประชาชน ทรงให้ความสำคัญอย่างมากกับการพัฒนาคน ทั้งด้านการศึกษาและ สาธารณสุข โดยทรงเห็นว่า พลเมืองเป็นทรัพยากรที่สำคัญของประเทศชาติ ถ้าประชาชนไม่ได้รับการศึกษาก็จะไม่มีการพัฒนาตนเอง ถ้าประชาชน ไม่มีสุขภาพกายและใจที่เข้มแข็ง ก็ไม่มีเรี่ยวแรงสำหรับทำงาน เอาชนะอุปสรรค หรือพัฒนาบ้านเมือง ทรงสอนหลักการใช้ชีวิต เช่น การประหยัด การออม ความพอเพียง พึ่งพาตนเอง ทรงพระราชทาน ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อเป็นแนวการดำรงชีวิต พระเกียรติคุณดังกล่าว เป็นที่ ประจักษ์แก่ชาวโลก โดยทรงได้รับการขนานนามว่าทรงเป็น พระมหากษัตริย์นักพัฒนา จนนานาประเทศตื่นตัวปรับรูปแบบการพัฒนาภายใต้แนว คิดใหม่นี้ มีการบรรจุไว้เป็นส่วนหนึ่งของแผนการพัฒนาขององค์การสหประชาชาติ และได้ถวายรางวัลความสำเร็จสูงสุดด้านการพัฒนามนุษย์แด่ พระองค์เมื่อ 10 ปีที่แล้ว รวมทั้งได้จัดให้มีการประชุมระดับนานาชาติ อีก 2 ครั้ง สำหรับการถวายราชสดุดี และถวายความอาลัย เพื่อเป็นการเทิด พระเกียรติแด่ “ในหลวงรัชกาลที่ 9” ภายหลังการเสด็จสวรรคต และเมื่อครบรอบ 1 ปี การเสด็จสวรรคตของพระองค์

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า 2. ในบทบาท “พ่อของแผ่นดิน” พระองค์ทรงเตรียมความพร้อมให้ “คนไทย” สามารถก้าวเดินเข้าสู่โลกกว้างได้อย่างสง่างาม โดยทรงทำให้ประเทศไทยเป็นที่รู้จัก ยอมรับ และได้รับการสนับสนุนในเวทีระหว่างประเทศ ด้วยการเสด็จพระราชดำเนินเยือนประเทศต่างๆ และ การให้การต้อนรับราชอาคันตุกะ จากต่างประเทศ ทั้งนี้ ก็เพื่อให้ประเทศไทยมีภาพลักษณ์ที่ดีในสายตาชาวโลก เป็นรากฐานให้ลูกหลานไทยมีจุด ยืนที่มั่นคงในสังคมโลก และ 3. ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงเป็นจุดศูนย์รวมจิตใจของพสกนิกรชาวไทย คำพ่อสอนส่วนหนึ่งสามารถสรุปใจความได้ว่า หากสังคมไม่มีความสุข คนในสังคมก็จะหาความสุขไม่ได้ นอกจากนี้ ทรงให้สติและหาทางออกของทุกปัญหา รวมทั้งวิกฤตทางการเมืองใน ประเทศทุกๆ ครั้งที่ผ่านมา

"นายกฯ" ปลุก "คนไทย" ต้องแสดงให้พ่อเห็น เราเข้มแข็ง พร้อมยืนหยัดด้วยตัวเอง

"จนถึงวันนี้ เราต้องแสดงให้พ่อเห็นว่าพ่อได้สร้างให้เรามีความเข้มแข็ง พร้อมที่จะยืนหยัดด้วยตัวเอง เพื่อให้พ่อหายเหนื่อยและยิ้มได้ 1 ปี ที่ผ่านมา ทำให้เราทุกคน ประจักษ์แก่ใจตนว่า พระเกียรติคุณและพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ยังคงสถิตอยู่ในดวงใจของพวกเรามิรู้ลืม เราทุกคนได้ สำนึกร่วมกันแล้วว่า ศาสตร์แห่งพระราชาที่พระราชทานไว้เป็นความจริงที่เที่ยงแท้ อันจะนำมาซึ่งความสุขสวัสดี อย่างยั่งยืน จากนี้สืบไป ปวงชนชาว ไทยจะยังคงยึดมั่นในความจงรักภักดี และเทิดทูนต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ด้วยพระบารมีแห่งสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ์บดิน ทรเทพยวรางกูร ที่จะทรงเป็นมิ่งขวัญ เป็นหลักชัย และเป็นศูนย์รวมจิตใจชาวไทยทั้งชาติ ในการร่วมกันสืบสานพระราชปณิธานของ พระบรมชนก นาถและสมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราช ทุกพระองค์แห่งราชวงศ์จักรี ในการทำนุบำรุง ปกปักษ์ รักษา ประเทศไทยไว้เพื่อลูกหลานไทย ตราบ นานเท่านาน" นายกฯ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า รัฐบาลขอให้คำมั่นแก่พี่น้องประชาชนคนไทยว่าเราจะร่วมกันตามพระราชดำริของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในการจัดงานพระ ราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลดุลยเดช ในวันที่ 26 ตุลาคมนี้ ให้เรียบร้อย สมบูรณ์ที่สุด เพื่อถวายพระเกียรติยศอันสูงสุดเป็นครั้งสุดท้าย ตนขอเชิญชวนให้ประชาชนทุกคนร่วมกันทำความดี ร่วมกันสวดภาวนาตามศาสนา ที่ทุกท่านนับถือ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระผู้เสด็จสู่สวรรคาลัย ทั้งนี้ วันที่ 13 ตุลาคมของทุกปีนับจากนี้สืบไป จะไม่เป็นเพียงวันที่ปวงชนชาว ไทย จะได้สำนึกและรำลึกถึงพระองค์ท่าน พระมหากษัตริย์ผู้เป็นที่รักยิ่งเท่านั้น แต่จะเป็นวันที่พวกเราทุกคน จะได้รู้ รัก สามัคคี หลอมรวมจิตใจให้ เป็นหนึ่งเดียว และพระองค์จะทรงประทับอยู่ในจิตใจของคนไทยทั้งชาติ ชั่วกาลนาน ขอให้ทุกคนร่วมกันทำดีเพื่อพ่อ และสานต่อพระราชปณิธาน เพื่อให้พระองค์ท่านหายเหนื่อยและมีความสุข