‘มินอ่องหล่าย’แจงทูตสหรัฐโรฮิงญาไม่ใช่เมียนมา

‘มินอ่องหล่าย’แจงทูตสหรัฐโรฮิงญาไม่ใช่เมียนมา

ผู้นำกองทัพเมียนมาแจ้งทูตสหรัฐ โรฮิงญาไม่ใช่เมียนมา ระบุสื่อปั่นตัวเลขผู้ลี้ภัยสูงเกินจริง

เฟซบุ๊คของ พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย ผู้บัญชาการทหารสูงสุดเมียนมา ระบุว่า วานนี้ (12 ต.ค.) ผู้บัญชาการทหารสูงสุดแสดงความเห็นอย่างครอบคลุมที่สุดกรณีวิกฤติชาวโรฮิงญา ขณะพูดคุยกับนายสกอต มาร์เซียลทูตสหรัฐตั้งใจสื่อไปถึงนานาชาติ

ระหว่างพูดคุยนายพลผู้นี้เรียกชาวโรฮิงญาว่าเบงกาลี ซึ่งเป็นความหมายในทางลบโดยระบุว่าประเทศเจ้าอาณานิคมอย่างอังกฤษต้องรับผิดชอบต่อปัญหานี้

“เมียนมาไม่ได้นำชาวเบงกาลีเข้าประเทศ เจ้าอาณานิคมต่างหากที่เป็นฝ่ายนำมา พวกเขาไม่ใช่คนท้องถิ่น มีบันทึกยืนยันว่าพวกเขาไม่ใช่แม้แต่จะเรียกว่าโรฮิงญา เป็นแค่ชาวเบงกาลีในช่วงอาณานิคม”

พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย เป็นบุคคลที่มีอำนาจมากที่สุดในเมียนมา ท่าทีแข็งกร้าวชี้ว่าเขาแทบจะไม่หวั่นไหวกับภาพลักษณ์ของกองทัพจากวิกฤติโรฮิงญา ที่เรียกเสียงประณามจากนานาชาติ รวมทั้งสร้างความไม่มั่นใจต่อการเปลี่ยนผ่านสู่ประชาธิปไตยของเมียนมา ภายใต้การนำของนางอองซาน ซูจี

ในการสนทนากับทูตสหรัฐ ผู้บัญชาการทหารสูงสุดเมียนมาไม่ได้พูดถึงข้อกล่าวหาจากข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ ที่ว่าปฏิบัติการของเมียนมาเป็นตำราตัวอย่างของการกวาดล้างชาติพันธุ์ ระบุเพียงว่ากลุ่มติดอาวุธที่ไม่เห็นด้วยกับการพิสูจน์สัญชาติอยู่เบื้องหลังการโจมตี โดยสังหารชาวฮินดู 90 คน และชาวโรฮิงญา 30 คนที่ติดต่อกับรัฐบาล

“ชาวเบงกาลีในพื้นที่เกี่ยวข้องกับการโจมตีภายใต้การนำของกองทัพปลดปล่อยโรฮิงญาอาระกัน (อาร์ซา) จึงเป็นเหตุผลว่าพวกเขาหนีไปเพราะรู้สึกไม่ปลอดภัย บ้านเกิดของชาวเบงกาลีก็ต้องเป็นเบงกอล ที่พวกเขาหนีไปเป็นไปได้ว่าเพราะรู้สึกปลอดภัยกว่า” ผู้นำทหารเมียนมากล่าวและว่าจำนวนชาวบ้านที่หนีไปยังบังกลาเทศเกินจริงไปมาก ทั้งยังมีการใช้สื่อปั่นกระแสและโฆษณาชวนเชื่ออยู่เบื้องหลัง