“ซูจี”เผย3แนวทางผ่าวิกฤตขัดแย้งรัฐยะไข่

นางออง ซาน ซูจี ที่ปรึกษาแห่งรัฐของเมียนมา แถลงเกี่ยวกับปัญหาผู้อพยพโรฮิงญา โดยระบุว่า รู้สึกยินดีที่ได้ยืนหยัดร่วมกับรัฐบาล ด้วยความเข้าใจและด้วยความเป็นเอกภาพในช่วงเวลาที่ประเทศกำลังเผชิญหน้ากับความท้าทายสูงสุด  ไม่มีพลังใดที่สามารถนำมาเปรียบเทียบกับพลังสนับสนุนจากมหาชน ความเชื่อใจของประชาชนและความเป็นเอกภาพของประชาชน ดิฉันเชื่อว่าไม่ว่าเราจะเผชิญหน้าอุปสรรคใหญ่หลวงแค่ไหน เราก็จะสามารถฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆเหล่านั้นไปได้ด้วยความเป็นเอกภาพของประชาชนของเรา

"ตามที่ทุกคนรับรู้ ขณะนี้ ทั่วโลกกำลังจับตามองปัญหาในรัฐยะไข่  ที่มีจุดเริ่มต้นจากการโจมตีสำนักงานตำรวจในรัฐนี้ เมื่อเดือนต.ค.ปีที่แล้ว  จากนั้นมีการโจมตีของกลุ่มก่อการร้ายอีกครั้งในเดือนส.ค.ของปีนี้ ก่อนที่ความขัดแย้งจะบานปลายอย่างต่อเนื่อง  ซึ่งปัญหาความรุนแรงที่เกิดขึ้น ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ประเทศของเราอย่างมาก เราจำเป็นต้องทำความเข้าใจและชี้แจงเรื่องนี้แก่ทั่วโลก แม้ว่าในความเป็นจริง จะไม่มีใครเข้าใจสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับประเทศของเราได้อย่างถ่องแท้เหมือนเรา ไม่มีใครปรารถนาสันติภาพและการพัฒนาแก่ประเทศของเราได้มากเท่าคนในประเทศ  จึงเป็นเหตุผลที่เราต้องแก้ปัญหาเหล่านี้โดยใช้ความเป็นเอกภาพที่เป็นจุดแข็งของเรา"นางซูจี กล่าว

นางซูจี ระบุว่า ในครั้งนี้ ประเทศของเราจำเป็นต้องเดินหน้าดำเนินการในด้านต่างๆที่จำเป็นต้องทำและต้องทำอย่างให้ถูกต้อง กล้าหาญและให้เกิดประสิทธิผล เราจะแก้ปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นอย่างสร้างสรรค์และให้ประสบความสำเร็จแทนที่จะคอยแก้ตัวหรือแก้ต่างคำวิพากษ์วิจารณ์ตลอดจนข้อกล่าวหาต่างๆ เราจะแสดงให้โลกเห็นว่าเราจริงจังกับการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นด้วยความจริงใจ ในรัฐยะไข่ เราได้ดำเนินการแก้ปัญหาไปแล้วหลายด้านด้วยกัน  แต่ยังคงมีภาระกิจที่สำคัญอีกสามเรื่องที่เราต้องเร่งแก้ไข  ซึ่งได้แก่..

1.ส่งกลับบรรดาผู้อพยพที่ข้ามเข้าไปในบังกลาเทศและให้ความช่วยเหลือด้านสิทธิมนุษยชนอย่างเต็มที่

2.ตั้งถิ่นฐานให้แก่ผู้อพยพเหล่านี้ใหม่และเร่งฟื้นฟูจิตใจและ

3.พัฒนาภูมิภาคดังกล่าวและสร้างสันติภาพให้เกิดขึ้่นอย่างแท้จริง

ที่ปรึกษาแห่งรัฐของเมียนมา กล่าวว่า "เรายังคงเดินหน้าให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม และขณะนี้ เรากำลังเจรจากับรัฐบาลบังกลาเทศเกี่ยวกับการรับผู้อพยพกลุ่มนี้ และที่ผ่านมาเราประสบความสำเร็จในการเจรจาเกี่ยวกับประเด็นนี้กับรัฐบาลบังกลาเทศสองครั้งด้วยกัน และขณะนี้เรากำลังอยู่ระหว่างเจรจารอบที่สาม

ขณะที่เรากำลังทำงานเพื่อให้เกิดการตั้งถิ่นฐานใหม่ และฟื้นฟู เราจำเป็นต้องทำงานไม่ใช่เพียงเพื่อกลุ่มคนที่จะกลับจากบังกลาเทศเท่านั้นแต่เราต้องทำงานเพื่อชนกลุ่มน้อยทุกกลุ่ม รวมถึง     

ชาวยะไข่ และชาวฮินดู เราจะทำงานเพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าพวกเขาจะหวนกลับมาดำเนินชีวิตได้ตามปกติ  เราจะจัดทำโครงการต่างๆที่ยั่งยืนเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตพวกเขา  และเราต้องวางแผนจัดทำโครงการระยะยาวเพื่อพัฒนาคนเหล่านี้เพื่อให้เกิดสันติภาพและบรรเทาปัญหาความขัดแย้งต่างๆในภูมิภาคในอนาคต

นางซูจี กล่าวด้วยว่า ในการพัฒนารัฐยะไข่ครั้งนี้  รัฐบาลเมียนมา ได้เชิญองค์กร หน่วยงานจากต่างประเทศเข้ามามีส่วนร่วมในการช่วยเหลือ อาทิ หน่วยงานต่างๆของสหประชาชาติ สถาบันการเงินต่างๆ อาทิเช่น ธนาคารโลก ธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย (เอดีบี)  บรรดาเอ็นจีโอกลุ่มต่างๆ  ตลอดจนประเทศพันธมิตรของเมียนมาทุกประเทศ 

ประมุขแห่งรัฐของเมียนมา ระบุว่า ตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ 15 ต.ค.ที่จะถึงนี้ รัฐบาลเมียนมาจะประกาศเรื่องนี้บนหน้าเว็บไซต์ของรัฐบาลและตามสื่อของรัฐทุกแห่งเกี่ยวกับรายละเอียดในการช่วยเหลือและบรรเทาปัญหาขัดแย้งในรัฐยะไข่ รวมทั้งช่องทางในการสื่อสารกับรัฐบาล เพื่อให้ชาวเมียนมาในประเทศตลอดจนเพื่อนๆและมิตรประเทศทั้งหลายที่มีจิตใจอยากช่วยเหลือสามารถติดต่อกับกงสุล หรือสำนักงานการทูตของเมียนมาได้ทันที