'ทักษิณ' ยื่นพยาน4ปาก 'นักข่าว-นักวิชาการ' สู้หมิ่นเบื้องสูง

'ทักษิณ' ยื่นพยาน4ปาก 'นักข่าว-นักวิชาการ' สู้หมิ่นเบื้องสูง

"ทักษิณ" ดิ้นสู้พิสูจน์เจตนาคดีหมิ่นเบื้องสูง ร้องอัยการสูงสุดสอบพยานเพิ่ม4ปาก ทั้งนักข่าวตปท.และนักวิชาการ

ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถนนแจ้งวัฒนะ วันที่ 12 ต.ค. 60 เวลา 10.00 น. นายโชคชัย อ่างแก้ว ทนายความรับมอบอำนาจจากนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และ พล.ต.อ.วิรุฬห์ ฟื้นแสน อดีต ส.ว.เชียงราย ได้ยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรม ถึงนายเข็มชัย ชุติวงศ์ อัยการสูงสุด ภายหลังมีข่าวอัยการสูงสุดมีความเห็นควรสั่งฟ้องนายทักษิณ ข้อหาหมิ่นเบื้องสูง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และ พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ฯ จากการให้สัมภาษณ์สื่อต่างประเทศเมื่อเดือน พ.ค.58 ที่ประเทศเกาหลีแล้วภายหลังมีการเผยแพร่ผ่านสื่อโซเชียล ซึ่ง ปอท.ได้ส่งสำนวนให้อัยการเมื่อปี 2558 ทั้งนี้การร้องขอความเป็นธรรม ผู้ต้องหาขอให้มีการสอบสวนพยานเพิ่มเติม หรือทบทวนให้มีความเห็นใหม่ โดยมีนายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง และนายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกอัยการ เป็นผู้แทนรับหนังสือร้องขอความเป็นธรรมดังกล่าวไว้เพื่อเสนออัยการสูงสุด พิจารณาต่อไป

ขณะที่นายโชคชัย อ่างแก้ว ทนายความของนายทักษิณ กล่าวว่า เหตุที่มายื่นหนังสือในวันนี้ เนื่องจาก อดีตนายกฯทักษิณได้ทราบข่าวจากสื่อมวลชนว่าอัยการสูงสุดมีการสั่งฟ้องในมาตรา 112 กรณีที่ในสัมภาษณ์สื่อมวลชนที่ประเทศเกาหลี เมื่อปี 2558 จึงต้องการทราบข้อเท็จจริงว่ามีคำสั่งฟ้อง ดังกล่าวจริงหรือไม่ และหากได้มีคำสั่งฟ้องจริงก็ขอให้อัยการสูงสุดมีคำสั่งทบทวนความเห็นดังกล่าวใหม่ เนื่องจากเห็นว่าคำสั่งฟ้องมีความคลาดเคลื่อนในข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายหลายประการ ดังนั้น นายทักษิณจึงข้อให้มีการสอบคำให้การพยานเพิ่มเติมอีก 4 ปาก ประกอบด้วย ผู้สื่อข่าวซึ่งดำเนินการสัมภาษณ์อดีตนายกฯทักษิณที่ประเทศเกาหลี เพื่อจะสอบสวนเกี่ยวกับประเด็นการตั้งคำถามและขอบเขตของการสัมภาษณ์ และพยานที่เหลือ อาทิ พล.ต.อ.วิรุฬห์ ฟื้นแสน และ นักวิชาการ ที่จะให้สอบสวนในประเด็นของการตีความและความเข้าใจในคำสัมภาษณ์และความรู้สึกว่าเมื่อรับฟังการให้สัมภาษณ์ของอดีตนายกฯทักษิณแล้วเข้าใจอย่างไร

อดีตนายกฯทักษิณ ได้ยืนยันว่าท่านมีความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์มาตลอด ซึ่งในการให้สัมภาษณ์ ท่านก็ไม่ได้ระบุข้อความได้พาดพิงถึงสถาบันพระมหากษัตริย์ การมีคำสั่งฟ้องจึงอาจถูกแรงกดดันจากการเมือง และมิได้เป็นไปโดยอิสระ การสอบสวนอาจทำโดยไม่ครบถ้วน นายโชคชัย ทนายความของนายทักษิณ กล่าวและว่า อดีตนายกฯทักษิณ ได้เคยร้องขอความเป็นธรรมให้สอบพยานซึ่งเป็นผู้สื่อข่าวที่สัมภาษณ์ที่ประเทศเกาหลีแต่ทราบว่ายังไม่ได้มีการดำเนินการเรื่องดังกล่าว และพยานที่มาให้ถ้อยคำหากเป็นพยานที่เป็นปฏิปักษ์ทางการเมืองต่ออดีตนายกฯทักษิณก็อาจแปลความคำให้สัมภาษณ์บิดเบือนไปจากข้อเท็จจริงได้ ซึ่งการที่จะฟ้องผู้ใดจะต้องพิจารณาองค์ประกอบความผิดทั้งองค์ประกอบภายนอกและองค์ประกอบภายใน เรื่องเจตนาให้ชัดเจน ไม่ใช่การแปลความถ้อยคำให้เป็นผลร้ายโดยมิได้พิจารณาพฤติกรรมอื่นๆ ประกอบ ดังนั้นการมายื่นหนังสือต่ออัยการสูงสุดก็เพื่อขอความเป็นธรรมขอให้มีการสอบพยานเพิ่มเติม หรือทบทวนให้มีความเห็นใหม่ตามที่สมควรต่อไป

นายโชคชัย ทนายความ ยังกล่าวอีกว่า คดีนี้ยังไม่ได้มีการแจ้งข้อกล่าวหาและสอบคำให้การชั้นสอบสวนอดีตนายกฯทักษิณเนื่องจากขณะนี้ท่านยังอยู่ในต่างประเทศ ดังนั้นการร้องขอความเป็นธรรมยังไม่ถือเป็นการรับทราบข้อกล่าวหาและให้การปฏิเสธในชั้นสอบสวนตามขั้นตอน แต่เป็นการใช้สิทธิให้สอบพยานเพิ่มเติม

ทั้งนี้นายประยุทธ รองโฆษกอัยการ กล่าวภายหลังรับหนังสือว่า ตามระเบียบสำนักงานอัยการสูงสุดว่าด้วยการดำเนินคดีอาญา ของ พนักงานอัยการ พ.ศ. 2547 ข้อ 48 ว่าด้วยการร้องขอความเป็นธรรมนั้นผู้ต้องหา สามารถยื่นคำร้องได้ ซึ่งตามระเบียบไม่ได้กำหนดว่าผู้ร้องต้องมาเอง อย่างเช่นกรณีนี้ผู้ต้องหา ได้มอบอำนาจให้ทนายความ และพล.ต.อ.วิรุฬห์ ฟื้นแสน มายื่น ซึ่งสามารถทำได้ โดยการยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมต่ออัยการนี้ ถือเป็นการใช้สิทธิของผู้ต้องหาธรรมดาในชั้นสอบสวนหรือชั้นพนักงานอัยการที่สามารถทำได้ ตามระเบียบดังกล่าว