เร่งช่วยชาวบ้านถูกน้ำป่าซัดถนนขาด เขื่อนลำปาวยันรับน้ำได้อีก

เร่งช่วยชาวบ้านถูกน้ำป่าซัดถนนขาด เขื่อนลำปาวยันรับน้ำได้อีก

ทหารนำสะพานเครื่องหนุนมั่นลงติดตั้งช่วยชาวบ้านตำบลนามะเขือ อำเภอสหัสขันธ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ หลังน้ำป่าซัดถนนขาด ขณะที่เขื่อนลำปาวยังคงปิดการระบายน้ำ ยันสามารถรับน้ำได้อีก

เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2560 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากสถานการณ์พายุฝนที่ตกลงมาก่อนหน้านี้ ทั้งพายุเซินกา ต่อเนื่องถึงพายุทกซูรี เมื่อกลางเดือนกันยายนที่ผ่านมา ประกอบกับฝนที่ตกลงมาในช่วงนี้ ส่งผลให้เกิดความเสียหายอย่างมาก โดยเฉพาะสิ่งสาธารณูปโภค และเส้นทางถนนคมนาคมต่างๆถูกกระแสน้ำป่าพัดขาดหลายสาย และทำให้ปริมาณน้ำในแหล่งกักเก็บน้ำต่างๆเพิ่มขึ้น ทำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องเร่งช่วยเหลือ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชน

ล่าสุด ที่ถนนเชื่อมระหว่างบ้านโพนสวาง หมู่ 4 ต.นามะเขือ อ.สหัสขันธ์ กับบ้านดงคำพัฒนา หมู่ 12 ต.หนองแวง อ.สมเด็จ จ.กาฬสินธุ์ พ.อ.ประวัติ จารุตัน เสนาธิการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย จ.กาฬสินธุ์ นำกำลังทหารจากกองพลทหารราบที่ 6 โดยกองพันทหารช่างที่ 6 กองพลทหารม้าที่ 3 และทหารกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย จ.กาฬสินธุ์ จำนวน 50 นาย ร่วมกับนางสมประสงค์ สุพัฒนาพงศ์ นายกเทศมนตรีตำบลนามะเขือ นายจีรศักดิ์ จราฤทธิ์ ผญบ.บ้านโพนสวาง หมู่ที่ 4 พร้อมด้วยฝ่ายปกครองอำเภอ เจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยช่วยกันติดตั้งสะพานเครื่องหนุนมั่น เพื่อเป็นสะพานข้ามผ่านสัญจรได้ หลังถูกกระแสน้ำป่าพัดพังเสียหายมานานกว่า 1 เดือน ท่ามกลางสายฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก

พ.อ.ประวัติ จารุตัน เสนาธิการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า จากอิทธิพลพายุเซินกาต่อเนื่องถึงพายุทกซูรีเมื่อกลางเดือนกันยายนที่ผ่านมา ทำให้เกิดฝนตกหนัก น้ำป่าไหลหลาก กัดเซาะถนนและสะพานขาดหลายแห่ง โดยเฉพาะพื้นที่ตำบลนามะเขือ จากรายงานพบว่าได้รับความเสียหาย 6 จุด ประกอบกับตลอดสัปดาห์นี้ หย่อมความกดอากาศพาดผ่านภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้ฝนตกหนัก จึงได้ประสานกองพลทหารราบที่ 6 โดยกองพันทหารช่างที่ 6 ร่วมกับกองพลทหารม้าที่ 3 นำสะพานเครื่องหนุนมั่นมาติดตั้ง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน ให้สามารถสัญจรได้สะดวก

ทั้งนี้ สะพานเครื่องหนุนมั่นดังกล่าว จะช่วยอำนวยความสะดวกให้ชาวบ้านสัญจรได้ตามปกติเป็นการชั่วคราวประมาณ 7 วัน หลังจากที่ 1 เดือนที่ผ่านมา จุดนี้ชาวบ้านได้ช่วยกันทำสะพานไม้ไผ่พอได้เดินข้ามเท่านั้น ขณะที่รถใหญ่ไม่สามารถข้ามผ่านได้ ชาวบ้านที่ใช้เส้นทางนี้ไปประกอบอาชีพ และติดต่อราชการ ต้องเลี่ยงไปใช้เส้นทางอื่นที่อ้อมไกล สิ้นเปลืองค่าขนส่ง อย่างไรก็ตาม ในส่วนของการซ่อมแซมอย่างถาวรนั้น จะได้ร่วมกับภาคส่วนที่เกี่ยวข้องดำเนินการในโอกาสต่อไป

ด้านนายฤาชัย จำปานิล ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำปาว หรือเขื่อนลำปาว กล่าวว่า สำหรับสถานการณ์เขื่อนลำปาวปัจจุบันเขื่อนมีน้ำไหลเข้า 16 ล้าน ลบ.ม.ทำให้ล่าสุดมีปริมาณน้ำอยู่ที่ 1,764 ล้าน ลบ.ม.จากความจุระดับกักเก็บ 1,980 ล้าน ลบ.ม.คิดเป็น 89 % ซึ่งหากเกิดสถานการณ์ฝนตกลงมาในพื้นที่ก็ยังสามารถรับน้ำได้อีก 216 ล้าน ลบ.ม.และขณะนี้ทางเขื่อนยังคงปิดประตูหยุดการระบายน้ำลงสู่แม่น้ำปาว เพื่อเป็นการจัดการจราจรน้ำ และไม่ให้มวลน้ำไหลไปสมทบกับแม่น้ำชี ป้องกันไม่ให้น้ำล้นตลิ่งลดพื้นที่น้ำท่วม ซึ่งปัจจุบันกำลังอยู่ในขั้นวิกฤติ แต่หากมีพายุฝนตกลงมา โดยเฉพาะในช่วงวันที่ 15-17 ตุลาคม 2560 นี้ ที่มีการคาดการณ์ว่าจะมีพายุฝน และมีปริมาณน้ำไหลเข้าจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ก็จะพิจารณาปิดระบายน้ำตามความเหมาะสม ทั้งนี้ในช่วงปลายเดือนตุลาคมเขื่อนลำปาวจะกักเก็บน้ำให้ได้มากที่สุด เพราะในช่วงฤดูทำนาปรัง ทางเขื่อนจะส่งน้ำให้กับเกษตรทำนาปรังและปลูกพืชอย่างเต็มพื้นที่ ทั้งใน จ.กาฬสินธุ์ จ.ร้อยเอ็ด และ จ.ยโสธร เพื่อช่วยเหลือเกษตรกร

สำหรับสถานการณ์แม่น้ำชี บริเวณเขื่อนระบายน้ำวังยาง ต.ลำชี อ.ฆ้องชัย จ.กาฬสินธุ์ ล่าสุดระดับเพิ่มสูงขึ้นอีก 1 ซม. มีระดับน้ำอยู่ที่ 140.31 ม.รทก.(เมตรเทียบกับทะเลปานกลาง) จากระดับกักเก็บปกติ 137 ม.รทก.ระบายน้ำผ่านเขื่อน 1,051.44 ลบ.ม.ต่อวินาที หรือ90.84 ล้าน ลบ.ม.ต่อวัน ซึ่งยังคงติดธงแดงอยู่ในขั้นวิกฤติ โดยพัฒนะ พลศรี หัวหน้าเขื่อนระบายน้ำวังยาง พร้อมเจ้าหน้าที่ได้จัดเวรยามติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมกับแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงให้เฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง