เฟดเสียงแตกเรื่องเงินเฟ้อ

เฟดเสียงแตกเรื่องเงินเฟ้อ

เฟดเสียงแตกเรื่องเงินเฟ้อ ขณะเจ้าหน้าที่ส่วนหนึ่งแนะชะลอขึ้นดอกเบี้ยเหตุเงินเฟ้อยังต่ำกว่าเป้า

ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้เปิดเผยรายงานการประชุมประจำเดือนก.ย.เมื่อวานนี้ โดยระบุว่า เจ้าหน้าที่เฟดมีความเห็นที่แตกต่างกันในประเด็นเงินเฟ้อ โดยเจ้าหน้าที่เฟดจำนวนหนึ่งยังคงมองว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ถือเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผล หากแนวโน้มเศรษฐกิจระยะกลางยังคงไม่เปลี่ยนแปลง ขณะที่เจ้าหน้าที่เฟดบางคนได้แสดงความเชื่อมั่นว่า อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐจะปรับตัวสูงขึ้น

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่เฟดอีกจำนวนหนึ่งกล่าวว่า การตัดสินใจเรื่องอัตราดอกเบี้ยนั้น ควรพิจารณาจากข้อมูลเศรษฐกิจและเงินเฟ้อเป็นหลัก โดยเจ้าหน้าที่บางคนมองว่า เฟดยังไม่ควรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย จนกว่าอัตราเงินเฟ้อจะส่งสัญญาณว่ามีแนวโน้มที่จะดีดตัวขึ้นสู่เป้าหมายของเฟดที่ระดับ 2% ในระยะกลาง

นอกจากนี้ รายงานการประชุมยังระบุว่า เจ้าหน้าที่หลายคนได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อที่ยังคงอยู่ต่ำกว่าเป้าหมายของเฟด และแนะนำให้คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เอฟโอเอ็มซี) ประเมินสถานการณ์เงินเฟ้อก่อนที่จะตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในปีนี้

สำหรับการประชุมดังกล่าว ซึ่งมีขึ้นเมื่อวันที่ 19-20 ก.ย.ที่ผ่านมานั้น คณะกรรมการเอฟโอเอ็มซี มีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 1.00-1.25% พร้อมประกาศว่าจะเริ่มปรับลดงบดุลที่ประกอบด้วยพันธบัตรรัฐบาล, ตราสารหนี้ของหน่วยงานของรัฐ และหลักทรัพย์ที่มีสัญญาจำนองค้ำประกัน หรือเอ็มบีเอส ในเดือนต.ค. จากปัจจุบันที่ระดับ 4.5 ล้านล้านดอลลาร์

ภายใต้นโยบายปรับลดงบดุลของเฟด เฟดจะกำหนดวงเงินพันธบัตรรัฐบาล, ตราสารหนี้ของหน่วยงานของรัฐ และเอ็มบีเอส ซึ่งเฟดจะปล่อยให้ครบกำหนดอายุโดยไม่มีการนำเม็ดเงินไปลงทุนใหม่ และจะเพิ่มเพดานตามเป้าหมายที่เฟดกำหนด โดยในเบื้องต้น เฟดจะจำกัดเพดานการลดวงเงินการถือครองตราสารเหล่านี้ที่ระดับ 1 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือน ก่อนที่จะขยายเพดานการลดการถือครองตราสารอีก 1 หมื่นล้านดอลลาร์ในทุกๆ ไตรมาส จนกระทั่งแตะระดับ 5 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือนในเดือนต.ค.2561