MORNING CALL ACTION NOTES (11 ต.ค.60)

MORNING CALL ACTION NOTES (11 ต.ค.60)

เลือกตั้งปี 61

ภาวะตลาดหุ้นไทยวานนี้ปรับตัวขึ้นแรงตอบรับข่าวหลังนายกฯประกาศจัดเลือกตั้งในช่วงเดือน พ.ย.61 ส่งผลให้มีแรงซื้อกลุ่ม Big Cap เช่น ENERG COMM ICT หนุนให้ SET ปิด New high ที่ 1,706.95 จุด (+14.73 จุด) Vol. 8.1 หมื่นลบ. โดย Foreign Net +2,314 ลบ.  TFEX Net –13,338 สัญญา ตราสารหนี้ -664 ลบ.

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

+ นายกรัฐมนตรีประกาศกำหนดเลือกตั้งชัดเจนขึ้น โดยคาดว่าจะประกาศวันเลือกตั้งในเดือน มิ.ย.61 และจัดเลือกตั้งในเดือน พ.ย.61

+ ตลาดหุ้น DJ เนื่องจากหุ้นวอลมาร์ทประกาศแผนซื้อคืนหุ้นวงเงิน 2 หมื่นล้านดอลลาร์ พร้อมกับรอดูผลประกอบการ Q3/17 ของกลุ่มธนาคารรายใหญ่ในสัปดาห์นี้

+ น้ำมันดีดตัวขึ้นล่าสุด 51 US/Barrel หลังซาอุฯจะปรับลดปริมาณการส่งออกน้ำมันเดือนพ.ย.ลงเหลือ 560,000 บาร์เรล/วัน  ตามข้อตกลงโอเปก

- ตลาดหุ้นยุโรปปรบตัวลง จากความกังวลผู้นำแคว้นกาตาลุญญายังคงเดินหน้าแยกตัวเป็นอิสรภาพจากสเปน

+ IMF เพิ่มคาดการณ์การขยายตัวเศรษฐกิจโลกปีนี้สู่ 3.6%,ปีหน้า 3.7%จากอานิสงส์การเติบโตในสหรัฐ ยุโรป จีน ญี่ปุ่น

+ Fund Flow เป็น Net Buy 3 วันราว 3.6 พันลบ. รวมถึงเงินบาทแข็งค่าขึ้นล่าสุด 33.2 Bath/USD. อย่างไรก็ตามตั้งแต่เดือนก.ย. TFEX เป็น Net Short ราว 1.1 แสนสัญญา.

** วันนี้ 11 ต.ค. ติดตาม FOMC เปิดเผยรายงานการประชุมวันที่ 19-20 กันยายน และจับสัญญาณแนวโน้มทิศทางดอกเบี้ย

ภาวะตลาดหุ้นไทยได้ปัจจัยบวกจากความชัดเจนแผนการเลือกตั้งของไทยในช่วงพ.ย.61 ,ราคาน้ำมันที่ดีดตัวขึ้น รวมถึง sentiment เชิงบวกจาก Fund Flow ต่างชาติที่ไหลเข้า 3 วันต่อเนื่องตามทิศทางเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น อย่างไรก็ตามควรระวังแรงขายจาก Overbought ทางเทคนิคซึ่งจะกดดันต่อดัชนีได้ ดังนั้นประเมินว่า SET จะปรับตัวขึ้นทดสอบบริเวณ  1,715 จุดก่อนจะอ่อนตัวลง

กลยุทธ์การลงทุน   เก็งกำไรกลุ่มที่มีปัจจัยสนับสนุน

- กลุ่มพลังงาน ราคาน้ำมันดีดตัวขึ้นและคาดกำไร Q3/17 เติบโตสูง

- TTA  PSL  RCL อานิสงส์ค่าระวางเรือ + 8% WoW ล่าสุด 1,418 จุด

- PDI ราคาสังกะสีทำ New High รอบ 10 ปีล่าสุด 3,292 US/Ton

- กลุ่มที่คาดว่างบ Q3/17 จะเติบโตขึ้น ได้แก่ PTTGC TOP IRPC BCP BCPG  HARN FTE  ASIMAR  ATP30 JWD  ERW CKP COMAN SYNEX XO TPCH

หุ้นแนะนำพิเศษ

SYNEX (ราคาปิด 15.40 ซื้อ ราคาเหมาะสม 16.20)

  • คาดกำไร 2H60 อยู่ที่ 327 ล้านบาทเติบโต 9% จาก 1H60 เนื่องจากคาดว่ายอดขายจากสินค้าใหม่ใน 2H60 อาจอ่อนตัวลง (คาดว่าลูกค้าเร่งซื้อสินค้าใหม่เพื่อเก็บเป็นสินค้าคงเหลือครบแล้ว) อย่างไรก็ตามยอดขายได้แรงหนุนจากการเปิดตัวสินค้าไอทีใหม่ของ Apple (Iphone8 และ IphoneX) และ Samsung (Galaxy Note8) ขณะที่คาดว่ากำไรปี 60 จะอยู่ที่ 628 ล้านบาทเติบโต 54%YoY
  • เข้าลงทุน 30% ในบริษัท บัฟ ดำเนินธุรกิจสินเชื่อรถจักรยานยนต์คาดรับรู้กำไรไตรมาสละ 6 ล้านบาท โดยในอนาคตคาดว่าจะทำเทคโนโลยีที่ SYNEX มีเข้าไปช่วยบริหารจัดการระบบของ บัฟ และอาจขยายธุรกิจของ บัฟ มาสู่สินเชื่อสินค้ไอที นอกจากนี้ปี 61 บริษัทยังมองหาโอกาสการลงทุนในบริษัทอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับสินค้าไอทีเพิ่มเติมเพื่อต่อยอดการเติบโตของบริษัทในอนาคต
  • ได้รับผลบวกจากเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นสู่ 21 บาท/ดอลลาร์ เพราะนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศเป็นส่วนใหญ่

หุ้นมีข่าว   

Ø  (+) IVL (ราคาปิด 44.25Bloomberg Consensus 45.24) ได้ลงนามข้อจกลงซื้อกิจการ 100% กิจการผลิตฟิล์ม-วัสดุโพลีเมอร์ของ DuPont Teijin ซึ่งมีโรงผลิตทั้งหมด 8 แห่ง ที่ตั้งอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกา ทวีปยุโรป และสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งมีกำลังการผลิตฟิล์มและวัสดุ โพลีเมอร์ จำนวนรวม 277,000 ตัน/ปี (ที่มาอินโฟเควสท์) 

Ø  AMA (ราคาปิด 17.60 ถือ ราคาเหมาะสม 19.40 บาท) แย้มไตรมาส 4/2560 ผลงานพีค หลังบุ๊กรายได้ขนส่งสินค้าทางเรือครบ 10 ลำ น้ำหนักรวม 8.2 หมื่นเดตเวตตัน  บวกกับขนส่งทางบกเข้ามาเต็มไตรมาส  (ทันหุ้น)

Ø  ความเห็น เราแนะนำถือ รอการกลับมาเติบโตอีกครั้ง หลังงบ 2Q60 ทรงตัวYoY  ฝ่ายวิจัยปรับประมาณการกำไรปี 60 ลดลงเหลือโต 30%YoY ส่วนงวด 3Q60 คาดได้รับแรงกดดันบางส่วนจากเรือที่มีการส่งมอบใหม่ซึ่งมีต้นทุนและค่าใช้จ่ายก่อนที่เรือจะมีการออกวิ่ง โดยเชื่อว่ากำไรปี 61 น่าจะยังเติบโตได้อีกราว 36%YoY รับผลบวกเรือใหม่เต็มปี รวมเป็น CAGR 2 ปี ที่ 33%

Ø  (+) TCAP (ราคาปิด 51.25 Bloomberg Consensus 50.67) ขายหุ้น MBK จำนวน 35 ล้านหุ้นคาดรับกว่า 700 ล้านบาทบันทึกบางส่วนในไตรมาส 3 และส่วนที่เหลือในไตรมาส 4 ปีนี้ ทำให้เหลือหุ้น MBK ในพอร์ต 19.90% ตามเกณฑ์แบงก์ชาติที่ไม่ให้สถาบันการเงินถือหุ้นในบริษัทที่ไม่ใช่ธุรกิจหลัก หรือนอนคอร์ (Non-Core) เกินกว่า 20% ที่ได้มีการผ่อนผันนับจากเดือน ต.ค. ปี 2559 (ข่าวหุ้น)

Ø  (+) TISCO (ราคาปิด 80 Bloomberg Consensus 80.92) วันนี้มีกำหนดส่งงบการเงิน 3Q60  Bloomberg Consensus คาด 1,581 ลบ. +5%QoQ ขณะที่ NPL มีแนวโน้มทรงตัวระดับต่ำส่งผลให้สำรองหนี้สูญลดลงจากปีก่อนหน้า โดยลดลง 32% ใน 1H60 สำหรับกำไรปี 60 Bloomberg คาดว่าไว้ราว 6,215 ลบ. +24% ด้านสินเชื่อ 8M60 แม้จะลดลง 4.4%YTD  แต่การรวมธุรกิจสินเชื่อรายย่อยและบัตรเครดิตจาก SCBT ที่เสร็จสิ้น 1 ต.ค. จะส่งผลให้เห็นการเติบโตของสินเชื่อในปลายปี โดยเรายังมีมุมมองเชิงบวกต่อผลการดำเนินงานที่ดีต่อเนื่อง และ yield 4.5%

Ø  BBL-SCB-KTB ร่วมปล่อยกู้ในรูปแบบการปล่อยกู้ร่วม (Syndicate Loan) รวมทั้งสิ้น 63,360 ล้านบาทโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู-สายสีเหลือง วงเงินธนาคารละประมาณ 21,120  ล้านบาททยอยเบิกจ่ายตั้งแต่เดือน มิ.ย.60

Ø  SSP คาดเซ็นสัญญา PPA โซลาร์ฟาร์มอผศ. 5 MW กับกฟภ.ภายในมี.ค.61 ก่อนเริ่ม COD ภายใน Q4/61

Ø  ประเด็นบวกกลุ่มสื่อสาร กสทช.ตั้งคณะทำงานจัดทำเกณฑ์ประมูลคลื่น 1800 MHz และ 900 MHz เสร็จในสิ้น ต.ค.นี้