ผู้ว่าฯปทุมธานี ลงเรือมอบถุงยังชีพ ให้ผู้ประสบภัยน้ำท่วม

เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 10 ต.ค. 60 ดร.พินิจ บุญเลิศ ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี นางดลวสา บุญเลิศ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดปทุมธานีนายธานินทร์ เนื่องทศเทศ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานปทุมธานี นายประทีป บริบูรณ์รัตน์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดปทุมธานี นางรุ่งทิวา สุดแดน พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และหัวหน้าส่วนราชการ ร่วมลงพื้นที่พร้อมลงเรือมอบถุงยังชีพให้กำลังใจผู้ประสบอุทกภัยน้ำท่วมจากน้ำล้นตลิ่งทั้งสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา โดยลงเรือที่ท่าน้ำบริเวณชุมชนวัดชินวราราม ตำบลบางขะแยง อำเภอเมือง จังหวัดปทุมธานี

ผู้ประสบอุทกภัยน้ำท่วมจากน้ำล้นตลิ่งทั้งสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา โดยจังหวัดปทุมธานีได้รับผลกระทบ 2 อำเภอ คือ อำเภอเมืองปทุมธานี และอำเภอสามโคก รวมประชาชนที่ได้รับผลกระทบจำนวน 2,510 ครัวเรือน ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานีได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการลงพื้นที่สำรวจผู้ที่ได้รับผลกระทบเพื่อช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนในเบื้องต้นมอบถุงยังชีพ และเรือพายจากสภากาชาดไทยให้กับประชาชน ซึ่งได้สร้างขวัญ และกำลังใจให้กับประชาชนเป็นอย่างยิ่ง เมื่อผู้ว่าราชการจังหวัดได้ลงเรือล่องไปตามแม่น้ำเจ้าพระยาจะมีประชาชนพายเรือมารับสิ่งของถุงยังชีพข้าวสารอาหารแห้งเป็นระยะ

ด้านนายธานินทร์ เนื่องทศเทศ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานปทุมธานี กล่าวว่า เนื่องจากสภาวะปัจจุบันภาคเหนือ และภาคกลางตอนบน มีฝนตกชุกมาก ก่อให้เกิดปริมาณน้ำจากนครสวรรค์ ปัจจุบันมีอัตราอัตราการระบายผ่านตรงนั้นอยู่ประมาณ 3,100 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที โดยทางกรมชลประทานได้พยายามผันน้ำเข้าไปในระบบชลประทาน ให้พื้นที่ลุ่มต่ำที่โครงการชลประทานได้เตรียมการไว้กับราษฎรอยู่ก่อนแล้ว ที่ผ่านมาราษฎรได้มีการเพาะปลูกล่วงหน้าไปแล้ว และเก็บเกี่ยวเรียบร้อย สามารถตัดยอดน้ำออกไปได้ประมาณ 480 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ปริมาณน้ำส่วนที่เหลือนั้นจะเข้าระบบชลประทานผ่านเขื่อนเจ้าพระยา จากเดิมปล่อยน้ำในปริมาณ 2,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และได้ขยับการปล่อยน้ำลักษณะการปรับแบบขั้นบันไดขึ้นมาเป็น 2,600 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ในส่วนของปริมาณน้ำที่เขื่อนป่าสักค่อนข้างเต็ม และได้เพิ่มการระบายที่เขื่อนป่าสักมาที่เขื่อนพระรามหกได้ระบายน้ำปริมาณ 477 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เมื่อนำปริมาณน้ำ 2 ส่วนนี้รวมกัน เข้าสู่ระบบชลประทานที่อยู่ทางด้านซ้ายขวาผ่านบางไทร ซึ่งวันนี้อยู่ที่ประมาณ 2,377 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที

บริเวณพื้นที่ของจังหวัดปทุมธานี ปัจจุบันสามารถกันน้ำได้ที่ระดับ 3.5 เมตร แต่ระดับน้ำสูงสุดในวันนี้ที่ตรวจวัดได้อยู่ในเกณฑ์ 2.35 เมตรยังต่ำกว่าปริมาณที่รับได้อีกประมาณ 1.5 เมตรซึ่งทางชลประทานปทุมธานีได้คาดการณ์ล่วงหน้าว่าอีกประมาณ 10 วัน น้ำที่ผ่านบางไทรน่าจะใกล้เคียงกับปริมาณน้ำ 3,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จะสูงเพิ่มขึ้นจากเดิม 30-50 เซนติเมตร โดยคันกั้นน้ำของจังหวัดปทุมธานีสามารถรับปริมาณน้ำได้ที่ 3,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที

ปริมาณน้ำดังกล่าวจะส่งผลให้น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาล้นตลิ่ง แต่เป็นแบบชั่วคราว ราษฎรจะได้รับผลกระทบวันละ 2 ครั้ง เป็นช่วงเวลาที่น้ำทะเลหนุนน้ำขึ้นน้ำลง ผู้ที่ได้รับผลกระทบจะเป็นผู้ที่อาศัยอยู่นอกคันกั้นน้ำ กรมชลประทานมั่นใจว่าคันกั้นน้ำที่อยู่ในระดับ 3.5 เมตร สามารถกันน้ำได้แน่นอน ทางกรมชลประทานพยายามจะบริหารจัดการน้ำออกไปตามระบบชลประทานเพื่อพี่น้องชาวปทุมธานี ในช่วงนี้ราษฎรที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาต้องขนย้ายของขึ้นที่สูง ระวังปลั๊กไฟ และติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิดและระวังแมลงสัตว์มีพิษ รวมถึงบุตรหลานที่อยู่ในช่วงปิดเทอมป้องกันเด็กจมน้ำช่วงน้ำหลากนี้