'เจ้าคณะเชียงใหม่'เก็บตัวเงียบ! รู้แล้วปมฉาว'พระราชรัชมุนี'

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สืบเนื่องจากกรณีมีผู้มาร้องเรียนยังศูนย์ดำรงธรรมเชียงใหม่ ว่า พระราชรัชมุนี เจ้าอาวาสวัดสวนดอก และเจ้าคณะอำเภอเมืองเชียงใหม่ สวมบัตรประชาชนคนตาย เชื่อว่ามีการปลอมแปลงชื่อและที่อยู่จากเดิมที่มีสัญชาติเป็นชาวเมียนมาหรือไม่

มีรายงานว่าหายตัวไปอย่างลึกลับ จากสำนักปฏิบัติธรรมที่อำเภอฝาง จ.เชียงใหม่ มีรายงานว่ามีรถตู้สีดำมารับตั้งแต่คืนวันที่ 5 ตุลาคมที่ผ่านมาหรือไม่ และปัจจุบันยังติดต่อไม่ได้ไม่มีผู้ใดทราบว่าไปจำวัดอยู่ที่ใด

ล่าสุด ช่วงเช้าวันนี้ ( 10 ต.ค.) ผู้สื่อข่าว ได้เดินทางมาที่ วัดโพธารามมหาวิหาร หรือวัดเจ็ดยอดพระอารามหลวง ถ.ซูเปอร์ไฮเวย์ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ซึ่งมี พระเทพปริยัติ เป็นเจ้าอาวาส และมีตำแหน่งเป็นเจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่ เพื่ออาราธนาสอบถามข้อเท็จจริงหรือข้อคิดเห็น รวมทั้งแนวทางการดำเนินการในทางสงฆ์ เกี่ยวกับกรณีพระราชรัชมุนี เจ้าคณะอำเภอเมืองเชียงใหม่ ที่มีข้อกล่าวหาและหายตัวไปดังกล่าว ในฐานะของพระในปกครองตามลำดับชั้น แต่กลับพบว่ากุฏิเจ้าอาวาสของพระเทพปริยัติ กลับปิดเงียบ มีแผ่นป้ายติดด้านหน้าว่า ไม่อยู่ แต่จากการสอบถามไปยังพระลูกวัด ทราบว่าพระเทพปริยัติ มีอาการอาพาธ ไม่ค่อยสบาย เนื่องจากมีอายุมากแล้ว (70 ปี) และพักผ่อนจำวัดอยู่บนกุฏิชั้น 2 แต่จะลงมาฉันท์เพลในเวลาประมาณ 11.00 น.

ทางผู้สื่อข่าวจึงได้ เฝ้ารอติดตามอยู่ จนถึงเลยช่วง 11.30 น. แต่ก็ไม่พบวี่แววของ พระเทพปริยัติ ที่จะเดินออกมาจากกุฏิแต่อย่างใด ขณะนั้นเอง ได้มีพระรูปหนึ่งเดินมาที่กุฏิเจ้าอาวาส เพื่อสอบถามบรรดาผู้สื่อข่าวที่เฝ้ารออยู่ รวมทั้งมีการเชิญให้กลับออกไปจากสถานที่บริเวณกุฏิเจ้าอาวาส เนื่องจากเจ้าอาวาสไม่อยู่ ทราบภายหลังว่าพระรูปดังกล่าว คือ พระศุภชัย ปิยสีโล ผู้ช่วยเลขาฯวัดเจ็ดยอดพระอารามหลวง ซึ่งอ้างว่าเจ้าอาวาสไม่อยู่และไม่สามารถออกมาให้ข้อมูลใดๆได้

พระศุภชัย ปิยสีโล ผู้ช่วยเลขาวัดเจ็ดยอดพระอารามหลวง กล่าวว่า ในกรณีของ พระราชรัชมุนี นั้นทางเจ้าคณะจังหวัด ได้ทราบเรื่องแล้ว และทางฝ่ายสงฆ์ที่เคยรู้จักและเคารพศรัทธาพระราชรัชมุนี เชื่อว่าต่างก็ทราบเรื่องแล้ว แต่ไม่มีผู้ใดสามารถออกมาให้ข้อคิดเห็นได้ในขณะนี้ เนื่องจากทางพระชั้นผู้ใหญ่ที่เหนือขึ้นไป อาทิ ระดับเจ้าคณะภาค ที่จะต้องสั่งการลงมา ว่าจะให้มีการปฏิบัติดำเนินการอย่างไรต่อไป ซึ่งทางหลวงพ่อท่านเจ้าคณะจังหวัด ก็ไม่ได้นิ่งเฉยทราบเรื่องแต่แรกแล้วและมีการปรึกษาหารือกันแล้วแต่ยังไม่สามารถตัดสินใจดำเนินการใดได้ เนื่องจากต้องรอทางผู้ใหญ่ชี้แนวทางปฏิบัติสั่งการลงมาก่อน ทั้งนี้เนื่องจากเป็นเรื่องละเอียดอ่อน หากให้ข้อมูลใดๆที่ผิดพลาดออกไปอาจสร้างความเสียหายต่อวงการสงฆ์ และพระพุทธศาสนาได้

ขณะที่เมื่อทางผู้สื่อข่าวขอ ติดต่อประสานงานเพื่อจะได้มีการเข้าพบสัมภาษณ์พระเทพปริยัติ ในภายหลังเมื่อถึงเวลาเหมาะ ทางพระศุภชัย กลับปฏิเสธว่าตนไม่สามารถตัดสินใจแทนได้ และขอไม่ให้นัดให้สัมภาษณ์ล่วงหน้าใดๆทั้งสิ้น เนื่องจากต้องใช้เวลาตามระเบียบขั้นตอน แต่ทั้งนี้ไม่ใช่ว่าไม่ให้ความร่วมมือ หลบหลีกหนีแต่อย่างใด แต่เมื่อถึงเวลาพร้อมในเวลาอันใกล้เชื่อว่า ท่านเจ้าคณะจังหวัดก็จะออกมาให้สัมภาษณ์ตามปกติ