เร่งขยายผล คนไทยร่วมขนสารเสพติดส่งออสเตรเลีย

เร่งขยายผล คนไทยร่วมขนสารเสพติดส่งออสเตรเลีย

เลขาฯ ป.ป.ส. เร่งขยายผลถึงคนไทยร่วมขบวนการลักลอบส่งไอซ์-อีเฟดรีน ไปออสเตรเลีย ระบุต้นตอถูกส่งจากกลุ่มนักค้าสามเหลี่ยมทองคำ ผู้เสพมีกำลังซื้อสูง ตกเป็นเป้าหมายกลุ่มผู้ค้ายา

เมื่อวันที่ 10 ต.ค.60 นายศิรินทร์ยา สิทธิชัย เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส. ) เปิดเผยความคืบหน้าการขยายผลหลังจากที่เจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. และ ตำรวจ ออสเตรเลีย ในโครงการ หน่วยปฏิบัติการเฉพาะกิจร่วมด้านการปราบปรามยาเสพติด และอาชญากรรมข้ามชาติ หรือ TASKFORCE STORM ได้ร่วมสืบสวนสอบสวน และแลกเปลี่ยนข้อมูล จนนำไปสู่การจับกุม ขบวนการลักลอบขน ไอซ์ และสารตั้งต้น อีเฟดรีน ที่นำผสมใส่ในขวดชาเขียว จำนวนกว่า 3.9 ตัน โดยมีการลักลอบขนส่งทางเรือ และถูกจับกุมได้ที่ท่าเรือแห่งหนึ่งในเมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย ซึ่งการจับกุมสารตั้งต้นดังกล่าวถือเป็นการจับกุมครั้งใหญ่ที่สุดของประเทศออสเตรเลีย หลังจากที่เคยจับกุมได้เมื่อประมาณ 4 เดือนที่ผ่านมาจับได้ ประมาณ 1.4 ตัน โดยสารตั้งต้นอีเฟดรีนจำนวนนี้ หากหลุดไป และนำไปผลิตเป็น ไอซ์ จะสามารถสร้างมูลค่าได้จำนวนมหาศาลมากถึง 3,500 ล้านดอลล่าออสเตรเลีย หรือกว่า 87,000 ล้านบาท

นายศิรินทร์ยา กล่าวว่า จากการประสานข้อมูลทางการออสเตรเลีย เบื้องต้นทราบว่า สารตั้งต้นยาเสพติดดังกล่าวถูกลักลอบลงเรือมาจากไทยโดยมีต้นทางมาจากประเทศเพื่อนบ้านของไทย ซึ่งป.ป.สได้ข้อมูลการข่าวจากโครงการแม่น้ำโขงปลอดภัย ระบุว่า เป็นเครือข่ายที่เกี่ยวกับกลุ่มผู้ผลิต หรือผู้ค้ายาเสพติดจากพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำ ขณะนี้อยู่ระหว่างการขยายผล เพราะเชื่อว่าน่าจะมีคนไทยเชื่อมโยงร่วมอยู่ในขบวนการ อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลยังไม่ชัดเจนว่า ไอซ์ และ อีเฟดรีน ที่ส่งไปยังออสเตรเลีย จะถูกนำไปผลิตเป็นยาเสพติดต่อหรือไม่ แต่อีเฟดรีน ที่ถูกผสมใส่ไปในขวดน้ำชา ที่จับได้จำนวน3. 9 ตัน นำไปผลิตเป็นหัวเชื้ออีฟรีดีน ได้ถึง 34 ตัน โดยสามารถนำไปผลิตเป็น ไอซ์ ได้ถึง 3 ตัน ซึ่งกลุ่มผู้เสพในออสเตรเลียเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูงจึงเป็นเป้าหมายอันดับต้นๆของขบวนการค้ายาเสพติด แต่ยังไม่พบหลักฐานที่ชัดเจนว่าจะนำไปเป็นสารตั้งต้นผลิตยาเสพติดในประเทศออสเตรเลียหรือไม่