หนุ่มจัตุรัสเมายาบ้า ก่อ3คดีรวดจี้ชิงทรัพย์-พยายามข่มขืน

หนุ่มจัตุรัสเมายาบ้า ก่อ3คดีรวดจี้ชิงทรัพย์-พยายามข่มขืน

ระทึก! ชาวบ้านนับร้อยรวมตัวไล่ล่า หนุ่มเมายาจนมุมกลางป่ายูคา หลังก่อเหตุ 3 คดีรวด ใช้ปืนจี้ชิงทรัพย์ครู ชิงทรัพย์สร้อยคอทองคำแม่ลูกอ่อน และพยายามข่มขืนหญิงชรา

จากที่ พ.ต.อ.เสกสรร บุญยรัชนิกร ผกก.สภ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ได้รับแจ้งเหตุจากนาย ปั่น ผกามาศ อายุ 50 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน บ้านโคกสามัคคี หมู่ที่1 ต.หนองไทร อ.ด่านขุนทด ว่ามีคนร้ายใช้อาวุธปืนจี้ชิงทรัพย์ครูบนถนนสายบ้านโคกสามัคคี-บ้านหนองสะแก ต.หนองไทร อ.ด่านขุนทด หลังได้รับแจ้งเหตุ จึงรีบรุดออกไปยังที่เกิดเหตุพร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจำนวนหนึ่ง

หลังจากเดินทางไปถึงยังที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ พบจักรยานยนต์ ฮอนด้าเวฟ 110 ไอ สีแดงดำ ทะเบียน 1 กบ 5337 นครราชสีมา จอดอยู่ ข้างกันเจ้าหน้าที่พบนางสุกัญญา อายุ 51 ปี ผู้เสียหาย อยู่ในสภาพเนื้อตัวแปะเปื้อนไปด้วยดินโคลน ยืนตัวสั่นด้วยความหวาดกลัว จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่านาง สุกัญญาฯ เป็นครูสอนอยู่ที่ศูนย์เด็กเล็ก ขององค์การบริหารส่วนตำบลหนองไทร หลังเสร็จจากการสอนขณะขับขี่จยย.เพื่อจะกลับบ้านพักที่ บ้านหนองสะแก ต.โคกสามัคคี อ.ด่านขุนทด มีคนร้ายขับรถจยย.สวนทางมา จากนั้นคนร้ายกลับรถแล้วขับขี่ตามมา แล้วเบียดรถจนเสียหลักล้มลง แล้วชักอาวุธปืน พร้อมข่มขู่ชิงทรัพย์ จึงใช้กระเป๋าทุ่มใส่ แล้วรีบวิ่งหนีเข้าป่าอ้อย ระหว่างนั้นนายปั่น ผกามาศ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านขับจี่รถจักรยานยนต์ผ่านมาคนร้ายเห็นท่าไม่ดี จึงหลบหนีไป พร้อมด้วยกระเป๋า ภายในมีเอกสาร บัตรต่างๆ และโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง

ในขณะที่เจ้าหน้าที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ พ.ต.อ.เสกสรร ได้รับแจ้งเหตุจากทางศูนย์วิทยุว่า มีเหตุพยายามข่มขืนหญิงชรา บริเวณทุ่งนา บ้านคูขาด หมู่ที่ 8 ต.บ้านแปลง อ.ด่านขุนทด หลังได้รับแจ้งเหตุจึงรุดออกเดินทางไปยังที่เกิดเหตุ พร้อมทั้งสั่งการให้เจ้าหน้าที่ ทุกหน่วย ออกสกัดคนร้ายเป็นการเร่งด่วน หลังจากเดินทางไปยังที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นบริเวณทุ่งนา มีป่าละเมาะล้อมรอบ เจ้าหน้าที่ พบนางสวาท อายุ 57 ปี อยู่หมู่8 ต.บ้านแปลง อยู่ในสภาพที่อิดโรยเนื่องจากถูกคนร้ายทำร้ายร่างกายด้วยการบีบคอและจับศีรษะกดให้จมน้ำเพื่อพยามยามข่มขืน เจ้าหน้าที่จึงรีบนำนางสวาทส่งรพ.ด่านขุนทด

เวลาผ่านไปไม่นาน พ.ต.อ.เสกสรร ได้รับแจ้งเหตุอีกครั้งว่า มีเหตุปล้นชิงทรัพย์ โดยคนร้ายใช้ปืนจี้ชิงทรัพย์บนถนนสาย บ้านหลุ่ง–บ้านหนองปรือ หลังรับแจ้งเหตุจึงระดมกำลังทุกฝ่าย ทั้งตำรวจอาสาหมู่บ้าน เจ้าหน้าที่ทหารชุดรักษาความ สงบอ.ด่านขุนทด เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัย ฮุก 31 ด่านขุนทด และชาวบ้านจำนวนกว่า 100 คน หลังเดินทางไปถึงยังที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบ น.ส.สาวิณี อายุ22ปี ชาวต.บ้านแปลง อ.ด่านขุนทด พร้อมบุตรชาย อายุ 2 ปี 3 เดือน ยืนอุ้มลูกตัวสั่นด้วยความตกใจ พร้อมให้การว่า คนร้ายขับ จยย.สวนทางมา เมื่อพบกับตน จึงได้ขับรถจยย.มาขวางหน้า พร้อมชักอาวุธปืนออกมาจากเอวจี้ไปที่ลูกชายของตน ตอนนั้นตนคิดอย่างเดียวว่าอยากได้อะไรก็เอาไปอย่าทำบุตรชายของตนเองก็พอแล้ว จากนั้นคนร้ายก็ได้กระชากสร้อยคอทองคำหนัก 1 สลึงไปในขณะเดียวกันหลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางมาถึงที่เกิดเหตุได้ขอความร่วมมือจากชาวบ้าน หมู่10 บ้านหลุ่ง ต.แปรง จำนวนกว่า 100 คน ช่วยกันออกตามล่าคนร้ายดังกล่าวและพบรถ จยย. ของคนร้ายล้มลงที่ป่ายูคาฯ คาดว่าจะหลบเข้าไปซุกซ่อนอยู่ในป่ายูคา ซึ่งเป็นเขตติดต่อกับอำเภอบำเหน็จณรงค์ จ.ชัยภูมิ จึงได้วางกำลังปิดล้อมกดดันคนร้าย และสามารถ ติดตามจับกุมได้ในเวลาต่อมา

จากการสอบสวนเบื้องต้น นายโชคดนัย ลือแสน อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 220 หมู่ที่ 7 ต.หนองบัวใหญ่ อ.จัตุรัส จ.ชัยภูมิ ได้เข้ามาตระเวนหาเหยื่อในเขตพื้นที่ อ.ด่านขุนทด ซึ่งเป็นรอยต่อระหว่าง อ.จัตุรัส จ.ชัยภูมิ ตามพฤติการณ์คนร้ายมีลักษณะเมายาและขับขี่ จยย.เป็นยานพาหนะที่ใช้ในการประกอบเหตุโดยไม่ได้ระบุตัวบุคคล จะเลือกเหยื่อ ซึ่งเป็นผู้หญิง เมื่อพบอยู่ในที่เปลี่ยว จึงเข้าก่อเหตุในทันทีโดยมุ่งเน้นไปที่ทรัพย์สินของผู้เสียหาย จากนั้นเจ้าหน้าหน้าที่จึงควบคุมตัวส่ง ร.ต.อ.กุศล แก้วสารพัดนึก รอง สว.(สอบสวน) สภ.ด่านขุนทด พนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีในข้อหาชิงทรัพย์โดยมีอาวุธปืน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อนำทรัพย์หลบหนี มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่รับได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน มียาบ้าเอาไว้ครอบครองจำนวน4เม็ด ข่มขืนหญิงอื่นโดยมิใช่ภรรยาตน กักขังหน่วงเหนี่ยว จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวเนื่องจากผู้ต้องหาดังกล่าวยังมีอาการเมายาให้การวกไปวนมา ก่อนที่จะทำการสอบสวนขยายผลดำเนินคดีต่อไป