'เซ็นทรัล’แนะธุรกิจปรับตัวรับ‘เมกะเทรนด์’

'เซ็นทรัล’แนะธุรกิจปรับตัวรับ‘เมกะเทรนด์’

โลกการค้าในปัจจุบันเข้าสู่ยุค “Digital Revolution” ลูกค้าส่วนใหญ่อยู่บน “โลกออนไลน์” แน่นอนว่าหากยังคงดำเนินธุรกิจแบบเดิมๆ คงไม่สามารถอยู่รอดได้

โดยเฉพาะอุตสาหกรรมค้าปลีกเผชิญคลื่นแห่งการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นพฤติกรรมผู้บริโภค การเข้ามาของเทคโนโลยีใหม่ๆ สร้างผลกระทบต่อธุรกิจค่อนข้างมาก ทำให้กิจการห้างค้าปลีกบางแห่งต้องปิดตัวลง 

เราต้องตามกระแสต่างๆ หรือเมกะเทรนด์ของโลกให้ทัน และเตรียมพร้อมปรับตัว รับมือการเปลี่ยนแปลงนั้นๆ ให้ได้” 

ทศ จิราธิวัฒน์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท กลุ่มเซ็นทรัล จำกัด ธุรกิจยักษ์ใหญ่ของไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวว่า  แนวโน้มการเปลี่ยนแปลงสำคัญในโลกการค้าที่ภาคธุรกิจและผู้ประกอบการไทยต้องเตรียมตัวตั้งรับ “เมกะเทรนด์” คือ การเปลี่ยนแปลงจากสิ่งที่เป็นอยู่ไปสู่สิ่งที่ดีกว่า 

ทุกสิ่งที่เราได้ยินจากในเรื่องของเมกะเทรนด์ ล้วนเป็นสิ่งที่ทุกคนๆ คาดหวังอยากให้เกิด หรือเรียกได้ว่าเป็นโลกอนาคตในอุดมคติ ไม่ว่าจะเป็นการสร้าง “สมาร์ทซิตี้” หรือ “Urbanisation” ที่เมืองจะเจริญขึ้น ดูดี น่าอยู่ มีความศิวิไลซ์มากขึ้น เทคโนโลยีด้านการแพทย์ที่ล้ำหน้า ทำให้คนอายุยืนขึ้น ซึ่งจะมาควบคู่กับเทรนด์สังคมผู้สูงอายุ รวมถึงเทคโนโลยีต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการสื่อสาร การคมนาคม หรือการค้าขาย เรียกได้ว่าในอนาคตอันใกล้ ทุกๆ สิ่งที่เราทำ ตั้งแต่ตื่นนอน และการใช้ชีวิตในประจำวัน ต้องมีความข้องเกี่ยวกับดิจิทัลอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ นี่คือ เมกะเทรนด์ระดับโลก

ต่อไปทุกคนจะต้องมี “สมาร์ทโฟน” เป็นของตนเอง และทำธุรกรรมทุกอย่างผ่านทางมือถือ ซึ่งในแง่ของภาคธุรกิจเป็นเรื่องสำคัญที่ทุกบริษัทต้องเตรียมพร้อม ตั้งรับกับเทรนด์ต่างๆ เหล่านี้

ยกตัวอย่าง กลุ่มเซ็นทรัล ซึ่งมีธุรกิจครอบคลุมทั้งห้างสรรพสินค้า สินค้าอุปโภคบริโภค วัสดุก่อสร้าง สินค้าตกแต่งบ้านและเครื่องใช้ไฟฟ้า ศูนย์การค้าและอสังหาริมทรัพย์ อุปกรณ์เครื่องเขียน หนังสือและออนไลน์ โรงแรมและรีสอร์ท สินค้าแฟชั่น ร้านอาหาร ธุรกิจในประเทศเวียดนาม รวมถึงห้างสรรพสินค้าหรู “ลักชัวรี คอลเลคชั่น" ในไทยและยุโรป 

ในความเป็นผู้นำด้านธุรกิจค้าปลีกแต่ไม่อาจนิ่งเฉย และพร้อมที่จะพัฒนา ทั้งด้านออฟไลน์ และออนไลน์ ควบคู่กัน เป็นที่มาของกลยุทธ์ “Digital Centrality” ที่เซ็นทรัลจะพาตัวเองไปบนโลกออนไลน์ที่ลูกค้าอยู่ และสร้างความพอใจสูงสุดให้กับลูกค้าด้วยรูปแบบออมนิแชนแนล (Omnichannel)

ขณะเดียวกันกลุ่มเซ็นทรัล ยังคงมุ่งมั่นที่จะเป็น Centrality หรือ Center of the city, Center of life ด้วยการพัฒนาศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้าอย่างต่อเนื่อง ให้เติบโตควบคู่ไปกับความเจริญของประเทศไทยที่จะก้าวสู่การเป็นสมาร์ทซิตี้

ดังนั้น ยุคจากนี้ธุรกิจหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องโฟกัสในส่วนของ “ออนไลน์” ควบคู่กันไปด้วย กลยุทธ์ใหม่ “Digital Centrality” จะเป็นการนำพาธุรกิจของเซ็นทรัลเข้าไปอยู่ในโลกออนไลน์ที่ลูกค้าอยู่!!  พร้อมทั้งมอบประสบการณ์การชอปปิงที่แตกต่างให้ลูกค้า เป็นการเชื่อมต่อระหว่างโลกออฟไลน์และออนไลน์อย่างไร้รอยต่อ ที่เรียกว่า ออมนิแชนแนล  พร้อมสร้าง แพลตฟอร์มออนไลน์ให้ธุรกิจต่างๆ ในเครือ เช่น เพาเวอร์บาย, บีทูเอส, เซ็นทรัล ดีพาร์ทเมนท์สโตร์ รวมไปถึงเว็บไซต์ อีคอมเมิร์ซอย่าง ลุกสิ (Looksi) และการร่วมทุนกับยักษ์ใหญ่ JD.com สร้างออนไลน์มาร์เก็ตเพลสแห่งใหม่ที่แตกต่างและเหนือกว่า เพื่อก้าวขึ้นเป็น “เว็บไซต์อีคอมเมิร์ซอันดับหนึ่งของประเทศไทย” และตอกย้ำความเป็นผู้นำทั้งด้านออฟไลน์สโตร์และไซเบอร์สโตร์ของกลุ่มเซ็นทรัล

กลุ่มเซ็นทรัลยังมีเว็บไซต์ และแอพพลิเคชั่นใหม่  AVDM ที่จะเชื่อมห้างสรรพสินค้าของกลุ่มเซ็นทรัลทั่วโลกและห้างพันธมิตรไว้เป็นหนึ่งเดียวกัน ลูกค้าสามารถเข้าถึง “ไลฟ์สไตล์ คอนเทนท์” เกี่ยวกับเมืองที่เป็นที่ตั้งของห้างในเครือ สามารถจอง Concierge หรือ Personal shopper เมื่อไปเที่ยวแต่ละห้าง เป็นบริการใหม่ที่กลุ่มเซ็นทรัลริเริ่มเป็นแห่งแรกและแห่งเดียว

นอกจากนี้ยังมีบริการ “On Demand” สามารถสั่งซื้อของข้ามทวีปผ่าน Whatsapp ทำให้ไม่ว่าจะอยู่ที่ใดในโลกก็ชอปปิงได้อย่างไร้ข้อจำกัด รวมไปถึงบริการ Central On Demand ที่ออกแบบเป็นพิเศษสำหรับลูกค้าไทย สามารถไลฟ์แชทผ่านแอพพลิเคชั่น LINE กับพนักงานขาย เสมือนมี Digital Assistant จะเลือกของ สั่งซื้อ ชำระเงิน แล้วให้จัดส่งไปที่บ้าน หรือรับสินค้าเองที่ห้างสรรพสินค้าก็ทำได้ง่ายและสะดวก 

นี่คือหนึ่งในตัวอย่างของบริการที่ตอบสนองการดูแลลูกค้าแบบ Customized อย่างแท้จริง ซึ่งการเข้าสู่โลกออนไลน์ ไม่เพียงอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าเข้าถึงธุรกิจได้อย่างง่ายดาย แต่ยังเป็นการขยายฐานลูกค้าให้ครอบคลุมทั่วโลกอีกด้วย ทำให้ธุรกิจก้าวสู่ระดับสากลอย่างแท้จริง ซึ่งกลุ่มเซ็นทรัลได้วางรากฐานไว้แล้วจากการเข้าซื้อกิจการห้างในแถบยุโรป และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 

ยุทธศาสตร์นี้ไม่เพียงเพิ่มรายได้ให้กับกลุ่มเซ็นทรัล แต่ยังเป็นการบริหารความเสี่ยงในแง่การทำธุรกิจอีกด้วย