'บิ๊กโจ๊ก'โชว์จับบ่อนพนันกลางกรุงฯ รวบ2นายทุนใหญ่

'บิ๊กโจ๊ก'โชว์จับบ่อนพนันกลางกรุงฯ รวบ2นายทุนใหญ่

"พล.ต.ต.สุรเชษฐ์" โชว์จับบ่อนพนันออนไลน์กลางกรุงฯ รวบ 2 นายทุนใหญ่ เผยยอดเงินหมุนเวียนสูงถึง 700-800 ล้านบาท

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รรท.รอง ผบช.ทท. พร้อมเจ้าที่ตำรวจชุดจับกุม ร่วมแถลงข่าวผลการตรวจค้นการพนันออนไลน์ 15 จุด แบ่งเป็นในกรุงเทพ 14 จุด และจังหวัดนครราชสีมา อีก 1 จุด

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า บ่อนการพนันออนไลน์ดังกล่าว มีการเปิดให้แทงพนันฟุตบอลออนไลน์ โดยภายในหนึ่งวันจะมีผู้สนใจเข้าเล่นประมาณ 500-600 ราย ซึ่งผู้เล่นดังกล่าวมีทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ มียอดวงเงินในการหมุนเวียน 700-800 ล้านบาท โดยลักษณะนี้เป็นการมอมเมา เปิดเล่นพนันออนไลน์แบบเปิดเผย ซึ่งตอนนี้ได้จับกุมผู้ที่จัดลักลอบเปิดเล่นทายผลการพนันออนไลน์ไปแล้ว จำนวน 8 ราย โดยสามารถจับกุมได้ภายในอาคาร เลขที่ 121 ซอย สามยอด ถนนมหาไชย แขวงวังบรูพาภิรมย์ เขตพระนคร กรุงเทพฯ พร้อมด้วยของกลางหลายรายการ อาทิ คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่างๆ รวม 20 รายการในวันที่ 19 ก.ย ที่ผ่านมา สำหรับความผิดของทั้ง 8 รายนี้ ถือว่าเป็นความผิดในมวลฐานฟอกเงินทั้งสิ้น โดยศาลได้มีการพิพากษาจำคุก 6 เดือน ไม่รอลงอาญา ขณะนี้อยู่ในระหว่างดำเนินคดี

สำหรับภายหลังมีการจับกุมบ่อนการพนันออนไลน์ดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการขยายผล โดยศาลได้อนุมัติให้ขยายผลจับกุมเพิ่มอีก 10 ราย ซึ่ง 4 ใน 10 นั้นมีนายทุนรวมอยู่ด้วย ในการทำงานของเจ้าหน้าที่ฯ จะไม่มีการนำผู้ต้องหาที่จับกุม และแถลงแล้วให้จบไป แต่จะจับไปถึงต้นตอเพื่อนำมาดำเนินคดีให้ได้ทั้งหมด โดยเมื่อวันที่ 8 ต.ค ที่ผ่านมา ได้นำกำลังไปตรวจค้น พื้นที่เป้าหมาย จำนวน 15 จุด แบ่งเป็นกรุงเทพฯ 14 จุด และอีก 1 จุด อยู่ที่จังหวัดนครราชสีมา โดยเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้กระทำความผิดเพิ่มเติม 1 ราย คือ นายสันติ กูเกเรยา อายุ 60 ปี เป็นนายทุนและผู้กระทำผิดมามอบตัวอีก 1 ราย คือ นายชนม์กฤษณ์ เหล่าธนอนันทน์ อายุ 40 ปี เป็นนายทุนเช่นกัน และอยู่ในการหลบหนีอีก 7 ราย ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่คาดว่าผู้ต้องหาได้หลบหนีไปยังประเทศเพื่อนบ้านแล้วส่วนหนึ่ง โดยที่ยังไม่ทราบจำนวน ส่วนผู้ต้องหา 2 รายที่จับได้นั้น ศาลไม่อนุญาติให้ประกันตัว เพราะเนื่องจากเป็นข้อหาที่ใหญ่

อย่างไรก็ตาม อยากฝากสื่อมวลชนประชาสัมพันธ์ในเรื่องของการลักลอบเล่นการพนันออนไลน์ มอมเมาเยาวชน ทำเศรฐกิจชาติพัง และเงินไม่เข้าประเทศ ซึ่งได้สร้างความเสียหายต่อความมั่นคงของชาติทั้งสิ้น โดยเฉพาะในช่วงเทศกาล จะมีชาวต่างชาติหลั่งไหลเข้ามาท่องเที่ยวประเทศไทยเป็นจำนวนมาก และการเปิดการพนันออนไลน์แบบนี้ จะทำให้ภาพลักษณ์ประเทศไทยเสียหาย ดังนั้น การออกกวาดล้างจับกุมดังกล่าว จะทำให้บรรยากาศการท่องเที่ยว และภาพลักษณ์ดีขั้น โดยเงินตราจะได้ไม่รั่วไหลออกนอกประเทศ

ทั้งนี้ สำหรับผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมได้นั้น จะต้องถูกนำตัวดำเนินคดีตามกฎหมาย เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง และอยากจะฝากเตือนไปยังผู้ที่ลักลอบ หรือกำลังจะเตรียมเปิดบ่อนพนันฟุตบอลออนไลน์ ขอให้เลิกกระทำ เพราะเป็นความผิดฐานฟอกเงินทั้งสิ้น อีกทั้งยังต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดอีกด้วย และต้องถูกดำเนินการยึดทรัพย์ตามอำนาจของ ปปง. ที่มีอยู่ เพราะฉะนั้น การขยายผลจากนี้ต่อไป จะตรวจสอบสินทรัพย์ และร่วมกับ ปปง. ว่ามีทรัพย์ที่ไหนที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิดบ้าง ซึ่งจะต้องมีการยึดทรัพย์ต่อไป