แห่แจ้งจับสาวท้าวแชร์ 'จุ๊บจิ๊บ' โกงแชร์30ล้านหนีหาย

แห่แจ้งจับสาวท้าวแชร์ 'จุ๊บจิ๊บ' โกงแชร์30ล้านหนีหาย

เจ้าทุกข์นับสิบ แห่แจ้งจับสาวท้าวแชร์ "จุ๊บจิ๊บ" โกงแชร์กว่า30ล้าน ก่อนหนีหาย

เมื่อเวลา 16.00 น. ของวันที่ 8 ต.ค. 60 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปตรวจสอบยังสถานีตำรวจภูธรเมืองอ่างทอง จ.อ่างทอง หลังรับแจ้งว่าได้มีกลุ่มชาวบ้านจำนวนเกือบ 20 คน ไปเข้าแจ้งความกรณีถูกโกงแชร์ และเงินหุ้น จำนวนรวมกว่า 30 ล้านบาท โดยมี ร.ต.ท.จักรี พันเอ็ด พนักงานสอบสวน สภ.เมืองอ่างทอง เป็นผู้รับแจ้ง โดยเมื่อผู้สื่อข่าวเดินทางไปถึงก็พบว่ามีประชาชนหลายคน กำลังนั่งวิพากษ์วิจารณ์และรอเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเนื่องจากถูก น.ส.นา (นามสมมุติ) หรือที่รู้จักกันในนามของจิ๊บ แม่ค้าขายเสื้อผ้าอยู่ที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในจังหวัดอ่างทอง และเป็นท้าวแชร์ ที่ โกงแชร์และเงินหุ้นจำนวนรวมกว่า 30 ล้านบาท ซึ่งรู้จักกันในนาม “แชร์จุ๊บจิ๊บ” โดยเจ้าตัวได้หลบหนีไปแล้ว

จากการสอบถามนางสาวกัลป์จันทรัตน์ อายุ 38 ปี ชาวบางบัวทอง จ.นนทบุรี ผู้เสียหายรายใหญ่ กล่าวว่า ในวันนี้ตนได้พาเพื่อน ๆ ที่รู้จักกันมายังโรงพักเพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับน.ส.นา (นามสมมุติ) ท้าวแชร์ที่ชักชวนพวกตนไปเล่นด้วย โดยน.ส.นา นั้น ได้โกงแชร์และเงินหุ้นของพวกตนไปมูลค่ากว่า 30 ล้านบาท ซึ่งส่วนตัวของตนและคนในครอบครัวก็สูญเงินที่ไม่รวมดอกเบี้ยไปกว่า 3 ล้านบาท ซึ่งพวกตนเพิ่งเริ่มเล่นแชร์กับน.ส.นา ได้เพียง 3 เดือน ซึ่งตอนนี้พวกตนไม่สามารถติดต่อน.ส.นา ได้ เนื่องจากหลบหนีไปแล้ว

โดยก่อนหน้าที่จะหนีไปน.ส.นา ได้เงินจากการเล่นแชร์ และเงินลงหุ้นไปเยอะ โดยแชร์ที่พวกตนเล่นนั้นมีหลายอย่าง มีตั้งแต่มือละหลักร้อยไปจนถึงหลักแสน และเงินหุ้นอีกไม่รู้เท่าไหร่ ซึ่งในการเปิดวงแชร์แต่ละวง น.ส.นา ก็จะเก็บค่าดูแล ซึ่งไม่เกี่ยวกับตัวเงินแชร์และเงินหุ้นอีกต่างหาก เงินที่สูญไปนั้นนอกจากเงินแชร์แล้ว ก็จะเป็นเงินหุ้นที่ทางน.ส.นา เสนอมา เช่นหากตนลงไป 10,000 บาท ภายใน 10 วัน ก็จะได้ดอกเบี้ย 1,000 บาท ซึ่งพวกตนก็นำไปลงทุนในเงินหุ้นกันเยอะ ส่วนตัวของตนนั้นสูญเงินแชร์ไปคนเดียว 700,000 บาท และเงินลงหุ้น 1,400,000 บาท โดยในวันนี้พวกตนได้รวบรวมหลักฐานพร้อมสลิปกันโอนเงินกันมาหมด เพื่อเตรียมแจ้งความดำเนินคดีกับน.ส.นา

ด้านนางสาวนงนภัส อายุ 28 ปี ชาวอ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง กล่าวว่า ตนนั้นนำเงินไปเล่นทั้งหุ้นและทั้งแชร์กับน.ส.นา ซึ่งเริ่มเล่นมาเมื่อประมาณต้นปี ตนเสียหายสูญเงินไป 89,000 บาท ซึ่งเป็นยอดรวมทั้งเงินแชร์และเงินหุ้น แต่ในวันนี้ตนขอเรียกร้องเฉพาะเงินหุ้นกว่า 40,000 บาท ซึ่งตอนแรกที่ตนลงทุนไปนั้น ก็ได้เงินตอบแทนกลับมาดี ไม่มีอะไรผิดปกติ จนมากระทั่งพักหลัง เริ่มเห็นว่ามีคนโพสต์ยอดว่าค้างยังไม่ได้รับ ตนก็เอะใจ แต่ก็ยังไม่ได้คิดอะไรมาก ยังให้แฟนเอาทองไปจำนำมาจ่ายเงินรอบแชร์รอบหลังให้เลย จนกระทั่งมารู้อีกทีก็ตอนที่น.ส.นา นั้นหนีไปแล้ว

นางสาวนงนภัส กล่าวต่อว่า ยังมีคนที่ต่างจังหวัดอีกหลายคนที่โดนแบบนี้ ซึ่งส่วนใหญ่ก็มาจากการชักชวนต่อ ๆ กัน บางคนถึงขนาดนำทองรูปพรรณน้ำหนักกว่า 30 บาท ไปจำนำ แล้วเอาเงินมาลงทุนเล่นหุ้นเล่นแชร์เลย ซึ่งตอนนี้ก็ต่างเครียดไปตาม ๆ กัน ต้องนอนกอดกระดาษใบจำนำแทนทรัพย์สมบัติที่มีอยู่

ส่วนนายธนภณ อายุ 36 ปี ชาวจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า ตนได้เข้ามาเล่นแชร์และเล่นหุ้นผ่านการชักชวนต่อ ๆ กันมา โดยตนได้ชวนญาติ ๆ ในบ้าน ไม่ว่าจะเป็นพี่น้อง และยายวัยชรา นำเงินมาร่วมกันเล่น ซึ่งรวมกันทั้งหมดกว่า 1,000,000 บาท ไม่ได้คืนกลับมาเลย ซึ่งเมื่อวันที่ 6 ต.ค. ที่ผ่านมา เป็นวันที่ตนจะต้องได้เงินคืนจำนวน 50,000 บาท ถึงกำหนดตนก็ไม่ได้คืน แถมยังมาสูญเงินหลักล้านไปอีก ซึ่งแชร์ตระกูลนี้ตนดู ๆ แล้วเป็นแชร์วงใหญ่ ซึ่งตนดูสมาชิกล่าสุดมีเกือบประมาณ 350 คน ซึ่งแต่ละคนก็คงจะโดนกันไปไม่ใช่น้อย

นางกฤติยา อายุ 28 ปี ชาวบ้านใน ต.บางแก้ว อ.เมืองอ่างทอง จ.อ่างทอง กล่าวว่า ตนนั้นสูญเงินไปกว่า 300,000 บาท โดยเงินแชร์ที่ตนลงไปนั้นยังไม่ได้เปียขึ้นมาเลย และตนก็ส่งตามกำหนดตลอดไม่เคยต้องให้มาทวงเลย ที่สำคัญเงินในจำนวนนั้นตนได้ขอยืมพี่สาวมาลง และเมื่อน.ส.นา หนีไปแบบนี้นอกจากตนจะได้เงินของตนคืนแล้ว ยังต้องมารับใช้หนี้พี่สาวตนอีก ซึ่งตนก็เดือดร้อนมาก ซึ่งเล่นแชร์มาตอนแรก ๆ ไม่เคยมีปัญหาเลย แต่พอตอนหลังแปลก ๆ คิดจะถอนคืนก็ยังไม่ได้ทำ ได้แต่เตือนคนอื่นให้ระวัง ๆ แต่ตัวเองกลับโดนเสียเอง

ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสอบสวนผู้เสียหายทั้งหมดไว้ ก่อนที่จะได้ติดตามตัวของน.ส.นา มาสอบสวนเกี่ยวกับข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับผู้เสียหายที่มาในวันนี้เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น ยังมีอีกหลายคนที่ยังไม่ได้มา เนื่องจาอยู่ต่างจังหวัด และส่วนตัวของผู้ก่อเหตุเองนั้นก็หนีหายไปติดต่อไม่ได้ แต่ทางผู้เสียหายก็ไปสืบทราบมาว่า หลังก่อเหตุหลบหนีน.ส.นา ยังคงตระเวนไปกดเงินตามตู้เอทีเอ็มตามจังหวัดต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นกาญจนบุรี หรือปทุมธานี ซึ่งล่าสุดกดเงินไปอีก 50,000 บาท และในวันพรุ่งนี้ทราบจากทางผู้เสียหายว่าจะรวมตัวกันไปแจ้งความกับทางดีเอสไอให้ช่วยดำเนินคดีอีกทาง