เร่งตรวจวงจรปิดหาเส้นทางหนีปล้นเงิน 60 ล้านบาท

เร่งตรวจวงจรปิดหาเส้นทางหนีปล้นเงิน 60 ล้านบาท

ชุดสืบสวนเร่งตรวจวงจรปิดหาเส้นทางหนีปล้นเงิน 60 ล้านบาท ระหว่างมุ่งหน้าออกลาดพร้าว 23 หรือรัชดาภิเษก 60 คาดก่อเหตุไม่ต่ำกว่า 4 คน

จากกรณีกลุ่มคนร้าย 4-6 คน ก่อเหตุปล้นเงินสกุลเยนมูลค่าประมาณ 60 ล้านบาท บริเวณลานจอดรถชั้น 5 คอนโดรัชดา พาวิลเลี่ยน ซ.รัชดา 30 แยก 5 แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กรุงเทพฯ เหตุเกิดเมื่อกลางดึกวันที่ 2 ตุลาคมนั้น

ความคืบหน้าเมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 4 ตุลาคม พล.ต.ท.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย ผู้ช่วยผบ.ตร. พล.ต.ต.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.ธงชัย อยู่เกษ ผกก.1 บก.ป. เดินทางมาตรวจที่เกิดเหตุบริเวณคอนโดรัชดา พาวิลเลี่ยน ซ.รัชดา 30 แยก 5 แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กรุงเทพฯ

โดยทางพล.ต.ท.ชัยวัฒน์ เปิดเผยเพียงสั้นๆ ว่า คดีดังกล่าวไม่น่ายาก ขอให้ใจเย็นๆ ขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบเส้นทางหลบหนีของคนร้าย เบื้องต้นได้ตั้งประเด็นปล้นทรัพย์ไว้ก่อน ส่วนกลุ่มคนร้ายจะเป็นใครรู้จักกับคนในหรือไม่ยังไม่ขอเปิดเผย ซึ่งที่ตนมาตรวจที่เกิดเหตุในวันนี้เพื่อวางกรอบประเด็นให้แคบลง โดยทางพล.ต.อ.เดชณรงค์ สุทธิชาญบัญชา รอง ผบ.ตร. จะเดินทางมาตรวจดูที่เกิดเหตุเช่นกัน
รายงานข่าวแจ้งว่า กล้องวงจรปิดภายในคอนโดดังกล่าวมีทั้งหมด 48 ตัว โดยบริเวณลานจอดรถชั้น 5A ซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุปล้นทรัพย์ไม่มีกล้องวงจรปิด แต่มีกล้องวงจรปิดบริเวณด้านหน้าลิฟท์ชั้น 5 ซึ่งเป็นทางเข้าออกลานจอดรถและห้องพัก ทั้งนี้ในส่วนของลานจอดรถชั้น 2B 3A และ 3B จะมีกล้องวงจรปิด เพื่อดูรถเข้าออก นอกจากนี้กล้องวงจรปิดที่ติดอยู่บริเวณหน้าลิฟท์และในลิฟท์ลานจอดรถแต่ละชั้น โดยที่รัศมีจะเห็นเพียงหน้าลิฟท์และประตูการเข้าและออกลานจอดรถเท่านั้น ทุกเหตุการณ์เป็นเพียงคำบอกเล่าของผู้ประสบเหตุทั้ง 2 คนเท่านั้น

จากการสอบถามบุคคลที่อยู่อาคารดังกล่าว พบว่ากลุ่มผู้เสียหายมีการสลับเปลี่ยนขับรถ กว่า 10 คัน เช่นเดียวกับคนขับที่สลับกัน นอกจากนี้ในวันเกิดเหตุหลังเวลา 22.00 น. มีเพียงรถผู้พักอาศัยเท่านั้น และไม่มีรถบุคคลภายนอกเข้าออก ส่วนคนเดินเท้ามีเข้าออกตลอดคืน เนื่องจากใต้คอนโดมีร้านขายของและอาหารอยู่

ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ยืนยันว่ามีกล้องวงจรปิดสามารถจับภาพการเข้าของรถบีเอ็มดับบลิว และรถกระบะฟอร์ด รวมทั้งภาพกล้องวงจรปิดขณะที่คนร้ายขับรถกระบะฟอร์ดออกจากคอนโด ซึ่งคาดว่ามีคนร้ายนั่งอยู่ในรถไม่ต่ำกว่า 4 คน

นอกจากนี้จากการตรวจสอบพบว่าบุคคลที่จะเข้าไปภายในคอนโดดังกล่าวได้ต้องมีคียการ์ด เพื่อเข้าไปในตัวอาคาร หรือจะต้องแลกบัตรเข้า-ออก กับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่อยู่ด้านหน้าอาคารดังกล่าวเท่านั้น ซึ่งเมื่อผ่านเข้ามาจากจุดที่มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยจะสามารถขึ้นไปยังบริเวณลานจอดรถได้ 2 เส้นทาง ซึ่งเส้นทางแรกจะต้องสแกนบัตรเข้าไป เพื่อขึ้นลิฟท์ หรือเข้าทางบันได้หนีไฟ โดยเส้นทางนี้จะมีกล้องวงจรปิดอยู่ทั้งภายในลิฟท์และด้านหน้าลิฟท์เพื่อออกไปยังลานจอดรถชั้น 5 ส่วนอีกเส้นทางหากเดินหรือนำรถขึ้นไปยังลานจอดรถ บริเวณลานจอดรถชั้น 2B จะมีกล้องวงจรปิด แต่ก่อนถึงลานจอดรถชั้น 2B จะมีประตูบันไดที่สามารถเข้าไปเพื่อขึ้นไปยังลานจอดรถชั้น 5 ได้ ซึ่งหากใช้เส้นทางบันไดดังกล่าวจะเป็นเส้นทางเดียวที่ไม่มีกล้องวงจรปิดจับภาพได้

อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนอยู่ระหว่างการลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิด และไล่เส้นทางหลบหนีของกลุ่มคนร้ายที่ได้ใช้รถยนต์ยี่ห้อฟอร์ด เรนเจอร์ สีส้ม ป้ายแดง ของผู้เสียหายขับหลบหนีไปตรวจสอบให้แน่ชัดว่าได้หลบหนีไปทางซ.ลาดพร้าว 23 หรือทางซ.รัชดาภิเษก 30 ซึ่งเส้นทางดังกล่าวจะสามารถผ่านออกไปยังถนนรัชดาภิเษก และถนนลาดพร้าวได้ ทั้งนี้ชุดคลี่คลายคดีได้เร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิดเพิ่มเติมในเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายจะใช้ ทั้งถนนลาดพร้าวด้านขาเข้าและขาออก ร่วมถึงสะพานข้ามแยกลาดพร้าว เพื่อวิ่งต่อบนถนนรัชดามุ่งหน้าสี่แยกสุทธิสาร