รวบยกแก๊ง! 4ผู้ต้องหาแอบอ้างเบื้องสูง ปลดหนี้-ไถ่ถอนที่ดิน

รวบยกแก๊ง! 4ผู้ต้องหาแอบอ้างเบื้องสูง ปลดหนี้-ไถ่ถอนที่ดิน

ตำรวจและทหารเชียงราย บุกรวบยกแก๊งหิ้วเข้าค่ายเม็งรายฯ ชี้4ผู้ต้องหาแอบอ้างเบื้องสูง เดินสายจัดกิจกรรม ช่วยปลดหนี้-ไถ่ถอนที่ดิน

เมื่อวันที่ 3 ต.ค. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหารและฝ่ายปกครอง นำโดย พ.ต.ท.สุภาพ เขื่อนแก้ว รอง ผกก.สส.สภ.เมืองเชียงราย พ.ท.อิสสระ เมาะราศรี หัวหน้าฝ่ายข่าวกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย (กกล.รส.) จ.เชียงราย นายอมรศักดิ์ เพ็ชร์เนียม ผู้ช่วยป้องกัน จ.เชียงราย ได้ร่วมกันจับกุมนางวาสนา อายุ 46 ปี ชาวจ.นครศรีธรรมราช นายปัณณทัต อายุ 54 ปี ชาวจ.ชลบุรี นางชนัญพัชร์ อายุ 56 ปี ชาวจ.ชลบุรี และนางปิ่นประภา อายุ 60 ปี ชาวจ.พระนครศรีอยุธยา พร้อมหลักฐานเป็นซองจดหมาย สำเนาเอกสาร หนังสือที่ว่าการอำเภอ ใบเสร็จชำระเงิน ดำเนินคดีในข้อหา “หมิ่นประมาท ดูหมิ่นหรือแสดงความอามาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาทหรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์”

โดยการจับกุมดำเนินคดี มีขึ้นหลังจากเมื่อวันที่ 1 ต.ค. ที่ผ่านมา กลุ่มบุคคลดังกล่าวประมาณ 10 คน นำโดยนางวาสนา ได้อ้างเบื้องสูงแล้วไปจัดประชุมประชาชนที่ศาลาวัดพระเชตวันหรือวัดพระนอน ชุมชนหนองบัว ต.เวียง อ.เมือง จ.เชียงราย โดยมีการขึ้นป้ายและสัญลักษณ์อ้างว่าเกี่ยวข้องกับเบื้องสูง รวมทั้งระบุว่าจะสามารถช่วยปลดหนี้สิน ไถ่ถอนที่ดิน ให้กู้ยืมเงินโดยไม่มีดอกเบี้ย ที่ประชุมยังมีการแจกจ่ายเอกสารต่างๆ ให้ผู้เข้าร่วมจากนั้นให้ประชาชนเขียนเรื่องราวร้องทุกข์ และแนบสำเนาบัตประจำตัวและทะเบียนบ้านแล้วทางกลุ่มจะนำไปดำเนินการให้

เมื่อเจ้าหน้าที่ทราบพฤติกรรมจึงได้เชิญนางวาสนาและบุคคลทั้ง 4 คน รวมถึงแกนนำในพื้นที่ จ.เชียงราย รวมทั้งหมดประมาณ 10 คน ไปยังค่ายเม็งรายมหาราช อ.เมือง จ.เชียงราย โดยผู้เข้าร่วมในกิจกรรมกับนางวาสนา บางคนเป็นแนวร่วมกลุ่ม นปช.เชียงราย 52

เจ้าหน้าที่จึงเชื่อได้ว่ามีพฤติกรรมแอบอ้างสถาบันพระมหากษัตริย์อันเป็นการมิบังควร และทำให้เกิดความเสื่อมเสีย จึงได้ตรวจยึดเอกสารและดำเนินคดีกับบุคคลทั้ง 4 คน ซึ่งล้วนมาจากนอกพื้นที่และมาชักชวนคนในพื้นที่ จ.เชียงราย ให้ทำกิจกรรมร่วมกันดังกล่าว จากนั้นแจ้งข้อหาดำเนินคดีแต่ปรากฎว่าทั้งหมดยังคงให้การปฏิเสธข้อกล่าวหา โดยก่อนหน้าที่จะมีการจัดกิจกรรมประชุมชาวบ้านที่วัดพระนอน อ.เมือง จ.เชียงราย 1 วัน กลุ่มของนางวาสนาได้ไปจัดกิจกรรมที่ชุมชนไม้ลุงขน อ.แม่สาย และหลังจากจัดประชุมและรวบรวมเอกสารจากชาวบ้านที่ อ.เมือง เสร็จแล้ววันถัดไปยังเดินทางไปจัดประชุมชาวบ้านในลักษณะเดียวกันที่ จ.พะเยา ซึ่งก่อนหน้านี้เคยจัดกิจกรรมที่ จ.ศรีสะเกษ มาแล้วด้วยกระทั่งถูกเจ้าหน้าที่เรียกให้ไปยังค่ายเม็งรายมหาราชและถูกดำเนินคดีดังกล่าว