MORNING CALL ACTION NOTES (4 ต.ค.60)

ภาวะตลาดหุ้นไทยวานนี้แกว่งตัวแคบเนื่องจากมีแรงขายกลุ่มพลังงานตามราคาน้ำมันที่อ่อนตัวลง อย่างไรก็ตามมีแรงซื้อกลุ่ม PROP FIN ที่คาดว่าผลประกอบการ Q3/17 จะเติบโตขึ้น หนุนให้ SET ปิดบวกเล็กน้อยที่ 1,689.97 จุด (+1.33 จุด) Vol. 5.2 หมื่นลบ. โดย Foreign Net +467 ลบ.  TFEX Net –7,052 สัญญา ตราสารหนี้ -1,643 ลบ.

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

+ ตลาดหุ้น DJ  ปรับตัวขึ้น จากแรงซื้อกลุ่มรถยนต์ หลัง GM และฟอร์ด มอเตอร์ เปิดเผยยอดขายเพิ่มขึ้นในเดือนก.ย. รวมถึงแรงซื้อกลุ่มสายการบิน หลังปริมาณการบรรทุกสินค้าเดือนก.ย. +9.4%

+ ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวขึ้น หลังคลายความวิตกกังวลสถานการณ์แคว้นกาตาลุญญาที่ลงประชามติเพื่อแยกตัวจากสเปน

- น้ำมันอ่อนตัวลงล่าสุด 50.1 US/Barrel จากแรงขายทำกำไรหลังปริมาณการผลิตน้ำมันกลุ่มโอเปกเดือนก.ย. เพิ่ม 120,000 บาร์เรลต่อวัน

+/- Foreign พลิกเป็น Net Buy 2 วันราว 3.3 พันลบ. แต่ TFEX เป็น Net Short  3.1 หมื่นสัญญา และเงินบาทอ่อนค่าลงล่าสุดราว 33.5 Bath/USD.

+ AOT เผยดัชนี AOT Gateway Index เดือนก.ค.+5.4% MoM สู่ 144.2 จุด สะท้อนประสิทธิภาพ-ความสามารถแข่งขันดี

+/- สคร.เตรียมขายหุ้นที่ถืออยู่ไตรมาสแรกปี 61 กลุ่มที่ถือต่ำกว่า 50% TMB BCP PDI และ SCB เข้าข่าย มูลค่า 3.8 แสนล้าน พร้อมตั้งเป้าปีหน้ารีดรายได้รัฐวิสาหกิจ 1.37 แสนล้าน เพิ่มขึ้น 10% (ข่าวหุ้น)

** 2 – 6 ต.ค. ตลาดหุ้นจีนหยุดเนื่องในวันชาติ , วันนี้ (4 ต.ค.) ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดทำการเนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า , ตลาดหุ้นไต้หวันปิดทำการเนื่องในเทศกาลไหว้พระจันทร์

** 4 ต.ค. ติดตามประธานเฟดกล่าวสุนทรพจน์ที่เมืองเซนต์หลุยส์

ภาวะตลาดหุ้นไทยยังคงได้แรงหนุนจากตัวเลขเศรษฐกิจในประเทศที่ขยายตัวต่อเนื่อง รวมถึง Fund Flow ต่างชาติที่พลิกเป็น Net Buy 2 วัน  อย่างไรก็ตามราคาน้ำมันที่อ่อนตัวลงรวมถึงภาวะ Overbought ทางเทคนิคจะเป็นแรงกดดัน ดังนั้นประเมินว่า SET จะปรับตัวขึ้นในกรอบจำกัดที่แนวต้าน 1,695 - 1,700 จุด

กลยุทธ์การลงทุน   Selective Buy กลุ่มที่มีปัจจัยสนับสนุน

- PDI ราคาสังกะสีทำ New High รอบ 10 ปีล่าสุด 3,264 US/Ton

- กลุ่มส่งออก อิเล็กทรอนิกส์ (KCE  HANA HTECH ) อาหาร(CPF TU) ได้อานิสงส์เงินบาทอ่อนค่าลง

- กลุ่มที่คาดว่างบ Q3/17 จะเติบโตขึ้น ได้แก่ PTTGC TOP IRPC BCP BCPG  HARN FTE  ASIMAR  ATP30 JWD  ERW CKP COMAN SYNEX XO TPCH

หุ้นแนะนำพิเศษ

ALLA (ราคาปิด 2.52)

• มีสัดส่วนรายได้ 78% จากการการขายและให้บริการติดตั้งเครนและรอกไฟฟ้าที่ใช้ในโรงงานอุตสาหกรรม หลังจากอุตสาหกรรมรถยนต์ที่เป็นลูกค้าหลักชะลอตัวจึงได้ปรับกลยุทธ์มาสู่อุตสาหกรรมอื่น อาทิ ธุรกิจโรงไฟฟ้า โรงงานน้ำตาล และปิโตรเคมี รวมทั้งมีแผนจัดตั้งบริษัทร่วมทุนถือหุ้น 33% ประกอบธุรกิจในอินโดนีเซียคาดจะเสร็จสิ้นภายใน Q3/60 เริ่มรับรู้รายได้ Q2/61
• 1H60 มีรายได้ 252 ลบ. -14%YoY กำไร 24 ลบ. -16%YoY ปลาย Q2 มี Backlog 365 ล้านบาทราว 70% จะรับรู้ใน Q3/60 ทำให้รายได้ Q3 มีแนวโน้มใกล้เคียงกับรายได้ใน 1H60  จึงคาดแนวโน้มกำไร Q3 น่าจะเติบโต QoQ บริษัทอยู่ระหว่างประมูลงานมูลค่ากว่า 2,000 ล้านบาทคาดหวังจะได้งาน 20% งานที่ได้รับแล้วมีงานเครนโรงไฟฟ้าไซยะบุรีในลาว งานเครนของศรีราชา ฮาร์เบอร์ โดยคาดจะมีการเซ็นสัญญารับงานเครนโครงการรถไฟฟ้าสายสีแดงช่วงกลาง Q3/60 มูลค่าราว 40-50 ล้านบาท
• ราคาปัจจุบันซื้อขายที่ PER 28 เท่าสูงกว่ากลุ่มที่ระดับ 23 เท่า ราคาหุ้นถือเป็น laggard จากที่ -15%YTD และ -23% เมื่อเทียบกับตลาด

หุ้นมีข่าว   

Ø  ECF (ราคาปิด 7.85 ราคาเหมาะสม 5.06) บอร์ดอนุมัติ ออก PP จำนวนไม่เกิน 40 ล้านหุ้น ให้กับกองทุน Macquarie สถาบันการเงินสัญชาติออสเตรเลีย ระดมทุนเพิ่มสภาพคล่อง ขยายธุรกิจหลัก และธุรกิจพลังงานทดแทน พร้อมออก ECF-W2 แจกผู้ถือหุ้นเดิมในอัตรา 4:1 และ ECF-W3 ในอัตรา 6:1 XW วันแรก 6 ต.ค.นี้ และไม่มีการขาย RO (ที่มาทันหุ้น)    

Ø  ความเห็น ECF เพิ่มทุนแบบ PP 78 ล้านหุ้น โดยคำนวณราคาเพิ่มทุนจากราคาตลาดย้อนหลัง 15 วันทำการ และให้ส่วนลดได้ไม่เกิน 10% ล่าสุดเพิ่มทุนให้ Macquarie 40 ล้านหุ้น โดยเราคาดว่ายังเหลือหุ้นอีก 38 ล้านหุ้นที่สามารถขายให้นักลงทุนหรือกองทุนที่สนใจในอนาคต อย่างไรก็ตามหลังการ  XW ในวันศุกร์ที่ 6 ตุลาคมคาดราคาจะ diluted ลง 15% จากราคาปิดที่ 7.85

Ø  PTTGC (ราคาปิด 80.00 Bloomberg Consensus 82.45) สยายปีกรุกอเมริกา ย้ำแผนเดินหน้าปิโตรคอมเพล็กซ์ หนุนบริษัทเติบโตในอนาคต พร้อมส่ง “PTTGC America” เซ็นเอ็มโอยู กับ “JobsOhio” ยกระดับคุณภาพชีวิตชุมชนในอเมริกา (ที่มาข่าวหุ้น)   

Ø  ความเห็น  PTTGC อยู่ระหว่างการศึกษาลงทุนปิโตรคอมเพล็กซ์ในสหรัฐซึ่งคาดว่จะได้ข้อสรุปภายในปลายปีนี้ โดยปัจจุบันเป็นการเซ็น MOU ในการดูแลชุมชนรอบโครงการหากมีการตัดสินใจลงทุนในปิโตรคอมเพล็กซ์ในอนาคต ทำให้ยังไม่มีผลกระทบต่อประมาณการในปัจจุบัน

Ø  IVL (ราคาปิด 43 Bloomberg Consensus 46.49) ประกาศซื้อกิจการในเม็กซิโก เสริมแกร่งผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่ม (HVA) ในกลุ่มยานยนต์ ขยายฐานลูกค้าเพิ่มขึ้นระบุ 5 ปีที่ผ่านมา บริษัทเข้าซื้อโรงงานทั้งหมด 39 แห่ง อีกทั้งได้ผลดีจากสหรัฐลดภาษี (ที่มาทันหุ้น) 

Ø  ความเห็น การเข้าซื้อกิจการในแม็กซิโกเป็นดีลที่ประกาศตั้งแต่เดือนส.ค.ที่ผ่านมาซึ่งล่าสุดได้เข้าซื้อกิจการแล้วเสร็จ โดยเรามีมุมมองบวกต่อการเข้าซื้อกิจการกลุ่ม HVA อย่างต่อเนื่องของบริษัทเนื่องจากมีอัตรากำไรสูงกว่าสินค้าทั่วไป นอกจากนี้เราคาดว่า IVL จะได้รับผลบวกจากการลดภาษีของสหรัฐ

Ø  SUPER สุดปลื้ม หลังแบงก์ธนาคารกรุงศรี ปล่อยกู้บริษัทย่อย 945 ล้านบาท ลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าขยะ จ.สระแก้ว ขนาดกำลังการผลิต 9.9 MW จ่อ COD ภายในปีนี้ คาดโกยรายได้กว่า 400 ล้านบาทต่อปี ย้ำเป้าปี 2560 ยอด PPA เกิน 809 MW (ที่มา ทันหุ้น)    

Ø   JWD จะส่งบ.ย่อยเข้าซื้อกิจการตัวแทนขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ มูลค่า 23 ลบ. หวังช่วยเสริมศักยภาพแข่งขัน

Ø  BGRIM เซ็นสัญญากับ "องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก" ร่วมลงทุนให้สิทธิขายไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์ม จำนวน 5 โครงการ ขนาด 23.58 MW คาดเริ่มบุ๊ครายได้เดือน พ.ย.61 (ที่มา ข่าวหุ้น)

Ø  SAWAD (ราคาปิด 61.75 Bloomberg Consensus 55.71) ซ่อนกำไรเงินลงทุนหุ้นบีฟิท 1.7 พันล้าน หลังราคาหุ้น BFIT ปรับขึ้นต่อเนื่อง เพิ่มกว่า 90% ในรอบ 1 เดือน (ที่มา ข่าวหุ้น)