ร้อยดวงใจปชช. หลั่งไหลรอข้ามคืน เพื่อกราบพระบรมศพฯ

ร้อยดวงใจปชช. หลั่งไหลรอข้ามคืน เพื่อกราบพระบรมศพฯ

เปิดความรู้สึก ร้อยดวงใจประชาชน หลั่งไหลต่อแถวรอข้ามคืน เพื่อกราบพระบรมศพฯ ในหลวงรัชกาลที่9

วันนี้เป็นวันสุดท้ายที่สำนักพระราชวังได้เปิดโอกาส ประชาชนโอกาสให้ประชาชนได้เข้าไปสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ภายในพระบรมมหาราชวัง โดยตลอดช่วงเช้ามืดของวันที่ 4 ต.ค นั้น มีประชาชนจำนวนมาก ได้เดินทางมาเพื่อกราบพระบรมศพในโอกาสสุดท้าย ท่ามกลางอากาศเย็นยามเช้าที่พัดผ่าน สลับกับฝนตกประปราย โดยส่วนมากมารอข้ามคืนของวันก่อน ซึ่งใช้เวลารอเฉลี่ยมากกว่า 8 ชม. แม้รู้ว่าจะต้องเผชิญกับความลำบาก ที่ต้องรอนาน แต่พวกเขาก็ยังมาด้วยใจศรัทธาและความรักที่มีให้กับ ในหลวง รัชกาลที่ 9

น.ส.ชนากานต์ บุญเลื่อน อายุ 46 ปี ธุรกิจส่วนตัว จ.อุตรดิตถ์ กล่าวว่า ส่วนตัวเดินทางมาเข้าแถวเมื่อเวลา 22.00 น. แม้ว่าถึงช่วงเวลา 3.30 น. ตัวเองจะยังไม่ได้เข้าไปกราบพระบรมศพ แต่ก็ไม่รู้สึกเหนื่อย เพราะมีความตั้งใจมา ที่ผ่านมาเคยมาที่สนามหลวงหลายๆครั้งแล้ว ตั้งแต่พระราชพิธีขบวนเคลื่อนพระบรมศพ ร่วมกิจกรรมร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี รวมถึงการมากราบพระบรมศพ 2 ครั้ง โดยในแต่ละครั้งที่เรามา แม้ว่าจะเป็นช่วงที่มีคนพร้อมใจกันมามาก แต่เรามาด้วยความที่รู้สึกรักท่านมาก เนื่องจากที่ผ่านมาท่านทรงงานหนักเพื่อเราทุกอย่างจริงๆ แม้แต่เรื่องเล็กๆที่หลายๆคนมองข้ามไป ท่านก็ทรงเห็นความสำคัญและหยิบมาสอนเรา ดังนั้นการที่เรามารอเป็นเวลานานนั้น ก็ไม่อาจเปรียบได้กับสิ่งที่ท่านทำเมื่อที่ผ่านมาเพื่อประชาชน และการมาในวันนี้ก็เหมือนกับเป็นครั้งสุดท้ายที่เราจะได้มาใกล้ชิดท่าน แม้ว่าท่านจะไม่มีชีวิตแล้วก็ตาม แต่ในใจเราเหมือนได้มาหาพระองค์ท่าน

“แนวคิดเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงที่ท่านให้กับประชาชน เราก็ได้นำมาปรับใช้วางแผนการใช้ชีวิต และพอใจกับสิ่งที่มีอยู่ ไม่ตั้งเพดานความสุขมากเกินไป ซึ่งคำว่าพอเพียงของแต่ละคนนั้นไม่เท่ากัน อาจมากอาจน้อยปะปนกันไป แต่เราเชื่อว่าคนไทยทุกคนจะนำคำสอนของท่านมาปฏิบัติตามในแบบของตัวเอง”

นายเจษฎา บุญญารัตพัสกุล อายุ 46 ปี ธุรกิจส่วนตัว จ.อุตรดิตถ์ กล่าวว่า ส่วนตัวผมเคยมาแล้วถึง 7 ครั้ง ซึ่งครั้งนี้รอนานที่สุดเนื่องจากประชาชนมากันเยอะ แต่ว่าแรงผลักดันที่ทำให้ผมต้องมาหลายๆครั้งก็เพราะว่า แรงศรัทธาในตัวท่านด้านต่างๆ รวมถึงหลักการที่ท่านได้มอบให้กับประชาชน เช่นในหลักการทำงานอย่าง “เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา” นั้น ก็หมายความว่าเวลาที่เราจะเริ่มทำอะไรให้ศึกษาดีๆก่อน เข้าถึงเรื่องนั้น และผลลัพธ์จะต้องออกมาใช้ได้จริง พัฒนาสิ่งต่างๆให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้น

“อย่างไรเสีย ท่านก็จะอยู่ในใจผมเสมอ หลักการทรงงาน 23 ประการของพระองค์ท่าน ก็สามารถนำมาปรับใช้ได้ โดยพระองท่านทรงเป็นแบบอย่างให้เราเห็นด้วย โดยหลักการนี้ท่านให้คนไทยทุกคน”

นางทองรัก ตะกรุดเงิน อายุ 55 ปีแม่บ้าน กทม. กล่าว่า ส่วนตัวมารอตั้งแต่เวลา 21.00 น. แม้ว่าจะรอนานจเหนื่อยแต่ก็ไม่เป็นไร และไม่เคยคิดว่าเป็นการลำบากแต่อย่างใด เพราะตั้งใจมาไหว้พระบรมศพ และเชื่อว่าคนอื่นๆก็มาแบบเดียวกับเราด้วยจุดประสงค์คำว่ารักพ่อ ส่วนตัวแล้วประทับใจในพระองค์ท่านทุกมุม นึกถึงทีไรก็มีความสุข เพราะท่านได้ทำเพื่อประชาชนอย่างมาก ทรงเสียสละทุกอย่าง และเป็นผู้ให้ และยังสอนประชาชนของท่านด้วย โดยทุกคำสอนนั้นก็ดีมาก สิ่งที่เราทำได้เพื่อให้ท่านอยู่ในใจตลอดไปนั้น ก็คือการระลึกถึงท่าน โดยสิ่งที่ท่านทำให้เรานั้นจะอยู่กับเราไปอีกนาน เมื่อมองดูสิ่งนั้นเราก็คิดถึงท่าน เมื่อเห็นภาพที่ท่านทรงเสด็จไปตามที่ชนบทต่าง ท่านไม่เหนื่อย เราก็ไม่เหนื่อย

นายนาวี แสงจันทร์ อายุ 44 ปี ค้าขาย จ.ระยอง กล่าว่า ส่วนตัวเคยมา 13 ครั้งแล้ว โดยพยายามหาวันว่างเพื่อมาให้ได้อย่างๆน้อยๆเดือนละ 1 ครั้ง โดยครั้งนี้ก็เป็นครั้งสุดท้ายที่เราจะอยู่ใกล้ท่าน แม้ว่าจะเป็นเพียงแค่ความรู้สึกก็ตาม โดยที่ผ่านมาท่านทรงทำเพื่อประเทศไทยอย่างมาก ทรงเสด็จไปทุกที่เพื่อแก้ปัญหาของชาวบ้าน เช่นโครงการฝนหลวง เพื่อต่อสู้กับภายแล้งเป็นต้น นอกจากนี้ยังมีคำสอนเรื่องเศรฐกิจพอเพียง ที่สอนให้รู้จักพอดี แต่ไม่ให้ตัวเองอดอยากเกินไป และไม่โลภอยากได้เพิ่ม ซึ่งเรื่องของความโลภถือเป็นพื้นฐานการทุจริต แต่ถ้าเรารู้จักจุดสิ้นสุด เราก็มีความสุขได้ โดยเรื่องนี้ท่านก็เป็นแบบอย่างให้กับคนไทยด้วยการลงมือทำให้เห็น ซึ่งสิ่งนี้เป็นสิ่งที่เราควรทำตามพระองค์ท่าน

น.ส.จนัญญา เตชะอภัยคุณ อายุ 40 ปี พนักงานบริษัทเอกชน กล่าว่า วันนี้มารอแถวตั้งแต่เวลา 20.30 น. แต่แม้ว่าจะรอเหนื่อยอย่างไร ก็ไม่ท้อ เพราะคนที่มาด้วยก็รอด้วยความเต็มที่ เด็กและผู้ใหญ่คนแก่เขาก็สู้ความเหนื่อยด้วยกันกับเรา เพราะนี่คือโอกาสสุดท้ายที่เราจะทำเพื่อพ่อได้ ทั้งนี้ส่วนตัวมีความประทับใจในทุกๆด้านของพระองค์ท่าน ท่านทรงเสียสละเพื่อประชาชนของท่าน และปฏิบัติเหมือนคนไทยเป็นลูกๆของท่าน สิ่งที่เราทำได้ต่อจากนี้คือการทำตามคำสอนของท่านอย่างในเรื่องแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง ที่ให้เราอยู่อย่างพอดี ไม่โลภ และไม่เอาเปรียบใครเพื่อผลักดันตัวเองไปอยู่จุดสูงกว่าเดิม

“จริงๆแล้ว ณ วันนี้เราก็ไม่ได้รู้สึกว่าพระองค์ท่านได้จากเราไปไหน เพราะความดีของท่านมีเยอะ เวลาเราเห็นผลงานของท่าน เราก็จะคิดถึงท่านเสมอ อย่างเรื่องหลักการพอเพียงที่หันไปไหนก็ที่ใครๆก็พูดถึง ซึ่งท่านจะอยู่ในใจของเราสเมอไป”