MORNING CALL ACTION NOTES (3 ต.ค.60)

ภาวะตลาดหุ้นไทยวานนี้พุ่งขึ้นทำ High ใหม่ในรอบ 23 ปีจากแรงหนุนตัวเศรษฐกิจไทยเดือนส.ค.ขยายตัวต่อเนื่อง รวมถึงแรงซื้อดักงบ Q3/17 ที่จะเริ่ม Preview ส่งผลให้มีแรงซื้อในกลุ่ม ENERG COMM BANK ผลักดันให้ SET ปิดที่ 1,688.64 จุด (+15.48 จุด) Vol. 6.2 หมื่นลบ. โดย Foreign Net +2,860 ลบ.  TFEX Net –24,079 สัญญา ตราสารหนี้ -890 ลบ.

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

- เหตุกราดยิงในงานคอนเสิร์ตที่เมืองลาสเวกัสของสหรัฐ มีผู้เสียชีวิตจำนวน 59 ราย และบาดเจ็บกว่า 500 ราย

+ ธปท.ขยับ GDP ปี 2560 เป็น 3.8% จาก 3.5% ชี้ส่งออก-ท่องเที่ยวนำทีม แนะจับตานโยบายการเงินสหรัฐและความตึงเครียดเกาหลี

+ ตลาดหุ้น DJ  ปรับตัวขึ้น ตอบรับตัวเลขเศรษฐกิจแข็งแกร่งโดยดัชนีภาคการผลิตของ ISM เดือนก.ย. พุ่งขึ้นสู่ 60.8 (สูงสุดในรอบ 13 ปี) การใช้จ่ายด้านการก่อสร้างของสหรัฐเดือนส.ค. +0.5% สู่ 1.21 ล้านล้านดอลลาร์

+ ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวขึ้น จากแรงหนุนค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงหลังแคว้นกาตาลุญญาได้ลงประชามติเพื่อแยกตัวเป็นอิสระจากสเปน รวมถึงPMI ภาคการผลิตเดือนก.ย.ยูโรโซน อยู่ที่ 58.1 เพิ่มขึ้นจาก 57.4 ในเดือนส.ค.

- น้ำมันปรับตัวลงล่าสุด 50.4 US/Barrel หลังกลุ่มโอเปกเพิ่มปริมาณการผลิตน้ำมัน 120,000 บาร์เรลต่อวันในเดือนก.ย. ประกอบกับแท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐที่มีการใช้งานเพิ่มขึ้น 6 แท่น สู่ 750 แท่น

+/- Foreign พลิกเป็น Net Buy ราว 2.8 พันลบ. แต่ TFEX เป็น Net Short  2.4 หมื่นสัญญา และเงินบาทอ่อนค่าลงล่าสุดราว 33.5 Bath/USD.

** 2 – 6 ต.ค. ตลาดหุ้นจีนหยุดเนื่องในวันชาติ

** เข้าสู่ช่วง Preview งบ Q3/17 ของกลุ่มธนาคาร

** SVI อนุมัติโครงการซื้อหุ้นคืนไม่เกิน 8.83% ใช้เงินสูงสุด 1.4 พันลบ. เริ่ม 18 ต.ค.60-12 เม.ย.61

ภาวะตลาดหุ้นไทยได้แรงหนุนจากธปท.เพิ่มคาดการณ์ GDP ขึ้นจาก 3.5% เป็น 3.8% รวมถึง Fund Flow ต่างชาติที่พลิกเป็น Net Buy อีกครั้ง อย่างไรก็ตามราคาน้ำมันที่อ่อนตัวลงรวมถึงค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลงจะกดดันดัชนี ดังนั้นประเมินว่า SET จะขึ้นในกรอบจำกัดที่แนวต้าน 1,695 - 1,700 จุด

กลยุทธ์การลงทุน   Selective Buy กลุ่มที่มีปัจจัยสนับสนุน

- PDI ราคาสังกะสีทำ New High รอบ 10 ปีล่าสุด 3,236 US/Ton

- กลุ่มส่งออก อิเล็กทรอนิกส์ (KCE  HANA HTECH ) อาหาร(CPF TU) ได้อานิสงส์เงินบาทอ่อนค่าลง

- IVL EPG TU ได้ประโยชน์จากแผนปฏิรูปภาษีของสหรัฐ

หุ้นแนะนำพิเศษ

PDI (ราคาปิด 23 บาท)

• 1H60 มีกำไรสุทธิ 523 ลบ.+299%YoY สูงกว่ากำไรปี 59 ที่ 478 ลบ. ทั้งนี้ปี 60 รายได้หลักกว่า 95% มาจากธุรกิจสังกะสีที่มีสต๊อกเหลืออยู่ราว 3 หมื่นตัน ณ ปลายมิ.ย.60 และคาดจะทยอยขายสต๊อกหมดในปลายปีนี้
• ฝ่ายวิจัยคาดว่าผลการดำเนินงานในช่วง 2H60 มีแนวโน้มเติบโตโดดเด่นต่อเนื่องจากรายได้ในการขายสังกะสี และเริ่มรับรู้รายได้จากหลังปิดดีลซื้อโซลาร์ฟาร์ม 6 แห่ง กำลังผลิตรวม 30 MW เมื่อปลายเดือนส.ค.ส่งผลให้มีโรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์มในภูมิภาคเอเชียรวม 50 MW (เป้า 200 MW ภายใน 3 ปีข้างหน้า) ขณะที่ผลการดำเนินงานปี 61 มีโอกาสลดลงหลังสต๊อกสังกะสีหมดไป และการปรับโครงสร้างธุรกิจใหม่ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น
• ล่าสุดราคาสังกะสีล่วงหน้า 3 เดือน ที่ London Metal Exchange (LME) มีการปรับตัวเพิ่มขึ้น 34% จากวันทำการก่อนหน้า มาอยู่ที่ 3,236 US/Tons ทำจุดสูงสุดในรอบกว่า 10 ปี โดยเกิดขึ้นหลักจากสต๊อกสังกะสี LME ปรับตัวลดลงติดต่อกัน 10 วันทำการรวมกว่า 5.9% มาอยู่ที่ 2.53 แสนตัน

หุ้นเริ่มซื้อขายวันนี้วันแรก : WPH (ราคา IPO 3.90)

• บมจ.รพ.วัฒนแพทย์ ตรัง เป็น รพ.ให้บริการครอบคลุมจังหวัดตรัง จังหวัดกระบี่ รวมถึงจังหวัดใกล้เคียง โดยมี รพ.ภายใต้การประกอบการอยู่ 2 แห่ง คือ รพ.วัฒนแพทย์ ตรัง ประกอบการโดย WPH และ รพ.วัฒนแพทย์ อ่าวนาง ซึ่งถือหุ้นโดย WPH ที่ 03% รวมเป็น IPD จำนวน 120 เตียง และ OPD จำนวน 34 ห้อง  ผลประกอบการ 1H60 มีรายได้เติบโต 3.4%YoY ขณะที่กำไรสุทธิลดลง 50%YoY มาที่ 17.2 ล้านบาท มีเหตุมาจาก ความรุนแรงของโรคที่ลดลง YoY และมีค่าใช้จ่ายในการบริหารที่เพิ่มขึ้นจากการเตรียมตัวเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์
• เงินที่บริษัทได้จากการจำหน่ายหุ้น IPO จำนวน 585 ล้านบาท มีแผนที่จะจัดสรรไปลงทุนในหุ้นเพิ่มทุน บจก.รพ.วัฒนแพทย์ อ่าวนาง จำนวน 155 ล้านบาท เพื่อใช้ในการขยายจำนวนเตียงอีก 59 เตียง และอีกราว 100 – 150 ล้านบาท จำนำไปเป็นเงินทุนขยาย รพ.วัฒนแพทย์ ตรัง โดยเพิ่มจำนวนเตียง IPD อีก 92 เตียง มีแผนการเริ่มก่อสร้างตั้งแต่ ปี 60 - 63 ส่วนที่เหลือจำนำไปชำระคืนเงินกู้ยืมและเป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ ตลอดจนการลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้องในอนาคต
• ราคา IPO ที่ 3.90 บาท คิดเป็น Current PER ที่ 42.67 เท่า โดยเป็นการเปรียบเทียบกับค่า PER ของ SETHELTH Index ที่ราว 44 – 45 เท่า หรือคิดเป็นส่วนลดประมาณ 4.56%

หุ้นมีข่าว   

Ø  PTT รับผลงาน Q4/60 ด้อยกว่าไตรมาสอื่นหลัง GRM ผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว-ธุรกิจ NGV แนวโน้มขาดทุนลดลง

Ø  ความเห็น เรามีมุมมองบวกต่อผลประกอบการไตรมาส 3/60 ของ PTT เนื่องจากธุรกิจโรงกลั่นค่าการกลั่นปรับตัวขึ้น อีกทั้งคาดว่าจะมีกำไรจากสต๊อกน้ำมันดิบหลังราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นมาในช่วงปลายเดือน ก.ย. อย่างไรก็ตาม 4Q60 ผลประกอบการกลุ่มโรงกลั่นมีแนวโน้มอ่อนตัวลงตามค่าการกลั่นที่ปรับตัวลงตามส่วนต่างน้ำมันเบนซินและดีเซลปรับตัวลง 21% และ 13% ตามลำดับจากต้นเดือน ก.ย. ที่ผ่านมา

Ø  SVI มีมติที่ประชุมคณะกรรมการ อนุมัติโครงการซื้อหุ้นคืนที่วงเงินไม่เกิน 1.4 พันล้านบาท เป็นจำนวนซื้อหุ้นคือไม่เกิน 200 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 8.83% ของจำนวนหุ้นจดทะเบียนทั้งหมด โดยกำหนดระยะเวลาการซื้อหุ้นคืนอยู่ที่ 18 ต.ค. 60 – 12 เม.ย. 61 โดยตามเกณฑ์ ราคาซื้อหุ้นคือจะต้องไม่เกินกว่า 115% ของราคาปิด 30 วันทำการย้อนหลัง ก่อนการมีมติ (21 ส.ค. 60 – 29 ก.ย. 60) หรือที่ 5.09 บาท

Ø  ความเห็น หากบริษัทสามารถซื้อหุ้นคืนได้ทั้งหมด EPS จะเพิ่มขึ้น 9.7%

Ø  TISCO (ราคาปิด 78.25 Bloomberg Consensus 79.91) รับโอนพอร์ตสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดไทย 4 หมื่นล้านเรียบร้อยแล้ว ดันพอร์ตสินเชื่อรวมโตกว่า 2.4 แสนล้าน เพิ่มขึ้น 20% เริ่มเดินหน้าทำเงินได้ทันที ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.นี้ (ที่มา ข่าวหุ้น)

Ø  ความเห็น 8M60 สินเชื่อหดตัว 4.4%YTD แต่ปลายปีสินเชื่อจะพลิกกลับเติบโตจากการรวมพอร์ตสินเชื่อดังกล่าว  ทั้งนี้ฝ่ายวิจัยมีมุมมองที่เป็นบวกจากสถานการณ์ NPL ที่ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วทำให้คชจ. สำรองหนี้สูญลดลง 32% ใน 1H60 Bloomberg คาดกำไรปี 60 ราว 6,175 ล้านบาท +23%

Ø  PACE ก.ล.ต. สั่งให้ชี้แจงข้อมูลภายใน 7 วันกรณีที่บริษัททำข้อตกลงกับผู้ลงทุน 3 รายที่มีผลผูกพันให้ PACE ต้องรับซื้อหุ้นบุริมสิทธิบางส่วนคืนจากคู่สัญญา โดยให้ชี้แจงว่าจะมีผลกระทบต่อภาระหนี้สินหรือภาระผูกพันอื่นของ PACE หรือไม่   ส่วนกรณีที่มีข่าวขายสิทธิในการดำเนินธุรกิจส่วนนอกประเทศสหรัฐอเมริกาให้กับกลุ่มเซ็นทรัล มูลค่าราว 50 ล้านเหรียญสหรัฐปัจจุบันยังไม่มีการแจ้งข้อมูลอย่างเป็นทางการต่อตลาดหลักทรัพย์

Ø  EGCO เผยโรงไฟฟ้าบ้านโป่ง  2 หน่วย ขนาดรวม 256 MW ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ถือหุ้นอยู่ 100% เริ่ม COD แล้ว,รับรู้รายได้ตั้งแต่ Q4/60

Ø  บอร์ด LPH ไฟเขียวแผนขายที่ดิน 11 ไร่ มูลค่ารวม 191 ล้านบาท ให้ “แอล.พี.โฮลดิ้ง” และ “ลาดพร้าวการศึกษา” กำหนดเปิดประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นเพื่อขออนุมัติ 13 พ.ย.นี้

Ø  TWPC เข้าซื้อหุ้น 33.33% ใน TDC ผู้ผลิต-จำหน่ายแป้ง Modified Starch ต่อยอดผลิตภัณฑ์แป้งมัน