ตร.สหรัฐค้นบ้านมือปืนลาสเวกัสพบปืนเพียบ

ตร.สหรัฐค้นบ้านมือปืนลาสเวกัสพบปืนเพียบ

ตำรวจสหรัฐค้นบ้านมือกราดยิงเมืองลาสเวกัส พบปืนและอุปกรณ์ทำระเบิดเพียบ ด้านโฆษก “โดนัลด์ ทรัมป์” บอก ยังไม่ใช่เวลาพูดถึงกฎหมายควบคุมปืน

นายท็อดด์ ฟาซูโล ผู้ช่วยหัวหน้าตำรวจท้องถิ่นเผยว่า เจ้าหน้าที่ได้บุกค้นบ้านหนึ่งในสองหลังในเมืองเมสไควท์ รัฐเนวาดาของนายสตีเฟน เครก แพดด็อก อดีตพนักงานบัญชีวัย 64 ปี ซึ่งก่อเหตุกราดยิงใส่ฝูงชนนับหมื่นคนในคอนเสิร์ตลาสเวกัสเมื่อคืนวันอาทิตย์ (1 ต.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น จนมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 59 คนและบาดเจ็บกว่า 500 คน พบปืนอีก 19 กระบอก รวมถึงอุปกรณ์ผลิตระเบิดจำนวนหนึ่ง หลังก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่พบปืนอย่างน้อย 23 กระบอก ซึ่งรวมถึงปืนไรเฟิลอยู่ภายในห้องโรงแรมที่นายแพดด็อกเข้าพัก

ทางการสหรัฐยังไม่ปักใจที่กลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) ออกมาอ้างว่า นายแพดด็อกเป็นทหารของกลุ่ม และแม้จะยังไม่ทราบแรงจูงใจของเขา แต่การสังหารหมู่ครั้งเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐนี้ ทำให้กฎหมายควบคุมอาวุธปืนถูกหยิบมาถกเถียงอย่างร้อนแรงอีกครั้ง

ตำรวจพบว่า นายแพดด็อกตัดสินใจปลิดชีพตัวเองก่อนที่หน่วยสวาทจะบุกขึ้นไปถึงห้องที่เขาใช้ก่อเหตุบนชั้น 32 ของโรงแรมมัณฑะเลย์ เบย์ บริเวณถนนลาสเวกัส สตริป

ขณะที่ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ ประณามเหตุกราดยิงครั้งนี้ว่า เป็นการกระทำเยี่ยง “ปิศาจร้าย” แต่ยังไม่พูดว่าจะแก้กฎหมายอาวุธปืนให้เข้มงวดขึ้นหรือไม่ และไม่เอ่ยถึงแรงจูงใจของเหตุสังหารหมู่ดังกล่าว

“ความเป็นเอกภาพของเราไม่อาจถูกทำลายได้ด้วยความชั่วร้าย ความผูกพันระหว่างเราจะไม่ถูกทำลายด้วยความรุนแรง” นายทรัมป์กล่าว

ด้านนางซาราห์ ฮักคาบี แซนเดอร์ส เลขาธิการฝ่ายสื่อมวลชนของทำเนียบขาว ระบุว่า “นี่ไม่ใช่เวลาสำหรับการเมือง” และว่าเป็นมุกเดิม ๆ ที่ฝ่ายสนับสนุนการถือครองปืนมักจะนำมาอ้างเวลาถูกสังคมกดดัน

“ยังมีเวลาและสถานที่ที่จะอภิปรายเรื่องการเมืองกันอีกเยอะ แต่ตอนนี้เป็นเวลาที่เราจะต้องรวมใจเป็นหนึ่งเดียว” นางแซนเดอร์สเสริม

เว็บไซต์ “แมสส์ชูตติงแทรคเกอร์ ดอท โออาร์จี” (massshootingtracker.org) ระบุว่า เฉพาะในปีนี้เกิดเหตุกราดยิงในสหรัฐแล้วกว่า 270 ครั้ง แต่ตัวเลขดังกล่าวยังเป็นที่ถกเถียง

ผลสำรวจล่าสุดของแกลลัป พบว่า ในแต่ละปีจะมีผู้เสียชีวิตเพราะความรุนแรงจากอาวุธปืนกว่า 33,000 รายในสหรัฐ และชาวอเมริกัน55% ต้องการให้ภาครัฐกำหนดเงื่อนไขในการซื้อปืนที่เข้มงวดขึ้น

ข้อมูลจากองค์กรติดตามการเมืองสหรัฐ (Center for Responsive Politics) ชี้ว่าสมาคมไรเฟิลแห่งชาติสหรัฐ (เอ็นอาร์เอ)เคยบริจาคเงิน 30 ล้านดอลลาร์อุดหนุนแคมเปญหาเสียงของนายทรัมป์ เมื่อปี 2559