ไป่ตู้ แอคเซส ผนึกพันธมิตรรุกธุรกิจใหม่

โดยเฉพาะ และเลือกปักธงที่ “ไทย”เป็นแห่งแรกด้วยบริการ“ไป่ตู้ แอคเซส” ช่วง 1 ปีที่ผ่านมาดึงดูดกลุ่มลูกค้าได้แล้วกว่า 100 ราย เตรียมเดินหน้าขยายพันธมิตรจับกลุ่มธุรกิจใหม่ที่มีโอกาสเติบโตตามเทรนด์ความสนใจของผู้บริโภคชาวจีน มีเป้าหมายเพิ่มลูกค้า 150-160 รายในปีนี้

พอล เฉิน ผู้จัดการทั่วไปไป่ตู้ประเทศไทย กล่าวว่า ไป่ตู้ แอคเซส มุ่งบริการ 3 ด้านหลัก คือ การทำตลาดออนไลน์ผ่านเสิร์ชเอนจิ้น (SEM : Search Engine Marketing) ที่มีไป่ตู้เป็นช่องทางหลักเข้าถึงลูกค้ากว่า 1,500 ล้านคนในจีน เพื่อทำให้ผลการค้นหาตรงกับความต้องการของผู้ใช้งานเป้าหมายได้ผลมากที่สุด, การสร้างคอนเทนท์ที่น่าสนใจบนสื่อสังคมออนไลน์ที่มีชื่อเสียงของจีนและบริการสร้างเนื้อหาโฆษณาผ่านกลุ่มผู้มีอิทธิพลประเภทต่างๆ (KOL : Key Opinion Leader)

ตั้งแต่เริ่มให้บริการเดือน ธ.ค. 2559 ซึ่งมีลูกค้าราว 100 ราย มีธุรกิจท่องเที่ยวครองส่วนแบ่งสูงสุดกว่า 80% ประกอบด้วยโรงแรม ร้านอาหาร แหล่งท่องเที่ยว ห้างสรรพสินค้า สปา  ที่เหลือเป็นกลุ่มอื่นๆ อาทิ ธนาคาร มหาวิทยาลัย กลุ่มเทคโนโลยีการสื่อสาร

“บริการใหม่จากไป่ตู้มีการตอบรับที่ดีในไทยนอกจากการเข้าถึงและรู้จักตลาดจีนอย่างดีแล้วยังมาจากการคัดสรรสื่อออนไลน์ระดับท็อป 10 ในการเข้าถึงลูกค้าและเน้นการให้บริการจับคู่ที่นำเสนอสินค้าตรงกลุ่ม”

โดยเฉพาะเทรนด์การใช้ผู้มีอิทธิพลหรือ KOL ไม่ได้มีเครือข่ายเฉพาะยอดคนที่มีผู้ติดตามจำนวนมากเท่านั้น แต่วางกลยุทธ์การเลือกทำงานด้วยเฉพาะกลุ่มระดับบน (Top Tier) ของแต่ประเภทความสนใจเช่นผู้มีอิทธิพลด้านการท่องเที่ยวอย่างบล็อกเกอร์อาจมีจำนวนหลากหลายแต่จากการศึกษาพบว่าจะมีเพียง 120 คน เท่านั้นที่ทรงอิทธิพลให้ผู้บริโภคตามรอยอย่างแท้จริงจึงเป็นกลุ่มที่ไป่ตู้เข้าไปประสานเพื่อช่วยให้เจ้าของผลิตภัณฑ์สร้างคอนเทนท์ร่วมกับ KOL เหล่านั้น

นอกจากนี้เทรนด์นักท่องเที่ยวปัจจุบันมีการเดินทางเที่ยวเอง 60% และทุก 10 คน จะมี  8 คน ที่ใช้ช่องทางออนไลน์ในการสืบค้นข้อมูลก่อนเดินทางท่องเที่ยวและตลาดไทยถือเป็นจุดหมายใหญ่ที่คาดการณ์จะมีนักท่องเที่ยวจีนเข้ามาถึง9.5ล้านคนดังนั้นธุรกิจที่ต้องการเข้าถึงกลุ่มนักท่องเที่ยวจีนจึงต้องหาช่องทางเข้าถึงมากขึ้น

แนวโน้มการบริโภคของชาวจีนที่ขยายความสนใจและมีเทรนด์ใหม่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ไปตู้แอคเซสเร่งขยายกลุ่มธุรกิจและพันธมิตรที่สนใจเจาะตลาดจีนเพิ่ม รวมถึงเตรียมออกแบบบริการใหม่ให้ครอบคลุมความต้องการของตลาดด้วย

พัชรพร สิริทรัพย์วงศ์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาดและประชาสัมพันธ์ไป่ตู้ประเทศไทย กล่าวว่า ความสนใจของลูกค้ามีอีก 3 กลุ่มที่ต้องจับตามองได้แก่ กลุ่มชาวจีนที่สนใจเดินทางต่างประเทศเพื่อรับบริการทางสุขภาพและการแพทย์ ข้อมูลปี 2559 พบว่า ตลาดนี้เติบโตขึ้น 500% เทียบปี 2558 โดย “ไทย” ติดอันดับ 9 ที่ชาวจีนเดินทางไปใช้บริการด้านการแพทย์สูงสุด

โดยเฉพาะเมื่อกฎหมายของประเทศจีนไม่อนุญาตให้บริการทางการแพทย์ทำการโฆษณาได้ดังนั้นธุรกิจประเภทนี้จึงยิ่งต้องแสวงหาช่องทางเข้าถึงลูกค้าในแบบอื่นๆ เช่น รีวิวผ่านคอนเทนท์ที่เป็นการนำเสนอบริการแบบแนบเนียนไปทางสื่อออนไลน์ต่างๆ

กลุ่มต่อมา อสังหาริมทรัพย์ เริ่มเบนเป้าหมายมาสู่ลูกค้าจีนมากขึ้น สังเกตจากส่วนแบ่งยอดขายโครงการคอนโดมิเนียมที่ส่วนใหญ่เคยมีลูกค้าจีนราว 5% ขยับเป็น 15-20% ในหลายโครงการ สุดท้าย กลุ่มคู่แต่งงานและฮันนีมูน ซึ่งในอดีตมีประวัติการค้นหาข้อมูลเฉพาะด้านนี้น้อยแต่ขณะนี้เริ่มสูงขึ้นมีพฤติกรรมคล้ายคนไทยคือเลือกโลเกชั่นเพื่อมาถ่ายทำพรีเวดดิ้งก่อนจัดงานแต่งงาน

กลยุทธ์ในการเข้าถึงตลาดจีนด้วย 3 รูปแบบ ที่ผู้ประกอบการต้องจับตามองที่สุดคือการใช้ KOL เนื่องจากเหมาะสมกับธุรกิจทั้งขนาดใหญ่ไปถึงเล็กต่างจากการใช้เสิร์ชเอนจิ้นที่อาจจะเหมาะกับองค์กรขนาดใหญ่ที่มีเว็บไซต์ภาษาจีนพร้อมรองรับการเชื่อมต่อข้อมูลมาเท่านั้นโดยการสร้างสัมพันธ์กับKOLระดับท็อปของจีนจะมีบริการนำผู้ทรงอิทธิพลที่มีความสนใจ“ตรง”กับกลุ่มสินค้าเท่านั้นเดินทางมาไทยเพื่อให้มีประสบการณ์โดยตรงและนำข้อมูลไปรีวิวผ่านช่องทางที่ตัวบุคคลนั้นมีอยู่และไป่ตู้จะช่วยขยายการเข้าถึงด้วยการนำคอนเทนต์นั้นไปฝังไว้กับเว็บออนไลน์ที่เป็นเครือข่ายเพิ่มด้วย

จาง อี้ ผู้จัดการฝ่ายการขายไป่ตู้ประเทศไทยกล่าวว่า ปีที่ผ่านมามีชาวจีนเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศ 122 ล้านคน แต่ไม่ถึง 10% ของประชากรทั้งหมด จึงมีโอกาสสำหรับธุรกิจในไทยอีกมากในการจับตลาดจีนที่พบว่าเมื่อเดินทางไปต่างประเทศจะใช้จ่ายสูงกว่าการเที่ยวในประเทศ 5.2 เท่าตัว