ร้อยดวงใจราษฎรถวายอาลัยในหลวง ร.9 เนืองแน่น

ร้อยดวงใจราษฎรถวายอาลัยในหลวง ร.9 เนืองแน่น

เหลืออีกเพียง 6 วัน ก็จะถึงวันที่ 5 ต.ค. ซึ่งเป็นวันสุดท้ายที่ สำนักพระราชวังเปิดโอกาสให้ประชาชนได้เข้าไปสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ภายในพระบรมมหาราชวัง

ก่อนที่ปิดเพื่อจะเตรียมการวนพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพต่อไป โดยแต่ละวันประชาชนจากทั่วประเทศก็ยังคงหลั่งไหลกันมาแสดงความอาลัยต่อในหลวง ร.9 อย่างไม่ขาดสาย แม้ว่าอากาศในช่วงกลางวันจะมีแดดร้อนจัดก็ตาม แต่ก็ไม่ทำให้ความตั้งใจของคนไทยลดน้อยลง

22007887_10155783209792855_4068540601328781821_n

น.ส.พัชราภรณ์ ไหลหลั่ง นิติกร อายุ 25 ปี กทม. กล่าวว่า เหตุการณ์ในครั้งนี้ แม้ว่าจะเป็นเรื่องเศร้า แต่ก็ต้องถือว่าเป็นเหตุการณ์ที่มีความสำคัญ ที่เราต้องมาให้ได้สักครั้งหนึ่งในชีวิต เพราะอย่างที่เรารู้ว่าในหลวงรัชกาลที่ 9 ท่านทรงเป็นที่รักของประชาชนคนไทย ถ้าถามว่าทำไมพระองค์ท่านเป็นที่รักขนากนั้น ก็เพราะว่าทุกย่างก้าวของพระองค์ท่าน ไม่ว่าไปที่ไหน ที่นั่นก็จะมีความเจริญ มีโครงการตามพระราชดำริเกิดขึ้นตลอดเวลา และในแต่ละที่ ที่ท่านได้เสด็จไปเป็นพื้นที่ยังไม่ได้รับการพัฒนา เป็นชนบท ท่านทรงเข้าไปรับฟังปัญหาของประชาชนอย่างใกล้ชิด กล่าวได้ว่าท่านทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่ทรงงานตลอดเวลา อย่างโครงการฝนหลวง ด้วยความที่เราเป็นลูกชาวนาเราก็เคยเห็นมาแล้วว่า โครงการนี้ช่วยชาวนาอย่างไรบ้าง

“ถ้าพูดถึงคำสอนของพระองค์ท่านแล้ว เรื่องของเศรษฐกิจพอเพียง ก็เป็นส่วนหนึ่งที่เรานำมาปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้ แต่อีกเรื่องที่สำคัญกับอาชีพเราก็คือ พระราชดำรัสที่พระราชทานให้กับผู้พิพากษา ที่มีความเป็นธรรมในการทำหน้าที่ ต่อให้กฎหมายดีอย่างไร แต่ถ้าคนใช้ไม่เป็นธรรม ก็ไม่ดี นอกจากนี้ความเป็นธรรมยังต้องมาพร้อมความรวดเร็วด้วย อีกไม่นานก็จะถึงพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ แต่ในความรู้สึกเราแม้ท่านจะจากไปเพียงร่างกาย แต่คำสอนของท่านยังอยู่กับเรา” น.ส.พัชราภรณ์ กล่าว

22007394_10155783209807855_3605867868478319665_n

นางวัชรา อุดมศิลป์ ข้าราชการ อายุ 52 ปี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ที่ผ่านมาพระองค์ท่านทรงงานหนักเยอะเพื่อลูกๆ ซึ่งก็คือประชาชนของเท่าน ถ้าเราไม่ได้มาสักการะพระบรมศพ เพื่อแสดงความเคารพ ก็เหมือนกับรู้สึกว่าเรายังไม่ได้ทำอะไรให้ท่านเลยสักครั้ง สำหรับโครงการหลวงต่างๆที่เกิดขึ้นจากพระราชดำริของท่านก็มีเยอะให้เห็นตั้งแต่เราเริ่มเรียนหนังสือ สำหรับเราแล้ว เรื่องของเศรษฐกิจพอเพียงสามารถปรับใช้กับชีวิตข้าราชการได้เป็นอย่างดี เพราะว่าอาชีพนี้เงินเดือนน้อย ถ้าไม่อยู่อย่างพอดีประหยัดแบบรู้ตัวเองก็อยู่ยาก รวมถึงการทำงานจะต้องมีความซื่อสัตย์ตามแนวทางของพระองค์ท่านด้วยด้วย

“เมื่อถึงพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพแล้ว ความรู้สึกเราก็คือท่านได้จากเราไปแล้ว แต่อย่างไรพระองค์ท่านก็จะอยู่ในใจเราเสมอ ซึ่งหมายความว่าต้องเอาคำสอนของท่านไปปฏิบัติตามด้วย แม้ว่าบางคำสอนจะเป็นเรื่องธรรมดาง่ายๆก็ตาม ไม่ใช่เพียงแค่รู้อย่างเดียวเท่านั้น” นางวัชรา กล่าว

22090020_10155785408037855_5052206590631612629_n

นางสุคนธ์ พฤกธารา ข้าราชการบำนาญ อายุ 63 ปี จ.นครปฐม มีความปลื้มใจที่ได้มากราบพระบรมศพในวันนี้ ส่วนตัวมองว่าท่านได้ทำอะไรหลายๆอย่างเพื่อให้ประชาชนมีความอยู่ดีกินดี ทรงเสด็จไปตามที่ต่างๆอย่างไม่ถือตัว และทรงเป็นกันเองกับประชาชนด้วยอย่างแนวคิดเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงที่ท่านได้ให้ไว้ ทำให้เรารู้จักคำว่าพออยู่พอกิน ไม่ฟุ่มเฟือย หลักการดังกล่าวจะยากง่ายนั้นก็อยู่ที่ใจของเราด้วย สำหรับเราแล้ว แม้ว่าท่านจะจากเราไปแล้ว แต่ความดีของพระองค์ท่านที่มีให้ประชาชนของพระองค์ จะเป็นที่ระลึกถึงอยู่ตลอดเวลา

นายสงกรานต์ ฟองธิวงค์ พนักงานบริษัทเอกชน อายุ 39 ปี มาจากจ.กำแพงเพชร เล่าว่า ผมรักท่านมาก เพราะท่านทรงทำเพื่อประชาชน ส่วนตัวเคยได้เข้าเฝ้าพระองค์ท่านครั้งสมัยเรียนมหาวิทยาลัย ตอนที่ท่านมาพระราชทานปริญญาบัตร ซึ่งแม้ว่าท่านจะไม่ได้สอนเราตรงๆ แต่ท่านทรงเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับเรา และเป็นแบบอย่างให้กับเกษตรกรทั่วประเทศด้วย ในเรื่องของการจัดการแหล่งน้ำ หรือหลายๆโครงการที่ท่านทรงศึกษา และดูแล โดยหลายๆอย่างที่ท่านทำ ถ้าเป็นนักการเมืองทำ ก็อาจจะมีแรงต่อต้าน หรือการค้านซึ่งกันและกัน แต่ในเมื่อท่านเป็นผู้ลงมือทำ ทุกๆฝ่ายก็พร้อมที่จะร่วมมือกับท่าน อย่างในพื้นที่ทุรกันดารหลายๆพื้นที่ ที่ตอนนี้เป็นพื้นที่โครงการหลวง ณ วันนี้เราไปเยี่ยมชมก็ไปได้ง่าย แต่ลองนึกถึงสมัยที่ท่านทำใหม่ๆ กว่าจะเข้าไปได้ต้องนั่งรถ 4WD ลุยป่าเขา

“คำสอนเรื่องพอเพียงของท่าน ไม่ได้หมายความว่าต้องไปทำเกษตรกรรมอย่างเดียว แต่หมายความว่าไม่ว่าเราจะทำอะไร ต้องเหมาะสมฐานะของเรา เช่น เราอาจจะมีรถเหมือนคนอื่นๆก็ได้ แต่รถคันนั้นก็จะต้องมีราคาไม่เกินกำลังฐานะเรา เป็นต้น ซึ่งคำสอนนี้ก็สามารถนำมาปรับใช้ได้ง่ายกับทุกๆคน”

นางสุพัตรา ทับทิมเงิน แม่บ้าน อายุ 62 ปี กทม. ส่วนตัวมากราบพระบรมศพแล้ว 17 ครั้ง และที่มาหลายๆครั้งก็เพราะว่าเรารักพ่อหลวง บางครั้งเคยรอนานร่วม 10 กว่าชั่วโมง แต่เราก็ทนได้ เพราะความตั้งใจที่มาหาท่าน และทุกๆครั้งที่อยู่เบื้องหน้าพระบรมโกศ ความเหนื่อยเราก็หายไปทันที โดยที่ผ่านมาท่านทรงเป็นแบบอย่างที่ดีในเรื่องของความประหยัดมาก จะเห็นได้จากการใช้หลอดยาสีฟัน รองเท้าก็เปลี่ยนส้นอยู่หลายครั้ง รงมถึงทานอาหารแบบพอดี โดยรวมคือตัวอย่างที่ดีเรื่องของพอเพียง นอกจากนี้ยังมีเรื่องของการทรงงานหนักอย่างอดทน ทุกที่ที่ท่านเสด็จไปนั้นมีความลำบาก ท่านก็ไม่บ่น ซึ่งเรื่องดังกล่าวถือเป็นแบบอย่าง และคำสอนให้กับประชาชนได้เป็นอย่างดี