รองเท้านาโน ไม่กลัวน้ำ-ปลอดกลิ่น

ผลงานวิจัยร่วมกันได้รับการต่อยอดเชิงพาณิชย์ในชื่อแบรนด์ คินซ์ (Kinz) ออกสู่ตลาดเมื่อ เม.ย.ที่ผ่านมา ชูจุดแข็งของอนุภาคนาโนซิลิกาที่ช่วยเคลือบกันน้ำและพื้นผิวระบายอากาศ ทำให้แห้งเร็วภายใน 15 นาที มีกลิ่นเบาบาง ปราศจากสารก่อมะเร็ง

คนรักรองเท้าหนัง

รัชนินทร์ รัตนภาหล กรรมการผู้จัดการ บริษัท คอร์ อินโนเวชั่น จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายสเปรย์กันน้ำแบรนด์ คินซ์ (Kinz) กล่าวว่า บริษัทจัดจำหน่ายสารเคมีกระทั่งเห็นเทรนด์ต่างประเทศที่มีการใช้งานสารเคมีสำหรับเคลือบกันน้ำในอุตสาหกรรมก่อสร้าง จึงสนใจนำเข้ามาจำหน่าย แต่เมื่อศึกษาตลาดกลับพบความต้องการใช้งานสารเคลือบกันน้ำในคนไทยเน้นอยู่ในกลุ่มเครื่องหนัง โดยเฉพาะรองเท้าหนังกลับและหนังนูบัค (หนังที่เกิดจากกรรมวิธีการฟอกชนิดพิเศษ ที่ทำมาจากแผ่นหนังวัวด้านนอก)

หนังกลับและหนังนูบัคเมื่อเปียกน้ำจะเกิดเป็นรอยเปื้อนที่ไม่สามารถแก้ไข ในขณะที่ประเทศไทยมีฝนตกหนักและบ่อย สร้างความเสียหายให้กับผลิตภัณฑ์เครื่องหนัง ทั้งอายุการใช้งานสั้นลง เกิดคราบสกปรกและเชื้อรา จึงเป็นโอกาสทางการตลาดที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์กันน้ำมาจำหน่าย

“ผมได้ค้นหางานวิจัยด้านเทคโนโลยีกันน้ำของไทย จนกระทั่งพบกับศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ (นาโนเทค) ที่มีผลงานวิจัยและเทคโนโลยีตรงตามที่ต้องการ จึงนำมาสู่การจับมือพัฒนาสเปรย์กันน้ำ” รัชนินทร์ กล่าว

นักวิจัยของนาโนเทคพัฒนาผลิตภัณฑ์สเปรย์กันน้ำสำหรับฉีดเคลือบผลิตภัณฑ์หรือเสื้อผ้าเฉพาะผิวนอก เพื่อให้มีคุณสมบัติกันน้ำในระยะเวลาหนึ่ง นอกจากกันน้ำแล้วยังช่วยกันฝุ่นที่เกาะในเส้นใยผ้า ลดการเกิดคราบสกปรกด้วย สเปรย์กันน้ำที่พัฒนาขึ้นนี้ เป็นสเปรย์เคลือบสะท้อนน้ำชนิดอนุภาคนาโนซิลิกาที่มีคุณสมบัติไม่ชอบน้ำอย่างยิ่งยวด พัฒนาให้อยู่ในรูปแบบฉีดพ่น ไม่มีกลิ่นฉุน แห้งเร็ว ไม่เหนียว สามารถใช้ฉีดผลิตภัณฑ์ได้หลากหลาย เช่น เสื้อผ้า รองเท้า หมวก

“เราใช้เวลาวิจัยและพัฒนากว่า 3 ปี ตั้งแต่ปี 2557 โดยดัดแปลงเครื่องสังเคราะห์อนุภาคนาโนซิลิกา และดัดแปลงกระบวนการผลิตที่เหมาะสม มีความท้าทายสำคัญคือ วิธีการสังเคราะห์นาโนซิลิกาที่เหมาะกับพื้นผิวที่หลากหลาย เพราะตั้งใจที่จะทำเป็นสเปรย์กันน้ำสำหรับรองเท้า ที่พื้นผิวของวัสดุมีความหลากหลาย ผ้าแต่ละชนิดก็แตกต่างกัน และทีมวิจัยก็สามารถทำได้สำเร็จ” รัชนินทร์ กล่าว

“สเปรย์กันน้ำสำหรับรองเท้าในตลาดมีหลากหลายแบรนด์ ในระดับราคาและคุณสมบัติแตกต่างกัน แต่ส่วนมากเป็นโพลีเมอร์ที่โมเลกุลใหญ่ อาจอุดตันทำให้เกิดกลิ่นอับในรองเท้า และยังใช้เวลานานนับชั่วโมงหลังฉีดสเปรย์จึงจะแห้งดี ขณะที่คินซ์มีเทคโนโลยีที่แตกต่างออกไป ทำให้ในระยะ 5 เดือนที่ผ่านมามีการตอบรับที่ดี” รัชนินทร์ กล่าว

พร้อมต่อยอดสู่ B2B

ปัจจุบัน คินซ์มีช่องทางจำหน่ายทั้งออนไลน์และออฟไลน์ ผ่านร้านรองเท้าและร้านลอฟท์ พร้อมทั้งวางสถานะของแบรนด์ไว้ในระดับพรีเมียมรองรับกลุ่มเป้าหมายที่มีกำลังซื้อสูง ทั้งยังมีลูกค้าจากประเทศเพื่อนบ้าน 20% ทำให้มองตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มประเทศซีแอลเอ็มวีเป็นเป้าหมายต่อไป

รัชนินทร์ กล่าวอีกว่า นอกจากตลาดค้าปลีกซึ่งยอดขาย 500 กระป๋องต่อเดือนแล้ว บริษัทเตรียมขยายสเปรย์กันน้ำนี้สู่ลูกค้ากลุ่ม B2B ที่นำไปประยุกต์ใช้กับเฟอร์นิเจอร์และสิ่งพิมพ์

“ตอนนี้เริ่มมีลูกค้าในกลุ่มโรงแรม 5 แห่งทดสอบใช้สเปรย์กันน้ำนี้กับผ้าม่าน เฟอร์นิเจอร์ รวมถึงงานไม้ที่ใช้ภายนอกอาคาร รวมถึงอุตสาหกรรมสิ่งพิมพ์ก็นำไปเคลือบกระดาษ ทำให้คาดว่าปี 2561 จะสามารถเติบโตได้ถึง 100% จากการเข้ามาของลูกค้า B2B”

นอกจากนี้ บริษัทจะมุ่งวิจัยและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ขณะนี้อยู่ระหว่างการพัฒนาผลิตภัณฑ์กลุ่มทำความสะอาดรองเท้า และผลิตภัณฑ์เคลือบกันน้ำบนกระจกและพื้นผิวต่างๆ คาดว่าจะออกสู่ตลาดได้ในเร็วๆ นี้