ไฟไหม้บ้านกลางเมืองกาฬสินธุ์ ปชช.ลุ้นหวั่นลุกลาม

ไฟไหม้บ้านกลางเมืองกาฬสินธุ์ ปชช.ลุ้นหวั่นลุกลาม

ไฟไหม้กลางเมือง หลังเจ้าของออกจากบ้านเพียง 30 นาที ไฟลุกท่วมวอดทั้งหลัง ขณะที่ชาวบ้านนับร้อยติดตามและลุ้นเหตุการณ์ไฟไหม้อย่างใกล้ชิด หวั่นลุกลามบ้านใกล้เคียงที่อยู่ติดกันเป็นชุมชนใหญ่

จากที่เวลา 22.30 น. วันที่ 26 ก.ย.60 นายสุวิทย์คำดีผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ ติดตามสถานการณ์เหตุเพลิงไหม้บ้านเรือนราษฎรในเขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ โดยมีพ.ต.ท.รังสรร ประคำ พนักงานสอบสวน เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ที่กำลังโหมไหม้ สลับกับเสียงระเบิดของข้าวของเครื่องใช้ไฟฟ้า ที่ดังออกมาเป็นระยะ ๆ รวมถึงเปลวเพลิงที่โหมไหม้อย่างรุนแรง ขณะที่บริเวณโดยรอบที่เกิดเหตุมีบ้านเรือนประชาชนอาศัยอยู่อย่างหนาแน่น

ประชาชนได้ออกจากบ้านเพื่อความปลอดภัยและเฝ้าสังเกตเหตุการณ์ซึ่งเจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ ระดมกำลังเจ้าหน้าที่และรถบรรทุกน้ำดับเพลิงสกัดกั้นเพลิงไหม้ตลอดแนวทางไฟท่ามกลางความลุ้นระทึกของชาวบ้านนับร้อยหวั่นไฟไหม้ลุกลามชุมชน

บ้านต้นเพลิงเป็นของนายสำเริง สุวรรณเรือง อายุ 52 ปี เลขที่ 116 ถนนเสน่หา ทม.กาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นบ้านครึ่งตึกครึ่งไม้ ระหว่างที่เกิดเหตุเจ้าของบ้านออกมารับประทานอาหารเย็นที่บ้านญาติ ออกจากบ้านมาเพียง 30 นาทีเท่านั้นก็เกิดเพลิงไหม้โดยนายสำเริง สวมเพียงกางเกงกีฬาขาสั้นตัวเดียวไม่สวมเสื้อยังอยู่ในอาการตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

นายสำเริง กล่าวว่า อาศัยอยู่บ้านหลังนี้คนเดียว โดยลูกชายอยู่ในกรมทหารโดยก่อนเกิดเหตุได้ออกจากบ้านมาเพื่อมารับประทานอาหารที่บ้านญาติห่างกันไม่ถึงร้อยเมตรที่ถือเป็นปกติประจำวันจนเวลาผ่านไปประมาณ 40 นาทีได้สังเกตเห็นกลุ่มควันพวยพุ่งออกมาจากทางบ้านของตัวเองจึงวิ่งกลับเข้าไปดูแต่ปรากฏว่าระหว่างนั้นเพลิงได้ลุกไหม้และลามทั่วบ้านทั้งหลังอย่างรวดเร็วสักพักเพื่อนบ้านได้โทรแจ้งไปยังหน่วยดับเพลิงเข้าระงับเหตุแต่ก็ไม่ทันการณ์ภาพที่เห็นคือไฟไหม้ลุกท่วมบ้านทั้งหลังทรัพย์สินมีค่าต่าง ๆ ไม่มีเหลือสักชิ้นเหลือเพียงกางเกงตัวเดียวที่ใส่ออกมาจากบ้านเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม เหตุเพลิงไหม้ที่เกิดขึ้นในเขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 2 ติดต่อกันโดยเมื่อวันที่ 25 ก.ย. ที่ผ่านมาได้เกิดเหตุเพลิงไหม้ร้านขายเฟรนฟรายด์ หน้าโรงเรียนกาฬสินธุ์พิทยาสิทธิ์ซึ่งยังอยู่ในระหว่างการสอบหาสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้และสำหรับกรณีไฟไหม้บ้านของนายสำเริงทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเข้าพิสูจน์หาสาเหตุ โดยเบื้องต้นบ้านเสียหายทั้งหมดทั้งหลังแต่ยังไม่สามารถประเมินเป็นมูลค่าได้เนื่องจากเจ้าของบ้านยังอยู่ในอาการตกใจไม่สามารถให้ปากคำกับทางเจ้าหน้าที่ได้