'ดีเอสไอ' ขยายผลออกเอกสารสิทธิ์2,000 ไร่ จ.พังงา

จากกรณีเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ เข้าตรวจสอบ บ้านพักหรู 2 หลัง ตั้งอยู่บนสันเขาในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าควนโต๊ะหลาและป่าแหลมซำ ต.คลองเคียน อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2560 ที่ผ่านมา ซึ่งมีข้อสงสัยว่า นส.3 ที่เป็นเอกสารสิทธิ์ยืนยันการครอบครองบนพื้นที่ภูเขา

โดยพบว่า บุคคลที่ปรากฏชื่อครอบครอง คือ นายบุญชัย เบจรงคกุล หรือ เจ้าสัวบุญชัย เจ้าของธุรกิจให้บริการเครือข่ายโทรคมนาคม และนายรัตน์ โอสสถานุเคราะห์ ทายาทตระกูลธุรกิจโอสถสภา โดยตามข้อมูลทั้ง 2 คน ครอบครองมานานกว่า 10 ปี โดยทาง ดีเอสไอ ได้เรียกผู้ที่มีชื่อปรากฏเข้ามาให้ข้อมูลแล้วในเบื้องต้น

ล่าสุดวันนี้ (26 ก.ย. 60) นายพิเชษฐ์ ทองศรีนุ่น ผอ.ศูนย์ปฏิบัติการป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดทางน้ำทางทะเลและชายฝั่ง กรมสอบสวนคดีพิเศษ พร้อมเจ้าหน้าที่ เข้าสำนักงานที่ดินอำเภอตะกั่วทุ่ง เพื่อขอเอกสารระวางสาระบบที่ดินบริเวณในเขตพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าควนโต๊ะหลาและป่าแหลมซำ ใช้ในการรวบรวมพยานเอกสารหลักฐาน พร้อมกล่าวว่า โดยในช่วงตรวจสอบแรกพบเฉพาะบนยอดภูเขาแต่ตอนหลังพบว่ามีพื้นที่อื่นเพิ่มเติม ซึ่งเอกสารที่ดิน ระวางที่ 46252 แผ่นที่ 50 พื้นที่น่าเชื่อว่าเป็นเขตภูเขา ซึ่งจะมีเอกสารแต่ละแปลงตามแนวระวางของที่ดิน ส่วนเอกสารระวางที่ 46252 แผ่นที่ 51 โดยทั้ง 2 ระวาง น่าเชื่อว่าเป็นเขตภูเขาและมีการออกเอกสาร นส.3 ก ทาง ดีเอสไอ จึงต้องมีการตรวจสอบที่ดินทุกแปลงตามที่กลุ่มเครือข่ายอันดามันร้องขอมาทาง ดีเอสไอ โดยระยะแรกพบว่ามี 14 แปลง รวมทั้งบ้านหรู 2 หลังบนภูเขาด้วย หลังจากได้ถ่ายทอดลงแผ่นที่ พบว่าเพิ่มขึ้นมาอีก 33 แปลง รวมเนื้อที่ประมาณ 2,000 ไร่ แต่ยังไม่ได้ระบุว่าใครเป็นผู้ต้องหาบ้าง เพียงแต่ตรวจสอบสถานะทางที่ดินให้ชัดเจนว่าการได้มาของที่ดินเป็นอย่างไร และมีการดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป