เวลานานไม่ใช่อุปสรรค ถวายความอาลัยต่อพ่อหลวง ร.9

เวลานานไม่ใช่อุปสรรค ถวายความอาลัยต่อพ่อหลวง ร.9

อีกเพียง 4 วัน ก็จะถึงวันสุดท้ายที่สำนักพระราชวังเปิดให้ ประชาชนได้เดินทางมาสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ภายในพระบรมมหาราชวัง

โดยบรรยกาศตลอดทั้งวันแม้ว่าจะมีแดดร้อนจัด แต่ประชาชนก็ไม่ย่อท้อ ทยอยเดินทางมาเรื่อยๆ จนมีแถวเต็มตลอด ซึ่งมีคนเป็นจำนวนมากที่เดินทางมาถึงตั้งแต่ช่วงเช้ามืดด้วย

22008381_10155777326372855_4025784770305812980_n

น.ส.วัศร์กมล เหมแก้ว ผอ.กองการศึกษา อบต.เทพาจังหวัดสงขลา อายุ 49 ปี จ.ยะลา กล่าวว่า ตนเดินทางมาถึงบริเวณสนามหลวงตั้งแต่เวลา 2.00 น. กว่าจะได้เข้าไปกราบกระบรมศพ ที่พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พระบรมมหาราชวัง ก็เวลาประมาณ 13.15 น. รวมเวลาที่รอแล้วก็ประมาณ 10 ชั่วโมงกว่าๆ แต่จำนวนชั่วโมงที่รอนานนั้นก็ไม่ได้ทำให้เรารู้สึกเหนื่อยมากแต่อย่างใด และทันทีที่ตนได้เข้าไปกราบเบื้องหน้าพระบรมโกศ แม้ว่าจะมีเวลาเพียงไม่กี่วินาทีก็ตาม แต่ความเหนื่อยล้าที่มีก็หายไป จิตใจสงบนิ่ง นึกถึงพระมหากรุณาธิคุณที่พระองค์ท่าได้ทำเพื่อประชาชนมากมาย ทั้งโครงการหลวง และแนวทางตามพระราชดำริของท่าน ที่ประชาชนคนไทยสามารถสานต่อคำสอนของท่าน อย่างในเรื่องการอดออมและเศรษฐกิจพอเพียง ที่เราได้สอนเด็กๆอนุบาลให้รู้จักอดออม และสานต่อคำสอนของพ่อหลวง แม้ว่าเราจะเป็นเพียงเศษเสี้ยวหนึ่ง แต่ถ้าเราช่วยกันทำตามคำสอน ก็จะเห็นผลกว้างได้

21950058_10155777325847855_7047875221607205796_o

นายเกรียงศักดิ์ เลิศปิติมงคล อาชีพค้าขาย อายุ 41 ปี จ.สระแก้ว กล่าวว่า ผมเดินทางมาถึงสนามหลวงตั้งแต่ตี 3 จนได้เข้าไปกราบพระบรมศพเมื่อช่วงบ่ายโมง แม้ว่าจะรอนานร่วม 10 ชม. ก็ต้องบอกว่าเหนื่อยบ้าง แต่ว่าทนได้เพราะตั้งใจมา เพราะทันทีที่ได้เข้าไปกราบพระบรมศพ ผมก็มีความปลาบปลื้มใจ มีความสุข เพราะวันนี้ได้ตั้งใจมาเพื่อกราบพระบรมศพ และรู้สึกหายเหนื่อยทันที สำหรับผมแล้ว พระองค์ท่านทรงเป็นที่พึ่งของประชาชน โครงการต่างๆของพระองค์ท่าน ทำให้ประชาชนอยู่ดีกินดีขึ้น ทั้งนี้คำสอนของพระองค์ท่านที่ตนได้ยึดถืออยู่ตลอดเวลาคือเรื่องจองเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งเป็นหลักที่ทำให้เราตระหนัก รู้จักประมาณตน อะไรประหยัดได้ก็ต้องทำ ถือเป็นหลักที่ใครๆ ก็ทำได้

21768468_10155777195737855_827645193120796315_n

นายจิรวัฒน์ จันทร์ศรี อาชีพค้าขาย อายุ 32 ปี จ.สระแก้ว กล่าวว่าผมเดินทางมาต่อแถวตั้งแต่ช่วงเวลาตี 3 รอเป็นเวลานานจนถึงบ่ายโมงกว่าๆถึงจะได้เข้าไปกราบพระบรมศพ โดยระหว่างรอก็มีความเหนื่อยล้าเพราะว่าออกจากบ้านที่ตั้งแต่เวลาเที่ยงคืนด้วย แต่เมื่อได้เข้าไปกราบพระบรมศะ แม้เพียงไม่กี่วินาทีก็หายเหนื่อยเอง สำหรับผมแล้วความประทับใจที่มีต่อพระองค์ท่านก็คือ ที่ผ่านมาท่านทรงงานหนักเพื่อประชาชนมาก เห็นได้จากเรื่องของการทำฝายชะลอน้ำ เขื่อน หรือโครงการหลวงต่างๆ ที่ทรงทำเพื่อประชาชน โดยมีประโยชน์ต่อชาวสวนและชาวนาเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ยังมีคำสอนแนวคิดเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง ที่ยังเป็นหลักสามารถปฏิบัติได้จริง อยู่แบบพอดี ประมาณตนไม่อดอยาก หรืออย่างแนวคิดเรื่องของการแบ่งพื้นที่ทำกินตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง 30 : 30 : 30 : 10 ก็เป็นทฤษฎีที่คนไทยทำได้ง่าย

“ผมมีความรู้สึกใจหาย เมื่อใกล้ถึงช่วงพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ ใจของผมไม่อยากให้พระองค์ท่าจากไป อยากให้อยู่กับเรานานๆ”

นางเบญญาภา สุขแสวง ธุรกิจส่วนตัว อายุ 38 ปี จ.ระยอง กล่าวว่าเราเดินทางมาถึงสนามหลวงตั้งแต่ตี 3 รอเป็นเวลานานจนเวลา 13.50 น. ถึงได้เข้ากราบพระบรมศพ ก็กล่าวได้ว่ามีความเหนื่อยล้าอยู่พอควร แม้ว่าจะเตรียมใจมาแล้วบ้าง แต่ความรู้สึกที่เราอยู่หน้าพระบรมโกศ ก็รู้สึกหายเหนื่อยทันที ใจจริงเราอยากอยู่นานกว่านี้ แต่เข้าใจว่าคนเยอะ ก็เลยมีเวลากราบพ่อหลวง ร.9 เพียงเวลาสั้นๆ นาทีนั้นเราก็รู้สึกเลยว่า ความตั้งใจตลอดทั้งวันก็สำเร็จแล้ว สำหรับความรู้สึกที่มีต่อในหลวง ร.9 นั้น ตนไม่สามารถอธิบายเป็นคำพูดได้ แต่รู้สึกตื้นตันใจทุกครั้งเพียงแค่คิดถึงพระองค์ท่าน โดยคำสอนที่เรายึดถือมาตลอดคือเศรษฐกิจพอเพียง และรู้จักให้ รู้จักรับผิดชอบต่อหน้าที่ ถือเป็นหลักที่ใช้ได้จริงและง่าย ไม่ต้องคิดอะไรซับซ้อน มีความสมเหตุสมผลในตัว

นายพุทธินันทน์ ธนภัทร์ ข้าราชการเกษียณ อายุ 69 ปี จ.ราชบุรี วันนี้ตนเดินทางมาแสดงความความเคารพต่อพระองค์ท่าน มีความต้นตันใจ เชื่อว่าทุกคนที่เดินทางมาสนามหลวงวันนี้ ก็มีความรู้สึกแบบเดียวกน และเชื่อว่าภายหลังที่สำนักพระราชวังประกาศว่าวันที่ 30 ก.ย. เป็นวันสุดท้าย ประชาชนก็จะมาเป็นจำนวนมากแน่ๆ เพราะต้องรีบออกมา สำหรับผมแล้วมีความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ แม้ว่าตนจะรับข้าราชการ แต่ก็ไม่ได้มีโอกาสใกล้ชิดพระองค์ท่านเท่านี้มาก่อน เพราะที่ผ่านพระองค์ท่านทรงงานใกล้ชิดกับประชาชนในชนบทเยอะ ตนจึงรู้สึกเทิกทูลพระองค์ท่านทำเพื่อประชาชน โดยจะเห็นได้จากประราชกรณียกิจที่เห็นตามสื่อต่างๆ ซึ่งพระองค์ทำมากกว่านั้น

“เรื่องของคำสอนของท่านที่ผมนำมาใช้คือ เรื่องของการอดออม เศรษฐกิจพอเพียง เพราะเรื่องนี้ตนทำได้ตั้งแต่ได้ทำงานมีเงินเดือนใหม่ๆ อดออมจากเงินที่ได้ เพราะถ้าเราไม่เริ่มเก็บเงิน อนาคตก็จะลำบาก ดังนั้นจะเห็นได้ว่าหลักพอเพียงทำได้ง่ายจริง แต่ถ้าจะหวังร่ำรวยคงจะไม่เกิดผลแน่ๆ ทั้งนี้ผมรู้สึกใจหายที่อีกไม่กี่วันจะถึงวันพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ ผมคงไม่ได้เห็นภาพการทรงงานของท่านที่ใกล้ชิดประชาชนแบบนี้อีก”