เร่งหาหลักฐานประกอบสำนวนตร.พา 'ยิ่งลักษณ์' หนี

เร่งหาหลักฐานประกอบสำนวนตร.พา 'ยิ่งลักษณ์' หนี

"รองผบช.น." สั่งเร่งหาพยานหลักฐานประกอบสำนวน "รองผบก.น." ขับรถพา "ยิ่งลักษณ์" หนี ลั่นให้ความเป็นธรรม ชี้หากผิดวินัย-อาญาเรียกเจ้าตัวชี้เเจงทันที

ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.ภาณุรัตน์ หลักบุญ รองผบช.น. พ.ต.อ.มานพ น่วมลิวงศ์ รองผบก.น.5 พ.ต.อ.รวิโรจน์ เปล่งศรียศภัทร รรท.ผกก.(กลุ่มงานสอบสวน) บก.สส.บช.น. พ.ต.ท.ภูริส จินตรานันท์ รองผกก.สส.บก.น.5 พ.ต.ต.อรุณ เลิศศักดิ์เกษตร สว.(สอบสวน) สน.วัดพระยาไกร ร่วมประชุมคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงเพื่อสืบสวน กรณีมีเหตุอันควรสงสัยว่า พ.ต.อ.ชัยฤทธิ์ อนุฤทธิ์ รองผบก.น.5 มีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับการนำรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้ารุ่นแคมรี่ สีเทา ติดแผ่นป้ายทะเบียน ฌข 5323 กรุงเทพมหานคร ซึ่งจากการตรวจสอบไม่พบหมายเลขทะเบียนรถดังกล่าวในสารบบของกรมการขนส่งทางบก ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจยึดได้ที่บริเวณใต้อาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ แขวงปทุมวัน เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 22 ก.ย.2560 เวลาประมาณ 23.30 น. ตามคดีอาญาของสน.ปทุมวันที่ 997/2560 ลงวันที่ 22 กันยายน 2560 ที่ผ่านมา

พล.ต.ต.ภาณุรัตน์ หลักบุญ รองผบช.น. ฐานะประธานกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาพล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผบ.ตร. ได้สั่งการให้ดำเนินการตรงไปตรงมา ยึดระเบียบแบบแผนตามกฎหมายและระเบียบแบบแผนตามสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) อย่างเคร่งครัด และแสวงหาพยานหลักฐานให้ครบถ้วนคำสั่งที่อยู่ในมือค่อนข้างสั้น บอกเพียงแค่พ.ต.อ.ชัยฤทธิ์มีพฤติการณ์นำรถยนต์คัมรี่ต้องสงสัยซึ่งไม่มีในสารบบ แต่เมื่อตรวจสอบรายละเอียดค่อนข้างต่อเนื่องเกี่ยวข้องกับหลายฝ่ายต้องเคร่งครัดในการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อให้ความเป็นธรรมเกิดขึ้น ส่วนการเชิญตัวรองผบก.น.5 มาให้ปากคำนั้น ตามระเบียบทางพล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. เป็นผู้ดำเนินการแต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงขึ้นมา ทางผบช.น.จะต้องทำหนังสือให้พ.ต.อ.ชัยฤทธิ์ ชี้แจงข้อเท็จจริงขึ้นมา ตนมีหน้าที่ตั้งแต่ตั้งเรื่อง รวมถึงสอบพยานแวดล้อมต่างๆ หลังจากนั้นถ้าเห็นว่าการกระทำของพ.ต.อ.ชัยฤทธิ์ มีความผิดวินัยหรือทางอาญาอะไรอย่างไรถึงจะเรียก พ.ต.อ.ชัยฤทธิ์มาชี้แจง การตรวจสอบข้อมูลทั้งหมดอยู่ในรายละเอียดยืนยันว่าจะต้องแสวงหาพยานหลักฐานทุกอย่างให้ครบถ้วนเพื่อให้เกิดความเป็นธรรม

เมื่อถามว่า กรณีศาลมีคำสั่งให้อดีตนายกรัฐมนตรีห้ามออกนอกประเทศแต่การขับรถไปมีเจตนาหรือไม่นั้น พล.ต.ต.ภาณุรัตน์ กล่าวว่า ต้องตรวจสอบรายละเอียดให้แน่ชัดอีกครั้ง เนื่องจากอดีตนายกรัฐมนตรีเป็นจำเลยในคดีรับจำนำข้าวศาลให้ประกันตัวโดยมีเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกประเทศ รายละเอียดดังกล่าวต้องให้ทางพ.ต.อ.ชัยฤทธิ์ เป็นผู้ชี้แจง อย่างไรก็ตาม สาเหตุที่มีการเปลี่ยนคณะกรรมการนั้น เพื่อเติมเติมสำนวนให้สมบูรณ์และครบถ้วนมากยิ่งขึ้น ส่วนประเด็นที่เกี่ยวข้องนั้น รายละเอียดในคำสั่งมีสั้น ใช้คำว่าพฤติการณ์ ก็จะมีเรื่องราวเกี่ยวข้องกับรองผบก.น.5 อะไรอย่างไรกับใครเมื่อไร่ ตรงส่วนนี้พล.ต.อ.ศรีวราห์ ได้สอบปากคำไว้ทั้งหมดแล้วเป็นแฟ้มให้ตนมา ตนก็จะมาดำเนินการเติมเต็มในส่วนที่ยังไม่มีให้สำนวนมากขึ้น ส่วนตำรวจอีก 2 นายที่เกี่ยวข้องอาจจะสอบปากคำเพิ่มเติมไว้เป็นพยานแต่ในส่วนของการกระทำผิดทางวินัยต้องให้ทางต้นสังกัดเป็นผู้ดำเนินการตรวจสอบต่อไป