ปล่อยตัวแพะวิ่งราวเพชรพ้นคุกเย็นนี้!!

ปล่อยตัวแพะวิ่งราวเพชรพ้นคุกเย็นนี้!!

"รองปลัดยธ." ชี้จุดบกพร่องคดีแพะวิ่งราวเพชร ตำรวจสอบสวนไม่สิ้นกระแสความ จับคนร้ายไม่ได้ คนบริสุทธิ์ติดคุกเกือบ 200 วัน

พ.ต.อ.ดุษฎี อารยวุฒิ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม กล่าวภายหลังศาลอาญาธนบุรีมีคำพิพากษายกฟ้องนายพิสิษฐ์ สุวรรณพิมพ์ พ่อค้าขายข้าวเหนียวไก่ทอด ซึ่งตกเป็นจำเลยในข้อหาร่วมกันวิ่งราวทรัพย์ ซึ่งเป็นเพชรมูลค่ากว่า 15 ล้านบาท และหน่วงเหนี่ยวกักขังว่า เบื้องต้นนายพิสิษฐ์ จะได้รับเงินเยียวยาจากการถูกจำคุกโดยศาลกฟ้องตามพ.ร.บ.กองทุนยุติธรรม ซึ่งกำหนดให้ช่วยเหลือผู้ถูกละเมิดสิทธิเสรีภาพหรือผู้ได้รับผลจากการถูกละเมิด วันละ 500 บาท โดยนายพิสิษฐ์ถูกคุมขังอยู่ประมาณ 200 วัน เป็นจำนวนเงินชดเชยกว่า 1 แสนบาท โดยส่วนตัวเห็นว่าเงินเยียวยาจำนวนดังกล่าวไม่สามารถชดเชยการถูกคุมขังเป็นเวลาเกือบ 1 ปีได้ เนื่องจากต้องเสียค่าทนายความ ค่าเดินทาง รวมถึงเสียโอกาสในการทำมาหากิน และค่าใช้จ่ายอื่นๆ

สำหรับคดีดังกล่าวกระทรวงยุติธรรมเข้ามาให้ความช่วยเหลือภายหลังน.ส.ดารีวรรณ พ่อวงค์ ช่างเสริมสวยชาวนครพนม ภรรยาของนายพิสิษฐ์มาร้องทุกข์ต่อกระทรวงยุติธรรม ตั้งแต่เดือน พ.ค.60 เพื่อขอให้ช่วยเหลือด้านคดีความและการประกันตัว กระทรวงยุติธรรมจึงได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่สืบสวนหาข้อเท็จจริงเพื่อนำมาหักล้างกับข้อกล่าวหา และได้ยื่นหลักฐานใหม่ต่อศาลจนนำไปสู่การพิพากษายกฟ้องและปล่อยตัวในวันนี้. โดยเวลา 16.00 น. ตนและเจ้าหน้าที่จะเดินทางไปเรือนจำพิเศษธนบุรีเพื่อรอรับตัวนายพิสิษฐ์

"ข้อบกพร้องของคดีนี้เกิดจากตำรวจสอบสวนไม่สิ้นกระแสความและไม่สามารถติดตามคนร้ายตัวจริงมารับโทษได้ จึงส่งผลกระทบต่อผู้บริสุทธิ์ ส่วนการฟ้องกลับเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้น กระทรวงยุติธรรมไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเป็นเรื่องของผู้เสียหายว่าจะดำเนินการอย่างไร กระทรวงยุติธรรมทำหน้าที่เพียงแสวงหาข้อเท็จจริงเพื่อนำมาประกอบการพิจารณาของศาล เพื่อช่วยเหลือผู้บริสุทธิ์ให้พ้นโทษเท่านั้น" รองปลัดกระทรวงยุติธรรมกล่าว

สำหรับคดีดังกล่าวเกิดขึ้นตั้งแต่เดือนก.พ. 2560 โดยนายพิสิษฐ์ถูกตำรวจนำหมาายจับของศาลไปแจ้งข้อกล่าวหาว่าร่วมกันวิ่งราวทรัพย์และหน่วงเหนี่ยวกักขัง และนำตัวออกจากจ.นครพมาสอบสวนที่กรุงเทพฯ ซึ่งก่อนหน้านี้ภรรยาของนายพิสิษฐ์ เคยยื่นขอประกันแต่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ แต่ศาลมีคำสั่งให้ยกคำร้องเนื่องจากมูลค่าความเสียหายสูงถึง 15 ล้านบาท รวมถึงผู้เสียหายยืนยันว่านายพิสิษฐ์เป็นผู้วิ่งราวเพชรไป ทั้งที่นายพิสิษฐ์ได้นำหลักฐานเป็นใบรับรองแพทย์ยื่นต่อศาลว่าในวันเกิดเหตุอยู่ในจ.นครพนม ซึ่งเป็นคนละพื้นที่กับที่เกิดเหตุ