เลิกให้IRPCใช้ที่บ้านแลง สั่งผู้ว่าฯทั่วปท.ตรวจใช้ที่สาธารณะ

เลิกให้IRPCใช้ที่บ้านแลง สั่งผู้ว่าฯทั่วปท.ตรวจใช้ที่สาธารณะ

รมว.มหาดไทย ดับเผือกร้อน! เลิกให้ "ไอร์อาร์พีซี" ใช้ที่ดินบ้านแลงหลังชาวบ้านคัดค้าน ชี้อาจเร็วไปที่จะสรุป "ขรก." ผิด ปมชงเรื่องไฟเขียว "ป่าห้วยเม็ก" สั่งผู้ว่าฯทั่วปท.ตรวจสอบขอใช้ที่สาธารณะทุกพื้นที่

เมื่อวันที่ 26 ก.ย. 60 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบคำสั่งอนุมัติให้ บริษัท เคทีดี พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (กระทิงแดง) ใช้ที่ดินสาธารณะที่ขึ้นทะเบียนเป็นป่าชุมชนห้วยเม็ก อ.อุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น ว่า ขณะนี้กรมที่ดินได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบในชั้นแรกพบว่า เรื่องนี้มีการคัดค้านของประชาชนในพื้นที่ตั้งแต่แรก และก็ทราบว่า ทางบริษัทได้ขอยกเลิกการขอใช้ที่ดินไปแล้ว อย่างไรก็ตาม ได้มอบหมายให้ปลัดกระทรวงมหาดไทยตั้งคณะกรรมการสอบสวนหาข้อเท็จจริงว่า ทำไมจึงมีการเสนอเรื่องขึ้นมา ทั้งที่ในพื้นที่มีประชาชนคัดค้าน โดยทั้งหมดต้องว่าไปตามกฎหมาย หากพบว่าทำผิดไม่ว่าจะเป็นการให้ข้อมูลไม่ครบถ้วน หรือไม่ให้ข้อเท็จจริงในการพิจารณา ก็ต้องถูกดำเนินการตามกฎหมาย ส่วนจะสรุปว่าข้าราชการเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องหรือกระทำความผิดเกี่ยวกับเรื่องนี้หรือไม่ อาจจะเร็วไปหน่อยที่จะสรุปเรื่องนี้

พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวอีกว่า เมื่อสัปดาห์ก่อนยังได้สั่งการให้หน่วยงานในพื้นที่ตรวจสอบการใช้ที่ดินในพื้นที่อื่นของจ.ขอนแก่น ล่าสุดได้รับรายงานว่า นายอำเภออุบลรัตน์ ได้แจ้งความดำเนินคดีกับบริษัทเอกชนอีกแห่งหนึ่ง หลังจากพบว่ามีทำโรงงานปิดทางคร่อมระหว่างแปลงทับทางสาธารณะในพื้นที่ แต่ไม่ใช่พื้นที่บริเวณป่าชุมชนห้วยเม็ก เบื้องต้นบริษัทดังกล่าวได้รับทราบแล้ว และกระบวนการหลังจากนี้เป็นหน้าที่ของตำรวจในการสอบสวนหาความจริงต่อไป

พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ส่วนกรณีที่มีการคัดค้านการใช้ประโยชน์ที่ดินสาธารณะของบริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) ในพื้นที่บ้านแลง จ.ระยอง ว่า หลังจากได้ตรวจสอบพบว่าเรื่องนี้เริ่มต้นมาหลายปีแล้ว โดยประชาชนได้ไปร้องคัดค้านต่อศาลแล้ว ตนได้สั่งการให้ผู้ว่าฯ ระยอง ในฐานะผู้อนุมัติได้ทำการพิจารณาเพิกถอนการใช้พื้นที่ดังกล่าว เพื่อทำการตรวจสอบหาข้อเท็จจริงว่าทำไมจึงมีการเสนอเรื่องดังกล่าวขึ้นมา ทั้งที่ประชาชนในพื้นที่ได้ออกมาคัดค้าน

พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวอีกว่า นอกจากนั้น ยังได้สั่งการให้ผู้ว่าฯ จังหวัดทุกพื้นที่ พิจารณาเพิกถอนการใช้ประโยชน์ที่ดินสาธารณะทันที หากมีการคัดค้านจากมวลชน ซึ่งได้กำชับต่อไปว่า หลังจากนี้ต้องให้ความสนใจในการขออนุญาตการใช้ที่ดินสาธารณะของภาคเอกชนเป็นพิเศษ ซึ่งต้องพิจารณาให้ชัดเจนว่าไม่มีการคัดค้านจากในพื้นที่ และยังได้สั่งการให้มีการตรวจสอบย้อนหลังการใช้ประโยชน์ที่ดินสาธารณะของภาคเอกชนทั้งหมด ว่าได้ดำเนินการถูกต้องตามกระบวนการหรือไม่ ถ้าพบว่าไม่ถูกต้องก็ให้พิจารณาเพิกถอนทันที ทั้งนี้ ภาคธุรกิจและการลงทุนอาจจะมีผลกระทบบ้าง